รอยเตอร์ - ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปอาหารทะเล 2 แห่ง สะท้อนนโยบายสร้างเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเอง หลังความพยายามเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อปลดล็อคมาตรการคว่ำบาตรยังไม่เป็นผล
รัฐบาล คิม จองอึน ยกให้การพัฒนาแบบพึ่งตนเองเป็นหัวใจหลักของยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในระยะ 5 ปี ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2016
วันนี้ (19 พ.ย.) หนังสือพิมพ์โรดองซินมุนซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือได้ลงรายละเอียดข่าวผู้นำ คิม เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานแปรรูปอาหารทะเลยาวเหยียดถึง 2 หน้ากระดาษ เพียง 1 วันหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนออกมากล่าวโทษประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ว่าล้มเหลวในการผลักดันกระบวนการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่มีความหมาย
เจ้าหน้าที่โสมแดงคนหนึ่งระบุว่า วอชิงตัน “ไม่ควรฝันเรื่องการฟื้นเจรจาปลดนิวเคลียร์ หากยังไม่ยกเลิกนโยบายก้าวร้าว” ซึ่งน่าจะหมายถึงแผนซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ และบทลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเปียงยาง
เว็บไซต์โรดองซินมุนยังได้ลงภาพชุด 25 ภาพขณะที่ คิม เดินดูกระชังเลี้ยงปลา, ชมขั้นตอนการผลิตปลาแช่แข็ง และพูดคุยกับแรงงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ด้านสำนักข่าว KCNA รายงานว่า ผู้นำ คิม ตำหนิเจ้าหน้าที่กองทัพโสมแดงที่ปล่อยให้สายการผลิตเกิดความผิดพลาด และเอ่ยชมผู้จัดการโรงงานแห่งหนึ่งว่ามีความเพียรพยายามอย่างซื่อสัตย์ และยังเชิญพนักงานบางคนไปเยือนเปียงยางด้วย
“เรากำลังต่อสู้เพื่อการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน” KCNA อ้างคำพูดของผู้นำคิม
การเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือหยุดชะงักไปนานหลายเดือน แม้ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายจะเคยประชุมซัมมิตกันมาแล้วถึง 3 หนตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปี 2018 ก็ตาม
เปียงยางเรียกร้องให้นานาชาติผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรซึ่งทำให้เศรษฐกิจโสมแดงทรุดหนัก ขณะที่ผู้นำ คิม ยื่นเส้นตายให้สหรัฐฯ หันมาใช้นโยบายยืดหยุ่นกับเกาหลีเหนือมากขึ้นภายในปลายปีนี้