เอเอฟพี – สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยกระดับการแสดงจุดยืนของวอชิงตันต่อจีนเมื่อวันอังคาร (3) เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ และเรียกร้องประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่อาวุโสจีน
กฎหมายอุยกูร์ปี 2019 (Uighur Act) ประณาม “การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง” ของปักกิ่งจากการกวาดล้างในแคว้นซินเจียงทางตะวันตก ซึ่งชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมกลุ่มอื่นๆ มากถึง 1 ล้านคนกำลังถูกกักขังในค่ายปรับทัศนคติ
มาตรการนี้ซึ่งผ่านมติ 407 ต่อ 1 เสียง เป็นเวอร์ชั่นยกระดับของกฎหมายฉบับดังกล่าวที่ผ่านวุฒิสภาเมื่อเดือนกันยายน สองเวอร์ชั่นต้องได้รับการปรับแต่งเป็นกฎหมายฉบับเดียวก่อนส่งถึงโต๊ะทำงานทรัมป์
การลงมติครั้งนี้จะต้องสร้างความเดือดดาลให้กับจีนอย่างแน่นอน ปักกิ่งเคยขู่แล้วว่าจะตอบโต้วอชิงตันสำหรับการที่ทรัมป์ลงนามกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสนับสนุนผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ในขณะที่สองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกใกล้เข้าสู่การสงบศึกทางการค้า
มาตรากรล่าสุดของสภาล่างประณามการกักขังชาวอุยกูร์ตามอำเภอใจและเรียกร้องให้ปิดค่ายปรับทัศนคติ ซึ่งชาวอุยกูร์ถูกคุมขังและล่วงละเมิด อ้างจากกลุ่มสิทธิและสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐฯ
กฎหมายฉบับนี้เรียกร้องให้ทรัมป์ใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนที่อยู่เบื้องหลังนโยบายอุยกูร์ รวมถึง เฉิน ชวนกั๋ว หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ประจำซินเจียง
“ตอนนี้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชนของชุมชนอุยกูร์กำลังถูกคุกคามจากการกระทำป่าเถื่อนของปักกิ่ง ซึ่งเป็นการทำร้ายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีร่วมกันของโลก” แนนซี เปโรซี ประธานสภา บอกสมาชิกผู้แทนฯ ก่อนการโหวต
สภาคองเกรส “กำลังดำเนินก้าวย่างสำคัญเพื่อตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ของปักกิ่ง” เธอกล่าว และเสริมว่า “ อเมริกากำลังจับตาดูอยู่”
เปโลซีกล่าวตำหนิทางการจีนที่บงการการกวาดล้างด้วยการกดขี่ข่มเหงที่รวมถึงการสอดแนมขนานใหญ่โดยรัฐ การขังเดียวการทุบตี การบังคับทำหมัน และการทรมานรูปแบบอื่นๆ
กลุ่มสิทธิและพยานหลายคนกล่าวหาจีนว่าพยายามดึงชาวอุยกูร์ออกจากธรรมเนียมปฏิบัติแบบอิสลามของพวกเขา และเปลี่ยนพวกเขาให้กลมกลืนกับวัฒนธรรมชาวฮั่น
หลังจากปฏิเสธการมีอยู่ของค่ายกักกันมานาน ตอนนี้ปักกิ่งหันมาปกป้องค่ายดังกล่าวที่พวกเขาเรียกว่าเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ชั่วคราว” ในฐานะมาตรการจำเป็นเพื่อตอบโต้กลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มก่อการร้ายทางศาสนา