มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งแรงและทองคำทะยาน 24 ดอลลาร์ในวันศุกร์(3ม.ค.) หลังสหรัฐฯโจมตีทางอากาศในอิรัก ปลิดชีพผู้บัญชาการทหารระดับสูงของอิหร่าน กระพือความกังวลซ้ำเติมสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ปัจจัยนี้ประกอบกับความกังวลทางเศรษฐกิจ ฉุดวอลล์สตรีทปิดลบหนัก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.87 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สหรัฐฯปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในแบกแดดตอนเช้าวันศุกร์(3ม.ค.) ปลิดชีพ กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ "คุดส์" ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทางทหารทรงอิทธิพลที่สุดของเตหะรานและเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการแผ่ขยายอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลาง
เพนตากอนระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ออกคำสั่งโจมตีทางอากาศในปฏิบัติการป้องกันตัว โดยกล่าวอ้างว่า โซไลมานี มีแผนสั่งการโจมตผู้แทนทูตและกำลังพลของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง
มีความกังวลปฏิบัติการครั้งนี้ของสหรัฐฯอาจโหมกระพือความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งมันจะกระทบต่ออุปทานพลังงาน ด้วยอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศกร้าวว่าจะล้างแค้น "อาชญากร" ที่ฆ่าโซไลมานี ครั้งนี้อย่างรุนแรง
ความกังวลต่อสถานการณ์ที่อาจลุกลามบานปลาย กรณีที่อิหร่านประกาศแก้แค้นให้โซไลมานี กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันศุกร์(3ม.ค.)พุ่งทะยาน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 24.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,552.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐฯที่หดตัวเกินคาดหมาย ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบหนักในวันศุกร์(3ม.ค.) ขยับลงจากระดับสูงสุดตลอดกาล
ดาวโจนส์ ลดลง 233.92 จุด (0.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,634.88 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 23.00 จุด (0.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,234.85 จุด แนสแดค ลดลง 71.42 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,020.77 จุด
ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ระบุว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯปรับตัวลงสู่ระดับ 47.2 ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2009 จากระดับ 48.1 ในเดือนพฤศจิกายน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.0
ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 5 โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน