เอเจนซีส์ – อิหร่านปฏิเสธไม่ได้ปิดบัง หลังใช้เวลาหลายวันกว่าจะสารภาพว่า พลาดสอยเครื่องบินพาณิชย์ยูเครนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยคนเมื่อวันพุธ (8) และจุดชนวนการประท้วงภายในประเทศรุนแรงต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้โฆษกรัฐบาลยังตอบโต้ทรัมป์ โดยบอกว่า ชาวอิหร่านจดจำได้ว่า ผู้นำสหรัฐฯ เป็นคนสั่งฆ่าโซไลมานี รวมทั้งเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนมากมายต้องเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจเตหะรานยันตำรวจไม่ได้ยิงผู้ประท้วงตามคลิปที่ว่อนในโลกโซเชียลขณะนี้
อิหร่านยกระดับการรักษาความปลอดภัยในกรุงเตหะรานหลังประชาชนลุกฮือประท้วงเมื่อคืนวันเสาร์ (11) และตำรวจควบคุมตัวเอกอัครราชทูตอังกฤษชั่วคราวก่อนปล่อยตัวในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตเตือนอิหร่านไม่ให้ปราบปรามผู้ประท้วงด้วยความรุนแรงเหมือนที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจากการชุมนุมประท้วงการขึ้นราคาน้ำมัน ซึ่งถือเป็นการปราบปรามครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การปฏิวัติในปี 1979 โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยอิหร่าน 3 คนเผยว่า มีประชาชนถูกฆ่าตายราว 1,500 คนในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ทว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุตัวเลขเพียงหลักร้อย และรัฐบาลอิหร่านประณามว่า เป็นข่าวปลอม
หลังจากนั้น ทรัมป์ทวิตอีกครั้งว่า ไม่สนใจว่า อิหร่านจะยอมกลับสู่โต๊ะเจรจาหรือไม่ หลังจากโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวชี้ว่า การแซงก์ชันและการประท้วงทำให้เตหะรานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฟื้นการเจรจากับวอชิงตัน
อย่างไรก็ตาม มาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า ทรัมป์ยังยินดีฟื้นการเจรจากับอิหร่านโดยไม่มีเงื่อนไข
**หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ**
ขณะเดียวกัน จากที่เคยยืนกรานปฏิเสธการเจรจาจนกว่าวอชิงตันจะยกเลิกมาตรการแซงก์ชัน ล่าสุดเตหะรานแสดงทีท่าว่า ต้องการผ่อนคลายความตึงเครียดที่ปะทุขึ้นหลังจากอเมริกาส่งโดรนสังหารพลตรีกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ของอิหร่าน เมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมาในแบกแดด
ในการหารือระหว่างประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีของอิหร่าน กับ ชัยค์ ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ตานี ผู้ปกครองกาตาร์ที่เดินทางไปเยือน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การผ่อนคลายการเผชิญหน้าโดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและการเจรจาเป็นทางออกเดียวสำหรับวิกฤตการณ์ตะวันออกกลางในขณะนี้
รูฮานีสำทับว่า เตหะรานตัดสินใจที่จะใช้การเจรจาและการร่วมมือมากขึ้นเพื่อความมั่นคงของตะวันออกกลางโดยรวม
แม้กาตาร์เป็นที่ตั้งฐานทัพใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางของสหรัฐฯ แต่ก็มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอิหร่าน โดยมีการใช้ประโยชน์จากแหล่งก๊าซธรรมชาติใหญ่สุดของโลกร่วมกัน
ผู้นำอิหร่านยังให้การต้อนรับชาห์ เมห์มูด กูเรชี รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานที่เสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างอิหร่าน กับ ซาอุดีอาระเบีย ผู้เป็นพันธมิตรของอเมริกา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น เตือนระหว่างพบกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอาทิตย์ว่า ความขัดแย้งทางการทหารกับอิหร่านจะส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลก
วันเดียวกันนั้น ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการหน่วยคุดส์คนใหม่ แถลงต่อรัฐสภาอิหร่านว่า ขีปนาวุธที่ยิงถล่มฐานทัพสองแห่งในอิรักเมื่อวันพุธไม่ได้มีเป้าหมายสังหารทหารอเมริกันแต่อย่างใด
กระนั้น เมื่อวันอาทิตย์ ฐานทัพอากาศอัล-บาลัดในอิรักที่กองกำลังอเมริกันประจำการอยู่ถูกโจมตีด้วยจรวดหลายลูก ทำให้เจ้าหน้าที่และทหารอากาศอิรัก 4 นายได้รับบาดเจ็บ
แหล่งข่าวทางทหารเผยว่า ฐานทัพดังกล่าวเป็นที่ตั้งของกองกำลังทหารอากาศสหรัฐฯ ขนาดเล็ก และพวกผู้รับเหมาชาวอเมริกัน แต่เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่อพยพออกไปแล้วเนื่องจากความตึงเครียดระหว่างอเมริกากับอิหร่าน
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ทวิตประณามการโจมตีฐานทัพดังกล่าวและสำทับว่า การละเมิดอธิปไตยของอิรักโดยกลุ่มที่ไม่จงรักภักดีต่อรัฐบาลอิรักต้องยุติลงทันที
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่ก่อนหน้านี้อเมริกากล่าวหาว่า เป็นฝีมือของกองกำลังในอิรักที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
**วิกฤตการทูต**
วิกฤตล่าสุดทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิต 176 คน หลังจากอิหร่านยิงเครื่องบินของยูเครเนียน อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลนส์ (ยูไอเอ) ตกเมื่อวันพุธเนื่องจากเข้าใจผิดว่า เป็นขีปนาวุธของศัตรู
หลังจากยืนกรานปฏิเสธมาหลายวันโดยระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวขัดข้องทางเทคนิค ในที่สุดเมื่อวันเสาร์ รูฮานียอมรับว่า “ความผิดพลาดของมนุษย์” เป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินของยูไอเอตก และนายพลอมิราลี ฮาจิซาเดห์ ผู้บัญชาการหน่วยการบินและอวกาศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านประกาศรับผิดชอบต่อความผิดพลาดครั้งนี้
ซาลามี ผู้บัญชาการหน่วยคุดส์ ยืนกรานว่า อิหร่านเสียใจมากกว่าประเทศใดๆ ในเหตุการณ์นี้
วันจันทร์ (13) อาลี ราไบอี โฆษกรัฐบาลปฏิเสธว่า อิหร่านไม่มีเจตนาปิดบังความผิด
อย่างไรก็ดี อาลี ชีราซี ตัวแทนของคอเมเนอีในหน่วยคุดส์ โต้ว่า ศัตรูของอิหร่านซึ่งหมายถึงวอชิงตันและพันธมิตร กำลังฉกฉวยสถานการณ์นี้แก้แค้นอิหร่าน
ราไบอียังตอบโต้ทวิตของทรัมป์เมื่อวันเสาร์ที่เตือนรัฐบาลอิหร่านไม่ให้สังหารผู้ประท้วง ซ้ำยังยกย่องชาวอิหร่านที่ออกมาประท้วงหลังรู้ว่า ถูกรัฐบาลหลอกมาหลายวันเรื่องโศกนาฏกรรมเครื่องบินยูเครน โดยราไบอีประกาศว่า ชาวอิหร่านจดจำได้ว่า ผู้นำสหรัฐฯ เป็นคนสั่งฆ่าโซไลมานี รวมทั้งเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนมากมายต้องเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ
โฆษกทางการเตหะรานยังกล่าวว่า ร็อบ แมคแคร์ เอกอัครราชทูตอังกฤษปฏิบัติตัวไม่เป็นมืออาชีพและรับไม่ได้
ตามรายงานของสื่ออิหร่านนั้นระบุว่า ทูตอังกฤษถูกจับเพราะยั่วยุผู้ประท้วงที่ชุมนุมกันในมหาวิทยาลัยอามีร์ คาบีร์ในเตหะรานเมื่อวันเสาร์
การชุมนุมดังกล่าวซึ่งมีนักศึกษาหลายร้อยคนเข้าร่วมได้แปรสภาพจากการชุมนุมเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมยูไอเอ กลายเป็นการประท้วงเรียกร้องให้อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านลาออก รวมทั้งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการปิดบังความจริงเรื่องนี้
ทางด้านแมคแคร์ทวิตยืนยันว่า ไม่ได้ร่วมประท้วง แต่เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยดังกล่าวเพื่อรำลึกถึงเหยื่อเครื่องบินตก
โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ประณามการจับกุมแมคแคร์ และชี้ว่า อิหร่านเลือกได้ว่า อยากเป็นรัฐที่นานาชาติไม่ยอมรับต่อไป หรือดำเนินการทางการทูตเพื่อผ่อนคลายความขัดแย้ง
วันอาทิตย์ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดว์ของแคนาดา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สูญเสียครั้งใหญ่จากเหตุเครื่องบินยูเครนตก ประกาศว่า จะทวงความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้
ในวันเดียวกันนั้น คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งของแคนาดาเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ 2 คนได้รับวีซ่าเดินทางไปร่วมสอบสวนกรณีเครื่องบินตกที่อิหร่านแล้ว
**คลิปว่อนตร.ยิงผู้ประท้วง**
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นบางฉบับวิจารณ์รัฐบาลอิหร่านกรณียิงเครื่องบินตกว่า เป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย บ้างเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาขอโทษและลาออก
สถานการณ์ในเตหะรานตึงเครียดขึ้นอีกครั้งในวันอาทิตย์ โดยมีตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะรอบๆ จัตุรัสอาซาดี และยังมีตำรวจปราบจลาจลพร้อมอาวุธประจำอยู่ในมหาวิทยาลัยอามีร์ คาบีร์, ชารีฟ และเตหะราน รวมถึงจัตุรัสเอนเควแลบ
รายงานระบุว่า มีการชุมนุมเกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วอิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่สำนักข่าวกึ่งทางการ อิลนา รายงานว่า ช่วงคืนวันอาทิตย์ ตำรวจใช้กระบองและแก๊;น้ำตาเข้าสลายการชุมนุมในจัตุรัสอาซาดีกลางกรุงเตหะรานที่มีผู้ประท้วง 3,000 คน
ต่อมาในวันจันทร์ (13) ผู้บัญชาการตำรวจเตหะรานออกคำแถลงผ่านเว็บไซต์ของสถานีทีวีของทางการอิหร่าน ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ยิงผู้ประท้วง และได้รับคำสั่งให้ใช้ความอดกลั้นในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันอาทิตย์มีการเผยแพร่คลิปบนโลกโซเชียลเป็นเหตุการณ์ที่มีการยิงปืนในบริเวณใกล้กับสถานที่ประท้วง รวมถึงภาพกองเลือดบนพื้น และภาพผู้ประท้วงช่วยกันอุ้มผู้บาดเจ็บ อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันว่า คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์จริงในการประท้วงล่าสุดในอิหร่านหรือไม่