เอเจนซีส์ – ตำรวจนิวซีแลนด์แถลงว่า ไม่คาดหมายว่าจะยังมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่ที่เกาะไวท์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่เกิดระเบิดอย่างกะทันหันในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) อันเป็นการบ่งบอกว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนถึง 20 กว่าคน
ตำรวจบอกว่ามีผู้คนราว 50 คนกำลังไปเยือนเกาะแห่งนั้น ที่อยู่นอกชายฝั่งของเกาะเหนือ เมื่อมันระเบิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อนในตอนบ่าย ผลักดันเถ้าถ่านและก้อนหินให้พุ่งขึ้นไปในอากาศ
ขณะที่มีผู้ออกมาจากเกาะไวท์ราว 23 คน โดย 5 คนในจำนวนนี้เสียชีวิต ส่วนที่เหลือกำลังได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งที่สำคัญคือบาดแผลถูกไฟไหม้ร้ายแรง ขณะเดียวกันมีรายงานผู้สูญหาย 8 คน
มีการประมาณการก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ที่ยังคงอยู่ที่เกาะแห่งนั้นน่าจะเป็นตัวเลข 2 หลัก
ตำรวจแถลงเมื่อเวลาล่วงเข้าชั่วโมงต้นๆ ของวันอังคาร (10) ว่า ถึงแม้มีการส่งอากาศยานออกตรวจการณ์ทางอากาศหลายต่อหลายเที่ยว เพื่อพยายามค้นหาผู้ที่ยังติดอยู่ ทว่า “ไม่พบสัญญาณของชีวิตใดๆ ไม่ว่าตรงจุดไหนก็ตามที”
“โดยอิงอาศัยข้อมูลข่าวสารที่เราได้รับ เราไม่เชื่อว่ายังมีผู้รอดชีวิตใดๆ อยู่บนเกาะนั้น ตำรวจกำลังทำงานอย่างเร่งด่วนเพื่อยืนยันจำนวนแน่นอนของผู้ที่เสียชีวิต”
ขณะเวลาล่วงเลยถึงกลางคืน จอห์น ทิมส์ รองผู้บัญชาการตำรวจแถลงว่า กิจกรรมของภูเขาไฟที่ยังมีอยู่ ทำให้ความพยายามกู้ภัยด้วยการร่อนลงจอดภาคพื้นดิน มีอันตรายมากเกินไป “ผมจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนของเราและเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินด้วย” เขากล่าว
คาดหมายว่ากองทหารนิวซีแลนด์จะออกปฏิบัติการบนเกาะไวท์ ในทันทีที่มองเห็นแสงสว่างของวันใหม่ ด้วยความหวังว่าอาจจะยังคงมีผู้รอดชีวิต ถึงแม้โอกาสดูริบหรี่ก็ตาม
การระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะท่องเที่ยวยอดนิยมของนิวซีแลนด์คราวนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาเพิ่งผ่านพ้น 14.00 น.ของวันจันทร์ไปไม่เท่าใด (ตรงกับ 08.00 น.เวลาเมองไทย) โดยพ่นกลุ่มเถ้าถ่านสีขาวหนาทึบขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นระยะทางยาวประมาณ 3.6 กิโลเมตร
รายงานระบุว่า น่าจะมีนักท่องเที่ยวราว 50 คน ซึ่งมีทั้งชาวนิวซีแลนด์และคนต่างชาติ อยู่บนเกาะไวท์ โดยมีภาพนักท่องเที่ยวหลายคนอยู่แถวขอบปากปล่องภูเขาไฟก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิดไม่กี่นาที รวมทั้งจากกล้องถ่ายทอดสดเผยให้เห็นกลุ่มคนกว่าสิบคนเดินอยู่บริเวณปากปล่องภูเขาไฟไม่กี่วินาทีก่อนภูเขาไฟระเบิด หลังจากนั้นจอภาพก็กลายเป็นสีดำ
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดน ของนิวซีแลนด์ แถลงในวันจันทร์ว่า ตำรวจจะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ยังติดค้างอยู่บนเกาะไวท์และบริเวณรอบๆ อย่างสุดความสามารถ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลีย ทวิตว่า ชาวออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิดบนเกาะไวท์ และรัฐบาลกำลังติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่สื่อแดนจิงโจ้ระบุว่า มีชาวออสเตรเลีย 24 คนอยู่บนเกาะไวท์ขณะภูเขาไฟระเบิด
เควิน โอซัลลิแวน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสมาคมเรือสำราญนิวซีแลนด์ เชื่อว่า มีผู้โดยสารเรือสำราญโอเวชัน ออฟ เดอะ ซีส์ เดินทางไปยังเกาะไวท์ 30 คน
ด้านรอยัล แคริบเบียน ผู้ดำเนินการเรือโอเวชัน เปิดเผยว่า มีลูกค้าไปเที่ยวเกาะดังกล่าวแต่ไม่ได้ยืนยันตัวเลขที่แน่นอน
เรือโอเวชันรองรับผู้โดยสารราว 4,000 คน โดยออกจากซิดนีย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและมีกำหนดการเดินทางนาน 12 วัน
ไมเคิล สเชด เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ออกจากเกาะทันเวลา เขาถ่ายคลิปภูเขาไฟระเบิดไว้ได้ โดยคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ตื่นตกใจและรวมตัวกันอยู่ชายฝั่งเพื่อรอการอพยพ และเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งถูกเถ้าภูเขาไฟได้รับความเสียหาย
สำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติของนิวซีแลนด์ระบุว่า การระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะไวท์อยู่ในระดับปานกลาง แม้เถ้าภูเขาไฟพวยพุ่งมองเห็นได้ไกลถึงเกาะหลัก และเสริมว่า การปะทุได้ลดลงนับจากที่ระเบิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่
ทั้งนี้นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่หรือเกาะหลัก 2 เกาะ และเกาะเล็กๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยที่เกาะใหญ่ทั้ง 2 ได้แก่ เกาะเหนือ กับเกาะใต้
เกาะไวท์หรือเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า วากาอาริ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของเกาะเหนือ โดยอยู่ห่างจากอ่าวเพลนตี้ 50 กิโลเมตร ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย ภูเขาไฟบนเกาะนี้เป็นภูเขาไฟที่มีพลังที่สุดในนิวซีแลนด์ โดย 70% จมอยู่ใต้น้ำ
ทุกปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังเกาะไวท์ราว 10,000 คน ภูเขาไฟลูกนี้ปะทุบ่อยครั้งในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ครั้งล่าสุดคือเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และครั้งล่าสุดที่ภูเขาไฟลูกนี้เกิดการระเบิดคือปี 1914 ที่คนงานเหมืองกำมะถันเสียชีวิต 12 คน
เมื่อเดือนสิงหาคม กองทัพนิวซีแลนด์ได้ส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 2.4 ตันไปไว้บนเกาะเพื่อใช้เป็นที่หลบภัยฉุกเฉินกรณีที่ภูเขาไฟระเบิด
เชน โครนิน นักวิทยาภูเขาไฟมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ กล่าวว่า การระเบิดกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า เช่น กรณีเกาะไวท์ นี้ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และเมื่อเกิดขึ้นอาจคาดได้ว่า จะมีเถ้าถ่านร้อน รวมถึงเถ้าหนักและฝุ่นละอองขนาดเล็กฟุ้งกระจายจากปล่องภูเขาไฟ ผลที่ตามมาคือการบาดเจ็บ แผลไหม้ และปัญหาระบบทางเดินหายใจ
จีโอเน็ต หน่วยงานติดตามธรณีภัยพิบัติ ได้ยกระดับการเตือนภัยภูเขาไฟเกาะไวท์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากมีการปะทุมากขึ้น และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แบรด สก็อตต์ นักวิทยาภูเขาไฟของจีโอเน็ต เพิ่งระบุในรายงานว่า มีการปะทุระดับปานกลางบนเกาะไวท์ และพบก๊าซ ไอน้ำ และโคลนพวยพุ่งจากปล่องด้านหลังของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ