xs
xsm
sm
md
lg

‘รมว.กลาโหมUS’ ยังโฟกัส‘จีน-รัสเซีย’ แม้ตะวันออกกลางระอุ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


<i>รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาร์ก เอสเพอร์ เข้าร่วมการบรรยายสรุปนัดหนึ่งที่ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 7 ต.ค.) </i>
เอพี/เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาร์ก เอสเพอร์ แถลงในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ว่า เขายังคงมีแผนจะปรับเปลี่ยนจุดโฟกัสของการทหารอเมริกัน มาสู่เรื่องการแข่งขันกับจีนและรัสเซีย ถึงแม้มีภัยคุกคามด้านความมั่นคงเพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลางก็ตามที

เอสเพอร์กล่าวสรุปเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และลำดับความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของเขาเช่นนี้ เอาไว้ในสุนทรพจน์ซึ่งเขาแสดง ณ เวทีประชุมกลาโหมแห่งชาติเรแกน (Reagan National Defense Forum) อันเป็นการชุมนุมหารือประจำปีของบรรดาเจ้าหน้าที่ภาครัฐบาล, อุตสาหกรรมกลาโหม, และเจ้าหน้าที่ทางทหาร

เอสเพอร์ซึ่งขึ้นนั่งตำแหน่งนายใหญ่เพนตากอนตัวนี้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กล่าวว่าเขากำลังยึดมั่นอยู่กับลำดับความสำคัญทางด้านกลาโหมแห่งชาติซึ่งวางเอาไว้โดย จิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมคนแรกในยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยที่แมตมิสก็กำลังนั่งฟังสุนทรพจน์ของแอสเพอร์ซึ่งแสดงที่ ห้องสมุดประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เมืองซิมิแวลลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย

ตั้งแต่ที่แมตทิสลาออกจากตำแหน่งเมื่อ 1 ปีก่อน เพื่อประท้วงการที่ทรัมป์ผลักดันให้ถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรีย ภูมิภาคตะวันออกกลางก็อยู่ในสภาพปั่นป่วนผันผวนเพิ่มมากขึ้น สหรัฐฯได้จัดส่งทหารเพิ่มเติมขึ้นอย่างน้อย 14,000 คนเข้าไปยังพื้นที่อ่าวเปอร์เซียนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติการของฝ่ายอิหร่าน

ซีเรียนั้นสามารถถือได้ว่ากลายเป็นปัญหาที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำสำหรับวอชิงตัน จากการที่กองทหารตุรกีพร้อมด้วยกองกำลังอาวุธชาวซีเรียที่อยู่ใต้การกำกับของพวกเขา ซึ่งบางส่วนถูกระบุว่าเป็นพวกอิสลามิสต์สุดโต่ง กำลังเคลื่อนเข้าไปในพื้นที่ต่างๆ ทางตอนเหนือของซีเรีย อันเป็นบริเวณซึ่งก่อนหน้านี้กองทหารอเมริกันได้เคยจับมือเป็นพันธมิตรกับพวกนักรบชาวเคิร์ดซีเรียเพื่อต่อสู้ปราบปรามพวกเศษเดนที่ยังเหลืออยู่ของกลุ่มสุดโต่ง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส)

เช่นเดียวกับที่อิรัก ซึ่งเวลานี้กำลังเผชิญปัญหาการลุกขึ้นมาประท้วงของพวกพลเรือน และการเข้าปราบปรามอย่างรุนแรงของพวกกองกำลังความมั่นคง

นอกจากนั้น เหตุกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตซึ่งเกิดขึ้นในฐานทัพเรือสหรัฐฯแห่งหนึ่งในเมืองเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา เมื่อวันศุกร์ (6) ที่ผ่านมา โดยฝีมือของนายทหารอากาศชาวซาอุดีอาระเบียผู้หนึ่ง ก็อาจสร้างความยุ่งเหยิงให้แก่ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสหรัฐฯกับซาอุดีฯ ถึงแม้เอสเพอร์ได้กล่าวในในวันศุกร์ (6) ว่า ความสัมพันธ์นี้ยังมั่นคงแข็งแรงดี

<i>รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาร์ก เอสเพอร์ พูดขณะแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ ภายหลังการหารือกันในกรุงมะนิลา (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 19 พ.ย.) </i>
เอสเพอร์กล่าวปฏิเสธในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับรายงานข่าวที่แพร่กระจายออกมาว่า เขากำลังพิจารณาจะจัดส่งทหารอีก 14,000 คนเข้าไปยังตะวันออกกลาง กระนั้นเขาก็ยอมรับกับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (6) ว่า เขารู้สึกวิตกเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพในอิรักและอิหร่าน

ในสุนทรพจน์เมื่อวันเสาร์ของเขา เอสเพอร์กล่าวอ้างอิงถึงอิหร่านเพียงแค่ผ่านๆ โดยระบุว่า เตหะรานมี “ความพยายามในการสั่นคลอนเสถียรภาพ” ของภูมิภาคดังกล่าว

ขณะที่เนื้อหาสุนทรพจน์ของเขากลับหันมาโฟกัสเรื่องกำลังทหารของสหรัฐฯต่อจีนและรัสเซีย ซึ่งเขาอ้างว่าเป็น “มหาอำนาจนักลัทธิแก้ในทุกวันนี้” (today's revisionist powers) เขากล่าวหามอสโกและปักกิ่งว่า กำลังเสาะแสวงหา “อำนาจในการวีโต้ทัดทาน” เหนือการตัดสินใจทางเศรษฐกิจและทางความมั่นคงของพวกชาติขนาดเล็กกว่า

ในวันศุกร์ เอสเพอร์บอกว่าเขาตระหนักดีว่าเป็นเรื่องยากลำบากทีเดียว ในการเคลื่อนย้ายทรัพยากรต่างๆ ออกมาจากตะวันออกกลาง เพื่อเพิ่มการโฟกัสไปที่จีนและรัสเซีย

เขาบอกว่า เขากำลังศึกษาเรื่องกำลังอาวุธและความต้องการทางทรัพยากรสำหรับทุกๆ พื้นที่ของโลก เพื่อวินิจฉัยว่าจะปรับสมดุลทรัพยากรเหล่านี้กันใหม่ได้อย่างไร

“ความมุ่งมาดปรารถนาของผมจะยังคงเป็นการพิจารณาหาวิธีที่เราจะดึงเอาทรัพยากรต่างๆ –ทรัพยากรเหล่านี้อาจจะเป็นกองทหารและยุทโธปกรณ์ต่างๆ ซึ่งคุณสามารถระบุออกมาได้นั่นแหละ” จากบางภูมิภาค และถ้าไม่นำเอาทรัพยากรเหล่านั้นกลับคืนสู่สหรัฐฯแล้ว ก็ปรับเปลี่ยนส่งไปยังภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เขากล่าวเอาไว้เช่นนี้ในวันศุกร์

“นี่ยังคงเป็นความมุ่งมาดปรารถนาของผม แต่ผมก็ต้องรับมือกับโลกที่ผมเผชิญอยุ่ และดังนั้นผมก็จะต้องทำให้แน่ใจได้ในเวลาเดียวกันว่า ผมสามารถป้องปรามความขัดแย้งได้ –ซึ่งในกรณีนี้ก็คือคะวันออกกลาง” เขาบอก “ผมต้องการที่จะมีกองกำลังอย่างเพียงพอที่นั่น เพื่อให้มั่นใจได้ว่า “สหรัฐฯจะได้ไม่เข้าไปมีความขัดแย้งทางอาวุธกับอิหร่าน
กำลังโหลดความคิดเห็น