บอสเพนตากอนชี้สหรัฐฯ อาจ ‘ปรับ’ กิจกรรมทางทหาร เพื่อฟื้นเจรจา ‘โสมแดง’

รอยเตอร์ – มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (13 พ.ย.) ว่าพร้อมที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลี หากจะมีส่วนช่วยสนับสนุนกระบวนการพูดคุยกับเกาหลีเหนือที่หยุดชะงักไปนานหลายเดือน

เอสเปอร์ ซึ่งให้สัมภาษณ์สื่อกลุ่มเล็กๆ ที่ฐานทัพร่วมลูอิส-แมคคอร์ดก่อนจะออกเดินทางไปเกาหลีใต้ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเพนตากอนจะ “เพิ่มหรือลด” กิจกรรมดังกล่าว หลังจากที่รัฐบาลโสมแดงยื่นคำขู่จะแก้แค้นสหรัฐฯ หากยังคงเดินหน้าซ้อมรบกับเกาหลีใต้ต่อไป

สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีเริ่มส่อแววตึงเครียด ก่อนจะถึงกำหนดเส้นตายปลายปีนี้ที่ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือกำหนดให้สหรัฐฯ หันมาใช้นโยบายยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นในการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์โสมแดง

เอสเปอร์ ไม่ได้ลงรายละเอียดว่ากิจกรรมอะไรบ้างที่อาจปรับเปลี่ยน ขณะเดียวกันก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะลดการซ้อมรบกับโสมขาว ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก็เคยออกคำสั่งลักษณะนี้มาแล้วเมื่อปี 2018

เกาหลีเหนือวิจารณ์การซ้อมรบระหว่างวอชิงตันและโซลว่าเป็นการ “ซ้อมรุกราน” และเมื่อวานนี้ (13) ก็ได้ยื่นคำขู่จะแก้แค้นอเมริกา หากยังคงเดินหน้าซ้อมรบกับเกาหลีใต้ตามกำหนดเดิม

“ผมคิดว่าเราควรเปิดโอกาสให้กับสิ่งต่างๆ ซึ่งอาจช่วยให้นักการทูตสามารถนั่งลงพูดคุยกับเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีใต้มีส่วนร่วม เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่เราหยิบยกมาพูดคุย” เอสเปอร์ ระบุ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกำหนดเส้นตายที่ผู้นำ คิม ยื่นต่อสหรัฐฯ เอสเปอร์ ยอมรับว่า “เมื่อรัฐบาลต่างชาติหรือผู้นำต่างชาติกล่าวอะไรออกมา ผมถือว่าเป็นเรื่องจริงจัง”

อย่างไรก็ดี เอสเปอร์ ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องคงความพร้อมของทหารอเมริกัน 28,500 นายที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เพนตากอนบางคนชี้ว่าสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยังสามารถคงศักยภาพด้านการรบเอาไว้ได้อย่างเพียงพอ แม้จะลดกิจกรรมการฝึกลงบ้างก็ตาม

ผู้นำเพนตากอนชี้ว่า การเพิ่มหรือลดกิจกรรมซ้อมรบเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ จะต้องปรึกษาหารือกับเกาหลีใต้ก่อน “และไม่ใช่เป็นการอ่อนข้อให้เกาหลีเหนือ หากแต่เป็นการเปิดประตูสำหรับการทูต”

ทรัมป์ พยายามกดดันรัฐบาลโซลให้จ่ายเงินอุดหนุนทหารอเมริกันเพิ่มขึ้น โดย ส.ส.เกาหลีใต้คนหนึ่งเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เรียกร้องเงินเพิ่มเป็น 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี หรือ 5 เท่าของวงเงินอุดหนุนเดิมที่โซลตกลงจะจ่ายให้ในปีนี้ตามสัญญาซึ่งมีอายุ 1 ปี

เอสเปอร์ ปฏิเสธที่จะยืนยันหรือให้ความเห็นในประเด็นนี้ แต่ก็ยอมรับว่าวงเงินที่สหรัฐฯ เรียกร้องไปนั้น “มากพอสมควร”

สถาบันเพื่อการรวบรวมชาติแห่งเกาหลีใต้เผยแพร่ผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งพบว่าชาวเกาหลีใต้ 96% “ไม่เห็นด้วย” กับการจ่ายเงินอุดหนุนทหารอเมริกันเพิ่มขึ้น