เอเอฟพี – รัฐมนตรียุติธรรมญี่ปุ่นชี้การหลบหนีของอดีตประธานค่ายรถนิสสัน “คาร์ลอส กอส์น” เป็นสิ่งที่ไม่อาจนำเหตุผลใดมาเป็นข้ออ้างแก้ตัวได้ และเชื่อว่าใช้วิธีที่ผิดกฎหมายในการหลบหนี ขณะที่สำนักงานอัยการระบุว่า การหลบหนีเป็นการยืนยันเหตุผลในการคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหารายนี้ ทั้งยังกังวลว่า อิทธิพลที่ล้นเหลือของกอส์นทำให้มีความเสี่ยงอย่างมากที่เขาจะทำลายหลักฐานสำคัญในคดี
กอส์น อดีตผู้บริหารสูงสุดของนิสสัน มอเตอร์ วัย 65 ปี หนีออกจากญี่ปุ่นช่วงก่อนปีใหม่ ระหว่างรอการพิจารณาคดีการประพฤติมิชอบทางการเงินหลายคดี ถือเป็นจุดหักมุมใหม่ในมหากาพย์ที่เป็นที่สนใจของวงการธุรกิจทั่วโลก ทั้งยังทำให้เจ้าหน้าที่แดนปลาดิบอับอายและต้องหาทางออกมาปกป้องระบบยุติธรรมของประเทศจากเสียงวิจารณ์ของนานาชาติ
ในวันอาทิตย์ (5 ธ.ค.) มาซาโกะ โมริ รัฐมนตรียุติธรรมญี่ปุ่น กล่าวถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกโดยระบุว่า ระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นกำหนดขั้นตอนดำเนินการที่เหมาะสมในการอธิบายความจริงของคดีความ และได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมควบคู่กับการรับประกันสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และการหลบหนีของจำเลยระหว่างได้รับการประกันตัวถือว่าไม่เหมาะสม ไม่อาจนำเหตุผลใดมาอ้างเพื่อแก้ตัวได้
โมริ ระบุว่า เป็นที่ชัดเจนว่าญี่ปุ่นไม่มีบันทึกการเดินทางออกนอกประเทศของกอส์น และเชื่อว่าเขาใช้วิธีการผิดกฎหมายลักลอบเดินทางออกไป ซึ่งน่าเสียใจอย่างยิ่งที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญสถานการณ์นี้ รัฐมนตรียุติธรรมญี่ปุ่นยืนยันด้วยว่า ได้ยกเลิกการให้ประกันตัวโกส์น และตำรวจสากลได้ออก “หมายแดง” เพื่อจับกุมจำเลยผู้นี้แล้ว
ในวันอาทิตย์ สำนักงานอัยการออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกันว่า การหลบหนีของกอส์นเข้าข่าย “อาชญากรรม” และว่า นักธุรกิจผู้ร่ำรวยนี้ดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่น ทั้งยังบอกว่าเป็นการสนับสนุนเหตุผลของสำนักงานอัยการที่ไม่เห็นด้วยกับการให้ประกันตัวกอส์น ซึ่งมีทั้งอำนาจทางการเงินและตำแหน่งที่ตั้งในต่างประเทศหลายแห่งซึ่งเอื้ออำนวยต่อการหลบหนี
อัยการญี่ปุ่นยังระบุว่า ด้วยอิทธิพลอย่างมากมายทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกทำให้มีความเสี่ยงอย่างมากที่กอส์นจะทำลายหลักฐานเกี่ยวกับคดี
คดีของกอส์นทำให้ทั่วโลกจับจ้องระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นที่ถูกวิจารณ์หนักเกี่ยวกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแทบจะเรียกได้ว่า ไม่มีกำหนดระหว่างรอการพิจารณาคดี ทั้งนี้ กอส์นได้รับอนุญาตให้ประกันตัวสองครั้งด้วยการโน้มน้าวศาลว่า ตนไม่มีความเสี่ยงหลบหนี
อัยการญี่ปุ่นอ้างว่า จำเป็นต้องควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นเวลานานเพื่อพิสูจน์ความผิด และอัยการไม่ต้องการตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยถ้าไม่ใช่คดีร้ายแรง นอกจากนั้นศาลยังมีความยุติธรรมและจะระบุตัวคนผิดโดยปราศจากข้อกังขาเท่านั้น
ในการปรากฏตัวที่ศาลครั้งหนึ่ง กอส์นเคยยืนยันว่า ต้องการรับการพิจารณาคดีเพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง ด้วยเหตุนี้ อัยการญี่ปุ่นจึงระบุว่า การหลบหนีถือเป็นการละเมิดคำสาบานและปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาล ด้านกอส์นแก้ต่างว่า ที่ต้องหนีเพราะไม่ต้องการถูกระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นจับเป็นตัวประกันอีกต่อไป
ขณะนี้ญี่ปุ่นได้เริ่มการสอบสวนระบบการรักษาความปลอดภัยที่ย่อหย่อนที่ปล่อยให้กอส์นหลบหนีออกจากบ้านอย่างง่ายดายและขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปยังเบรุตและต่อไปยังอิสตันบูล โดยสำนักงานอัยการเผยว่า จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบสวนเรื่องนี้โดยเร็วและเหมาะสม ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กอส์นเตรียมแถลงข่าวในเบรุตสัปดาห์นี้
