เอเจนซีส์ – ผู้ประท้วงชุดดำนับหมื่นกลับมารวมพลบนท้องถนนในฮ่องกงอีกครั้งในวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) สิ้นสุดบรรยากาศความสงบเรียบร้อยหลังชัยชนะในการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นของผู้สมัครฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเรียกร้องให้รัฐบาลยอมตามข้อเรียกร้องหลัก รวมทั้งขอให้ผู้ประท้วงใช้ความอดกลั้นเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงปะทุ การชุมนุมครั้งนี้ยังมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากตำรวจปะทะกับผู้ประท้วงช่วงสั้นๆ และมีการยิงแก๊ซน้ำตาเป็นครั้งแรกนับจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน
ก่อนการเดินขบวนในวันอาทิตย์ มีเสียงเรียกร้องจากบรรดาผู้จัดให้ประชาชนพยายามอดกลั้น เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นอีก แต่ถึงกระนั้น เมื่อคืนวันเสาร์ ตำรวจยิงแก๊ซน้ำตาใส่ผู้ประท้วงเป็นครั้งแรกนับจากการเลือกตั้ง เนื่องจากผู้ประท้วงปิดถนนหลายสายในย่านมงก๊ก
วิดีโอที่ถ่ายในบริเวณนั้นที่เผยแพร่ทางออนไลน์ยังปรากฏภาพผู้ประท้วงคนหนึ่งใช้วัตถุโลหะตีศีรษะชายอีกคนที่พยายามนำสิ่งกีดขวางออกจากถนน โดยทาง เติ้ง ปิ่งเฉียง ผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกง ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนเหยื่อได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะและถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาแล้ว แต่ยังไม่มีการจับกุมผู้ก่อเหตุ
ชาวฮ่องกงออกมาประท้วงใหญ่หลายครั้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลผลักดันร่างกฎหมายที่อนุญาตการส่งตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีในต่างแดน ซึ่งรวมถึงจีน
ในวันอาทิตย์ประชาชนหลายหมื่นคนออกไปแสดงพลังเพื่อเดินหน้ากดดันรัฐบาลที่ยังไม่ยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง แม้พ่ายแพ้ยับเยินในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งฟ้องว่า คำอวดอ้างของรัฐบาลว่า “พลังเงียบส่วนใหญ่” ต่อต้านการประท้วง ไม่เป็นความจริง
ในการเดินขบวนบนถนนสายหนึ่ง ผู้ประท้วงถูกตำรวจปิดกั้นและเตือนว่า ไม่ใช่เส้นทางที่อนุญาตให้เดินขบวนได้ ตำรวจยังพ่นสเปรย์พริกไทยใส่ผู้ประท้วงที่ฝ่าฝืน ซึ่งใช้ร่มป้องกันตัวเองและโจมตีตำรวจ
ก่อนหน้านั้น ผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ เดินขบวนไปยังสถานกงสุลอเมริกันเพื่อขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ผ่านกฎหมายสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง และต้องการตอกย้ำกับรัฐบาลว่า การประท้วงยังไม่จบ ข้อเรียกร้องหลักยังคงอยู่ ซึ่งรวมถึงการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบการใช้ความรุนแรงของตำรวจต่อผู้ประท้วง และการเลือกตั้งโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงบางคนกังวลว่า หากยังมีความรุนแรงเกิดขึ้น การสนับสนุนของประชาชนต่อการประท้วงอาจเปลี่ยนไป แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า หากใช้วิธีการสันติอาจทำให้การเคลื่อนไหวไม่มีพลังและไม่ได้ผล
ในบรรดาผู้ประท้วงมีเด็กหญิงวัย 13 ปีคนหนึ่งที่เปิดเผยแค่นามสกุลว่า เหลียง เธอเชื่อว่า ชาวฮ่องกงจะยังคงออกไปชุมนุม ไม่เช่นนั้นรัฐบาลอาจคิดว่า ข้อเรียกร้องต่างๆ ถูกยกเลิกไปแล้ว และบอกด้วยว่าจะร่วมชุมนุมบ่อยเท่าที่ทำได้ แม้อาจเพียงเพื่อทำให้จำนวนผู้ชุมนุมมากขึ้นก็ตาม
นอกจากนั้นผู้ประท้วงยังนัดรวมพลังครั้งใหญ่เพื่อทดสอบการสนับสนุนการต่อต้านรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ (8 ธ.ค.) โดยการจัดของกลุ่มแนวหน้าสิทธิมนุษยชนพลเมืองที่เคยชักชวนคนนับล้านออกไปเดินขบวนในเดือนมิถุนายน