สหรัฐฯแย้มยอมลดระดับซ้อมรบร่วมเกาหลีใต้ คลายอารมณ์โกรธโสมแดง

เอเอฟพี - สหรัฐฯอาจลดระดับการซ้อมรบกับเกาหลีใต้เพื่อส่งเสริมการเจรจากับเกาหลีเหนือ จากการเปิดเผยของ มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมในวันพฤหัสบดี(14พ.ย.) ไม่นานหลังจากเปียงยางออกมาเตือนว่าพวกเขากำลังหมดความอดทนแล้ว

อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งเกาหลีเหนือในวันพฤหัสบดี(14พ.ย.) ออกมาปฏิเสธข้อเสนอเจรจารอบใหม่ของสหรัฐฯ ระบุไม่สนใจที่จะพูดคุยเจรจาใดๆที่มีเป้าหมายเพียงแค่ "เอาใจเรา" ก่อนถึงเส้นตายสิ้นปี ที่ทางเปียงยางขีดให้วอชิงตันต้องแสดงความยืดหยุ่นในการเจรจามากกว่านี้

เกาหลีเหนือประท้วงมานานต่อการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ โดยประณามว่ามันเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรุกรานพวกเขา และขีดเส้นตายในช่วงสิ้นปี ให้อเมริกามาพร้อมกับข้อเสนอใหม่เพื่อปลดล็อคการเจรจาเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขา

เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯและเกาหลีใต้ยกเลิกการซ้อมรบร่วมต่างๆนานา หลังการประชุมซัมมิตที่สิงคโปร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ แต่มีกำหนดซ้อมรบร่วมทางอากาศในช่วงปลายเดือนนี้

"เราจะปรับเปลี่ยนลักษณะซ้อมรบของเรา อาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความจำเป็นด้านการทูต" เอสเปอร์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินที่กำลังมุ่งหน้าสู่กรุงโซล ในการเริ่มต้นทัวร์เอเชียของเขาในวันพฤหัสบดี(14พ.ย.)

"ความเป็นไปได้ที่จะลดขนาดการซ้อมรบร่วมไม่ควรถูกมองว่าเป็นการอ่อนข้อแก่เปียงยาง" เขากล่าาว "แต่มันเป็นหนทางสำหรับเปิดประตูเพื่อการทูต สำหรับผมแล้ว การทูตต้องมาก่อน"

ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจาก เกาหลีเหนือในวันพุธ(13พ.ย.) ย้ำถึงข้อเรียกร้องและขู่แก้แค้นหากว่าสหรัฐฯเดินหน้ากำหนดการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้

"มันคือสิทธิป้องกันตนเอง ในการแก้แค้นความเคลื่อนไหวใดๆซึ่งคุกคามอำนาจอธิปไตยและความมั่นคงของเรา" ถ้อยแถงจากคณะกรรมาธิการกิจการแห่งรัฐเกาหลีเหนือระบุโดยปราศจากรายละเอียดเพิ่มเติม

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นน้อยครั้งมากที่คณะกรรมาธิการกิจการแห่งรัฐเกาหลีเหนือ องค์กรบริหารสูงสุดที่มีผู้นำคิม จองอึน เป็นประธาน จะเผยแพร่ถ้อยแถลงหนึ่งๆออกมา

การเจรจาติดหล่มทางตันมาตั้งแต่การประชุมซัมมิตฮานอยระหว่างคิมกับทรัมป์พังครืนลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ท่ามกลางความเห็นต่างเกี่ยวกับการปลดมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานเกาหลีเหนือ

มีการรื้อฟื้นโต๊ะเจรจาระดับคณะทำงานขึ้นมาอีกรอบที่สวีเดนในเดือนตุลาคม แต่มันก็พังครืนอย่างรวดเร็ว โดยเกาหลีเหนือกล่าวโทษว่าสหรัฐฯไม่ยอมละทิ้งทัศนคติเดิมๆ

เปียงยางทำการทดสอบขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในนั้นหนหนึ่งเป็นการยิงจากทะเล ซึ่งพวกเขาบอกว่าเป็นการยิงจากเรือดำน้ำ และมันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมทางยุทธศาสตร์

เอสเปอร์ยอมรับว่าการทดสอบทั้งหลายจะช่วยเพิ่มศักยภาพของเกาหลีเหนือ "ทุกครั้งที่คุณทดสอบ คุณได้เรียนรู้บางอย่าง" เขากล่าว "เราจริงจังกับพวกเขาและจับตามองพวกเขาอย่างใกล้ชิด แต่เราจะไม่แสดงปฏิกิริยาเกินขอบเขตหรือทำอะไรบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ปิดประตูการเจรจา"