xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” เปรยดีลการค้าจีนเฟส 1 คงหลังเลือกตั้ง ปธน.ปลายปีหน้า ขณะสภามะกันออก กม.อุยกูร์ ทำปักกิ่งยัวะเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พูดกับผู้สื่อข่าว ขณะอยู่ที่วินฟิลด์เฮาส์ ในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมซัมมิตองค์การนาโต เมื่อวันอังคาร (3 ธ.ค.)  ทั้งนี้ทรัมป์กล่าวเปรยๆ ในลอนดอนว่า เรื่องข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน เฟส 1 เขาอยากรอไปจนหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า คำพูดนี้ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกกันระนาว </i>
เอเจนซีส์ – ความหวังบรรลุข้อตกลงการค้าอเมริกา-จีนดูริบหรี่ หลัง “ทรัมป์” ลั่นอาจต้องรอหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีแดนอินทรีปลายปีหน้า มิหนำซ้ำสภาล่างสหรัฐฯ ยังผ่านกฎหมายประณามปักกิ่งกรณีค่ายกักกันมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า จะทำให้แดนมังกรลุกขึ้นมาตอบโต้เกรี้ยวกราดกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ผู้นำทำเนียบขาวลงนามบังคับใช้กฎหมายหนุนม็อบฮ่องกง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวขณะเดินทางไปร่วมการประชุมซัมมิตชาติพันธมิตรองค์การนาโต้ในกรุงลอนดอนเมื่อวันอังคาร (3 ธ.ค.) ว่า ตัวเขาเองอยากรอไปจนถึงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า แต่ฝ่ายจีนต้องการบรรลุข้อตกลงการค้าตอนนี้ อย่างไรก็ดี คงต้องรอดูก่อนว่า ข้อตกลงเหมาะสมหรือไม่

การแสดงความคิดเห็นของทรัมป์ส่งผลให้ราคาหุ้นทั่วโลกตกไปตามๆ กัน

หลังจากนั้นไม่นาน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 407-1 ผ่านร่างกฎหมายที่กำหนดให้คณะบริหารอเมริกันต้องตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อการกวาดล้างชาวมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง เขตปกครองตนเองเทียบเท่ามณฑลทางภาคตะวันตกของจีน

แหล่งข่าวหลายคนแสดงความเห็นว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจบ่อนทำลายกระบวนการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีนขั้นต้น หรือที่เรียกกันว่าข้อตกลง เฟส 1 โดยหากไม่สามารถตกลงกันได้ก่อนวันที่ 15 ที่จะถึง อเมริกาจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจีนล็อตใหม่ และเจ้าหน้าที่จีนที่ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตนเตือนว่า ปักกิ่งจะตอบโต้ด้วยมาตรการเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้การเจรจาหยุดชะงักลง

หนึ่งในแหล่งข่าวเหล่านี้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนแย้มว่า กว่าที่จะตกลงกันได้อาจใช้เวลาอีกนานมาก ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่พบวิธี “ตีเหล็กตอนที่ยังร้อน”

แหล่งข่าวรายที่อยู่ในกระบวนการเจรจาด้วยขานรับว่า แม้ยังมีการหารือกันอยู่ แต่จีนและอเมริกายังตกลงกันไม่ได้ในหลายประเด็น เช่น อเมริกาจะยกเลิกภาษีศุลกากรที่บังคับใช้อยู่ขณะนี้ทั้งหมดหรือไม่ และจีนจะซื้อสินค้าเกษตรอเมริกันเพิ่มเท่าใด

<i>รัฐมนตรีพาณิชย์ วิลเบอร์ รอสส์ ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ซีเอ็นบีซี จากห้องค้าของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (เอ็นวายเอสอี) ในเมืองนิวยอร์ก, สหรัฐฯ วันอังคาร (3 ธ.ค.) </i>
ด้าน วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ช่องการเงิน ซีเอ็นบีซีว่า การเจรจาการค้ากับจีนขณะนี้มีเพียงระดับเจ้าหน้าที่ปกติเท่านั้น และยังไม่มีกำหนดการหารือสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง

รอสส์ซึ่งมีจุดยืนเป็นสายเหยี่ยวด้านการค้ากับจีน สำทับว่า การได้ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่ออเมริกา มีความสำคัญมากกว่าการรีบร้อนบรรลุข้อตกลงให้ได้ภายในสิ้นปีนี้หรือแม้แต่ในปีหน้า และว่า สองฝ่ายยังต้องหารือรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับการจัดซื้อสินค้าเกษตรอเมริกันของจีน ปัญหาเชิงโครงสร้างบางประการ และกลไกการบังคับใช้ เพื่อลงนามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่เดิมทรัมป์คาดหวังว่า จะลุล่วงตั้งแต่เดือนที่แล้ว

เขายังโจมตีบริษัทหัวเว่ย ซึ่งถูกอเมริกาขึ้นบัญชีดำในเดือนพฤษภาคม ที่เรียกร้องให้พวกซัปพลายเออร์ของตนโยกย้ายปฏิบัติการออกนอกอเมริกา เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการแซงก์ชันของวอชิงตัน

ในส่วนร่างกฎหมายเกี่ยวกับอุยกูร์ที่ผ่านสภาล่างนั้น กำหนดให้ผู้นำสหรัฐฯ ประณามการใช้อำนาจโดยมิชอบกับชาวมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง และเรียกร้องให้จีนปิดค่ายกักกันที่เชื่อว่า มีชาวมุสลิมอยู่ถึง 1 ล้านคนในซินเจียง อีกทั้งยังเกำหนดให้ทรัมป์ลงโทษคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนที่มีบทบาทสำคัญในนโยบายต่อชาวอุยกูร์ ซึ่งได้แก่ เฉิน ฉวนกว๋อ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาซินเจียง ทั้งนี้เฉินยังคงเป็นสมาชิกผู้หนึ่งในกรมการเมืองของพรรคด้วย จึงถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯจะเล่นงานผู้นำจีนทรงอิทธิพลระดับนี้

ร่างกฎหมายนี้ยังกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จัดทำรายงานเกี่ยวกับการกวาดล้างชาวมุสลิมในซินเจียง ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ต้องห้ามการส่งออกเทคโนโลยีที่รับรู้ว่า นำไปใช้ในการกักกันหรือสอดแนมชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ให้แก่นิติบุคคลในซินเจียง

ปรากฏว่า ปักกิ่งได้ออกมาตอบโต้ความเคลื่อนไหวของสภาล่างสหรัฐฯคราวนี้อย่างรวดเร็ว โดยในวันพุธ (4) หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนประณามว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการใส่ร้ายป้ายสีสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในซินเจียง และความพยายามของจีนในการกวาดล้างลัทธิสุดโต่ง รวมถึงการต่อสู้กับลัทธิก่อการร้ายและการโจมตีอย่างชั่วร้ายต่อนโยบายการปกครองซินเจียง

ปักกิ่งยังเรียกร้องให้อเมริกางดบังคับใช้ร่างกฎหมายดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจีนจะต้องดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

ถึงแม้วุฒิสภาสหรัฐฯได้ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับอุยกูร์ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่เนื่องจากฉบับของสภาล่างนี้มีเนื้อหาที่รุนแรงยิ่งกว่า ดังนั้นจึงยังต้องผ่านกระบวนการที่ให้สภาทั้งสองผ่านร่างซึ่งเหมือนกันออกมาเสียก่อน จึงจะส่งต่อให้ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยที่เวลานี้ทำเนียบขาวไม่ได้ระบุว่า ทรัมป์จะลงนามหรือใช้สิทธิ์ยับยั้ง

นักวิเคราะห์เตือนว่า หากอเมริกาบังคับใช้กฎหมายอุยกูร์ จีนอาจตอบโต้หนักหน่วงกว่ากฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (2) ปักกิ่งได้แก้เผ็ดด้วยการประกาศห้ามเรือและเครื่องบินทางทหารของสหรัฐฯ แวะจอดในฮ่องกง รวมทั้งคว่ำบาตรองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) หลายแห่งของอเมริกา

แม้กระทรวงการต่างประเทศจีนไม่ได้ระบุว่า จะตอบโต้ร่างกฎหมายอุยกูร์อย่างไร แต่โกลบัลไทมส์ แท็บลอยด์ที่อยู่ในเครือกิจการปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทวิตเมื่อวันอังคารว่า ในเร็วๆ นี้ปักกิ่งจะประกาศรายชื่อบุคคลและหน่วยงานต่างชาติที่จะถูกคว่ำบาตร เนื่องจากเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น