ม็อบฮ่องกงแห่ชุมนุมครบรอบครึ่งปี เตือนผู้นำจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย

เอเอฟพี – ฝูงชนฮ่องกงร่วมชุมนุมบนท้องถนนในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) เพื่อแสดงพลังสนับสนุนในโอกาสครบรอบครึ่งปีของการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ขณะที่เหล่าแกนนำผู้ประท้วงเตือนรัฐบาลฮ่องกงที่สนับสนุนปักกิ่งว่า นี่คือ “โอกาสสุดท้าย” ในการยุติวิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยกลุ่มหัวรุนแรงประกาศโจมตีระบบขนส่งในช่วงเช้าวันจันทร์ (9 ธ.ค.) หากยังไม่ได้รับคำตอบจากลัม

ผู้คนนับหมื่นร่วมเดินขบวนโดยได้รับอนุญาตจากตำรวจแบบที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก โดยเหตุการณ์นี้มีขึ้นหลังจากผู้สมัครที่สนับสนุนประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นถล่มทลายเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว สยบคำกล่าวอ้างของรัฐบาลที่ว่า พลังเงียบส่วนใหญ่ต่อต้านการประท้วง

ผู้ร่วมเดินขบวนจำนวนมากไม่พอใจ แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และปักกิ่งที่ยังไม่ยินยอมตามข้อเรียกร้องทั้งที่แพ้การเลือกตั้งยับเยิน

ทั้งนี้ ฮ่องกงซึ่งเป็นเขตกึ่งปกครองตนเอง เผชิญการประท้วงที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับปักกิ่งนับจากรับมอบเกาะแห่งนี้คืนจากอังกฤษในปี 1997

ประชาชนนับล้านรวมตัวประท้วงบนถนนเนื่องจากไม่พอใจและกลัวว่า ผู้นำจีนกำลังลิดรอนเสรีภาพของฮ่องกงมากขึ้น และนับตั้งแต่ฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้งขาดลอยเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว จำนวนการปะทะและการทำลายทรัพย์สินสาธารณะลดลงอย่างชัดเจน

ในวันอาทิตย์ตำรวจอนุญาตให้แนวหน้าสิทธิมนุษยชนพลเมือง (ซีเอชอาร์เอฟ) จัดการเดินขบวนครั้งแรกนับจากกลางเดือนสิงหาคม แต่เตือนว่าจะไม่ยอมให้มีการก่อความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มผู้ประท้วงนั้นรวมถึงการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบการใช้ความรุนแรงของตำรวจต่อผู้ประท้วง การอภัยโทษผู้ที่ถูกจับกุม และการเลือกตั้งเสรีเต็มรูปแบบ โดยทางจิมมี่ ชัม ผู้นำซีเอชอาร์เอฟเตือนว่า นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ประชาชนจะมอบให้ แคร์รี ลัม

ในวันจันทร์จะเป็นวันครบรอบ 6 เดือนของการประท้วง โดยนับจากเริ่มต้นจนถึงขณะนี้มีผู้ถูกจับกุมราว 6,000 คน และบาดเจ็บหลายร้อยคนซึ่งรวมถึงตำรวจ ขณะที่ฟอรัมออนไลน์หลายแห่งที่ใช้เพื่อจัดการการชุมนุมของกลุ่มหัวรุนแรงประกาศโจมตีระบบขนส่งในช่วงเช้าวันจันทร์ หากยังไม่ได้รับคำตอบจากลัม

การประท้วงในฮ่องกงส่วนใหญ่ไม่มีผู้นำและจัดการผ่านเครือข่ายออนไลน์ เริ่มแรกนั้นประชาชนออกไปชุมนุมเนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลเร่งรัดผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ปัจจุบันยกเลิกอย่างเป็นทางการแล้ว

ซีเอชอาร์เอฟเป็นกลุ่มที่ไม่สนับสนุนความรุนแรงและเป็นแกนหลักในการเดินขบวนที่มีผู้เข้าร่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นฤดูร้อน และทำให้ฝูงชนจำนวนมากออกไปเดินขบวนกันอย่างสม่ำเสมอแม้อากาศร้อนจัด

ช่วงหลายเดือนมานี้ทางการฮ่องกงห้ามการเดินขบวนขนาดใหญ่โดยอ้างว่า เสี่ยงที่กลุ่มผู้ประท้วงฮาร์ดคอร์จะฉวยโอกาสสร้างความรุนแรง แต่คนมากมายเพิกเฉยต่อคำสั่งห้าม ทำให้มีการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจเป็นประจำเกือบทุกสัปดาห์และบ่อนทำลายชื่อเสียงความมีเสถียรภาพของฮ่องกง รวมทั้งทำให้เกาะแห่งนี้เข้าสู่ภาวะถดถอย

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงยังคงมีอยู่ ซึ่งไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่การเดินขบวนจะเริ่มต้นขึ้น ตำรวจได้นำอาวุธ ซึ่งรวมถึงปืนพกและมีด ที่พบระหว่างการบุกตรวจเมื่อคืนวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ออกมาแสดง โดยระหว่างการบุกตรวจมีผู้ถูกจับกุม 11 คน

ลี ไกว-วา ผู้กำกับการตำรวจอาวุโสแผนกอาชญากรรมของฮ่องกง เชื่อว่ากลุ่มดังกล่าวมีแผนใช้อาวุธเพื่อปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายระหว่างการเดินขบวนในวันอาทิตย์ เพื่อสร้างสถานการณ์ประณามตำรวจ

การเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยขนาดใหญ่อย่างสงบช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่มีความคืบหน้าน้อยมาก ทำให้ผู้ประท้วงบางคนเริ่มหันมาใช้ความรุนแรงมากขึ้นหรือยอมรับเทคนิคการใช้ความรุนแรงมากขึ้น ถึงกระนั้น แทบไม่มีสัญญาณว่า ลัมและปักกิ่งจะยอมอ่อนข้อ ทำให้เกิดความกลัวกันว่า ความสงบที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งอาจเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราว