xs
xsm
sm
md
lg

เด้งฟ้าผ่า!! บอสเพนตากอนสั่งปลด ‘รมว.ทบวงทหารเรือ’ หลังออกมาแย้งคำสั่ง ‘ทรัมป์’ ให้เลิกสอบหน่วยซีลแทงนักโทษ IS ในอิรัก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีคำสั่งไล่ออกเจ้าหน้าที่พลเรือนระดับสูงสุดของกองทัพเรือวานนี้ (24 พ.ย.) หลังเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวออกมาโต้แย้งคำสั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขอให้กองทัพเรือหยุดสอบสวนทหารหน่วยซีลที่แทงนักโทษรัฐอิสลาม (ไอเอส) เสียชีวิตในอิรัก

เอสเปอร์ ยังลงความเห็นด้วยว่า เอ็ดเวิร์ด กัลลาเกอร์ สมาชิกหน่วยซีลที่เป็นข้อถกเถียงอยู่ในขณะนี้ สมควรเป็นเจ้าของเข็มกลัดเกียรติยศ ‘ไทรเดนท์’ ของหน่วยซีลต่อไป ซึ่งเท่ากับปิดประตูไม่ให้กองทัพเรือดำเนินการสอบสวนซึ่งอาจจะนำไปสู่การขับไล่ กัลลาเกอร์ ออกจากหน่วยซีลในที่สุด

ทรัมป์ ซึ่งคัดค้านการเรียกคืนเข็มกลัดไทรเดนท์ของ กัลลาเกอร์ และยังพยายามแทรกแซงการสอบสวนเพื่อคืนตำแหน่งให้แก่ทหารเรือผู้นี้ ออกมาชื่นชมการตัดสินใจของผู้นำเพนตากอน

“เอ็ดดี้จะได้เกษียณอายุอย่างสงบสุขพร้อมด้วยเกียรติยศทุกประการที่เขาเคยได้รับ รวมถึงเข็มกลัดไทรเดนท์ด้วย” ทรัมป์ ทวีตข้อความ

สำหรับเจ้าหน้าที่พลเรือนที่ถูกสั่งปลดคือ ริชาร์ด สเปนเซอร์ รัฐมนตรีทบวงทหารเรือ (Secretary of the Navy) ซึ่งออกมาแสดงตัวคัดค้าน ทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า กัลลาเกอร์ สมควรที่จะถูกสอบสวน

ศาลทหารตัดสินยกฟ้อง กัลลาเกอร์ เมื่อเดือน ก.ค. สำหรับข้อหาฆาตกรรมนักโทษไอเอสที่ได้รับบาดเจ็บในอิรักโดยการใช้มีดแทงเข้าไปที่คอของเขา แต่ยังคงมีความผิดฐานถ่ายรูปคู่กับศพนักโทษ ซึ่งทำให้ต้องถูกลดยศ

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวประกาศในเดือนนี้ว่าผู้นำสหรัฐฯ มีคำสั่งคืนยศให้แก่ กัลลาเกอร์ และยังอภัยโทษให้ทหารบกอีก 2 นายที่ก่ออาชญากรรมสงครามในอัฟกานิสถาน

นักวิจารณ์ชี้ว่าคำสั่งของ ทรัมป์ ถือเป็นการบั่นทอนกระบวนการยุติธรรมของฝ่ายทหาร และยังทำให้สหรัฐฯ ถูกมองว่าเพิกเฉยไม่เอาผิดกับผู้ที่ก่อความรุนแรงในสนามรบ

สื่อสหรัฐฯ ได้เผยแพร่เนื้อหาในจดหมายของ สเปนเซอร์ ซึ่งเขาออกตัวว่าไม่เห็นด้วยกับ ทรัมป์ และยืนยันความจำเป็นที่จะต้อง “รักษาไว้ซึ่งกฎระเบียบและวินัยของทหารทุกลำดับชั้น” ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือเชื่อว่าสามารถกระทำได้ผ่านการตรวจประเมินภายในองค์กร (peer review)

“หลักนิติธรรมคือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากศัตรู” สเปนเซอร์ ระบุ “แต่ก็น่าเสียดายที่มันชัดเจนแล้วว่า ตัวผมเองไม่ได้มีความเข้าใจตรงกันกับท่านผู้บัญชาการสูงสุด (Commander in Chief) ซึ่งเป็นคนแต่งตั้งผม”

ชัค ชูเมอร์ แกนนำ ส.ว. เดโมแครต กล่าวชื่นชม สเปนเซอร์ ที่ “กล้าลุกขึ้นค้านประธานาธิบดี ทรัมป์ เมื่อเขาทำผิด ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในรัฐบาลและพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ไม่กล้าทำ”

โจนาธาน ฮอฟฟ์แมน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอีกด้านหนึ่งก่อนที่ สเปนเซอร์ จะถูกปลด โดยยืนยันว่ารัฐมนตรีทบวงทหารเรือมีช่องทางติดต่อส่วนตัวกับทำเนียบขาว และ “เคยเสนออย่างเงียบๆ ให้คืนยศแก่ กัลลาเกอร์ รวมถึงอนุญาตให้เขาเกษียณอายุโดยมีเข็มกลัดไทรเดนท์” ซึ่งข้อมูลนี้ขัดแย้งสิ้นเชิงกับจุดยืนที่ สเปนเซอร์ ประกาศต่อสาธารณชน

ทรัมป์ ได้เสนอชื่อ เคนเนธ เบรธเวท (Kenneth Braithwaite) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำนอร์เวย์ ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทบวงทหารเรือแทนที่ สเปนเซอร์

กัลลาเกอร์ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์วานนี้ (24) ว่า เขาอยากจะเกษียณอายุในวันเสาร์ที่ 30 พ.ย. โดยไม่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าควรจะได้ชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ‘นาวีซีล’ หนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสหรัฐฯ ต่อไปหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น