รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์สั่งให้ตำรวจควบคุมตัวแม่ชีชาวออสเตรเลียวัย 71 ปี ไปสอบสวนฐานก่อกวนความสงบ พร้อมยืนยันว่าเป็นสิทธิที่รัฐบาลสามารถกระทำได้ตามกฎหมายต่อชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรม “ไม่พึงประสงค์”
ซิสเตอร์ แพริเซีย ฟ็อกซ์ ผู้ประสานงานของคณะแม่ชีคาทอลิก โนตร์ ดาม เดอ ซิออน (Notre Dame de Sion) ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวออกจากบ้านพัก และถูกกักกันอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในกรุงมะนิลานานเกือบ 24 ชั่วโมง ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันอังคาร (17 เม.ย.) ระหว่างรอเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม
แม่ชี ฟ็อกซ์ เคยไปร่วมกิจกรรมเรียกร้องให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ปล่อยตัวนักโทษการเมือง และเคารพหลักสิทธิมนุษยชน แต่เธอยืนยันว่าไม่ได้มีวัตถุประสงค์ทางการเมือง
“ผมสั่งให้สอบสวนแม่ชีรายนี้ แต่ไม่ได้เนรเทศทันที และไม่ได้ออกหมายจับด้วย แค่เชิญตัวไปสอบปากคำฐานก่อกวนความสงบเรียบร้อย” ดูเตอร์เต ระบุ
แฮร์รี โรเก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ยอมรับว่า รัฐบาลอาจจำเป็นต้องขออภัยที่กักตัว ฟ็อกซ์ เนื่องจากเธอไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกิจกรรมทางการเมือง
“บางทีอาจจะต้องมีการขออภัย เพราะมันเป็นความผิดพลาดชัดเจน” โรเก ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์เอเอ็นซี พร้อมเสนอให้ประธานาธิบดีออกมาชี้แจงคำสั่งและแสดงความรับผิดชอบ
ดูเตอร์เต กล่าวหา ฟ็อกซ์ ว่า “ละเมิดอธิปไตย” ของฟิลิปปินส์ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไปในทางเสียหาย
“คุณไม่มีสิทธิ์วิจารณ์เรา อย่ามาล่วงเกินประเทศของผม... เราไม่เคยทำเช่นนี้กับออสเตรเลีย และไม่เคยทำกับประเทศใดๆ ในยุโรป ทำไมคุณไม่วิจารณ์รัฐบาลตัวเองบ้างล่ะที่ทำกับผู้ลี้ภัยอย่างนั้น พวกเขาหิวโหยและกำลังจะตาย และคุณกลับเสือกไสไล่ส่งพวกเขาออกไปสู่ทะเลเปิด”
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ลี้ภัยและผู้แสดงความจำนงขอลี้ภัยราว 800 คนที่ยังตกค้างอยู่ตามค่ายกักกันในปาปัวนิวกินี ซึ่งส่วนใหญ่ขาดแคลนบริการทางการแพทย์ และไม่ได้รับการเยียวยาสภาพจิตใจ
ออสเตรเลียอ้างว่าศูนย์กักกันในปาปัวนิวกินีนั้น “เพียงพอ” ที่จะรองรับผู้ลี้ภัย และโยนภาระการบริหารดูแลให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น