วันนี้ (18 เมษายน 2561) Airbnb ประกาศเปิดตัว “สำนักงานการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ” แนวคิดระดับโลกเพื่อการสนับสนุนการท่องเที่ยวในวิถีแบบท้องถิ่นอย่างถ่องแท้และยั่งยืนในประเทศและเมืองต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ Airbnb ยังได้เผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพต่อเจ้าของที่พัก ผู้เข้าพัก และเมืองต่างๆ ทั่วโลก พร้อมทั้งประกาศการจัดแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วยผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของการก่อตั้ง Airbnb นักเดินทางได้ค้นพบจุดหมายปลายทางและสถานที่ใหม่ๆ ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่รู้จัก สิ่งเหล่านี้จะนำพาเศรษฐกิจไปสู่ธุรกิจขนาดเล็กชุมชน และคนท้องถิ่นทั่วโลก Airbnb ยกระดับความพยายามในการส่งเสริมและการขยายเศรษฐกิจไปสู่ชุมชน ผ่านโปรแกรมสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรและกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนถึงการแนะนำสถานที่ที่ยังไม่ค่อยเป็นรู้จักให้แก่นักเดินทาง รวมไปถึงการสนับสนุน พฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น ผ่านทางสำนักงานการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่เปิดขึ้นใหม่นี้
“จากการการเติบโตอย่างรวดเร็วของการเดินทางและธุรกิจการท่องเที่ยวเติบโตรวดเร็วกว่าในส่วนอื่นๆ นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้คนจำนวนมากควรจะได้รับประโยชน์จากการเติบโต หากแต่ขณะนี้ การท่องเที่ยวแต่ละส่วนไม่ได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียม Airbnb จึงนำเสนอทางเลือกการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมาแทนที่การท่องเที่ยวเชิงปริมาณ (mass travel) ซึ่งมีอยู่มากมายในเมืองต่างๆ มาหลายสิบปี เพื่อกระจายประโยชน์ที่เกิดจากการเดินทางให้ทั่วถึง” นายคริส เลเฮน หัวหน้าฝ่ายสื่อสารและนโยบายโลก Airbnb กล่าว
สำนักงานการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ Airbnb
Airbnb ได้เริ่มดำเนินการหลายอย่างเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพแล้ว เริ่มจากสถานที่ที่สำคัญ อาทิ โยชิโน เซดาร์ เฮาส์ (Yoshino Cedar House) ในญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ชุมชนชนบทที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งจากการสร้างงานให้กับพวกเขา และยังสร้างงานใหม่ๆ ขึ้นมากมาย โครงการพัฒนาชนบท หมู่บ้านเล็กๆ ที่อิตาลี และชนบทของจีน เป็นต้น สำนักงานการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจะสร้างให้ชุมชนท้องถิ่นได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว เพื่อเปิดรับนักเดินทางมาสัมผัสชุมชนในรูปแบบวิถีที่เป็นท้องถิ่นและยั่งยืน
นอกจากนี้ Airbnb ยังช่วยส่งเสริมชุมชนให้สามารถบริหารจัดการที่พักเพื่อรองรับกิจกรรมขนาดใหญ่ต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน ผลการศึกษาของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (World Economic Forum) หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันโอลิมปิกเกมในนครรีโอ-เดจาเนโรเมื่อปี พ.ศ. 2559 พบว่า เมืองดังกล่าวอาจต้องสร้างโรงแรมเพิ่มถึง 257 แห่ง ถ้าผู้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมากไม่ได้เข้าพักกับ Airbnb ขณะที่การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในเกาหลีใต้ครั้งล่าสุด มีผู้เข้าพักกับ Airbnb 15,000 คน ซึ่งเท่ากับห้องพักโรงแรมถึง 7,500 ห้อง ขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการที่พักในภูมิภาคดังกล่าวมีรายได้มากกว่า 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 97% ของรายได้นั้นเป็นของเจ้าของที่พัก จึงสร้างความเชื่อมั่นว่าเงินรายได้จะคงอยู่กับผู้ที่อาศัยในชุมชนท้องถิ่นในประเทศ
เปิดเผยข้อมูลกระแสเชิงบวกข Airbnb ในไทย
วันนี้ Airbnb ได้เปิดเผยข้อมูลปี พ.ศ. 2560 จาก 300 เมือง ใน 80 ประเทศ ที่แสดงถึงประโยชน์ที่เกิดจากการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายความโปร่งใสในการทำงานร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่น
โดยในส่วนของข้อมูลของประเทศไทย พบว่า 1. ประเทศไทยเป็นแหล่งรวมเจ้าของที่พักจำนวนมาก ซึ่งต้อนรับนักเดินทางจาก 185 ประเทศ สู่บ้านและชุมชนของตน 2. ในประเทศไทย เจ้าของที่พักทั่วไปมีรายได้ประมาณ 67,000 บาท (2,100 ดอลลาร์สหรัฐ) จากการให้เช่าที่พัก 29 คืนต่อปี ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเจ้าของที่พักที่เป็นประชาชนและครอบครัวทั่วไป 3. เจ้าของที่พักในประเทศไทยต้อนรับผู้เข้าพักเกือบ 1.2 ล้านคน เมื่อปีที่ผ่านมา และมีนักเดินทางชาวไทยเข้าพักในที่พัก Airbnb ในประเทศต่างๆ 400,000 คน ซึ่งก่อให้เกิดเครือข่ายความสัมพันธ์ท่ามกลางผู้คนต่างที่มา และต่างวัฒนธรรม 4. ในช่วงที่มีงานใหญ่ๆ เช่น งานสงกรานต์ เจ้าของที่พักชาวไทยมีรายได้มากกว่า 160 ล้านบาท (5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นรายได้จากการให้เช่าที่พักที่เพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับรายได้ที่เกิดขึ้นช่วงเวลาปกติ ในประเทศไทย
ขณะที่รายละเอียดในระดับจังหวัด พบว่า 1.กรุงเทพฯ มีจำนวนผู้เข้าพัก 480,000 คน รายได้จากการให้เช่าที่พักโดยปกติ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ (79,110 บาท) จำนวนคืนให้เช่าที่พักต่อเจ้าของที่พักต่อปี รวม 49 คืน 2. ภูเก็ต จำนวนผู้เข้าพัก 70,000 คน รายได้จากการให้เช่าที่พักโดยปกติ 2,820 ดอลลาร์สหรัฐ (96,940 บาท) จำนวนคืนให้เช่าที่พักต่อเจ้าของที่พักต่อปี รวม 29 คืน 3. เกาะสมุย จำนวนผู้เข้าพัก 60,000 คน รายได้จากการให้เช่าที่พักโดยปกติ 5,375 ดอลลาร์สหรัฐ (184,890 บาท)จำนวนคืนให้เช่าที่พักต่อเจ้าของที่พักต่อปี รวม 29 คืน
4. เชียงใหม่ จำนวนผู้เข้าพัก 160,000 คน รายได้จากการให้เช่าที่พักโดยปกติ 1,980 ดอลลาร์สหรัฐ (68,170 บาท) จำนวนคืนให้เช่าที่พักต่อเจ้าของที่พักต่อปี รวม 37 คืน 5. พัทยา จำนวนผู้เข้าพัก 120,000 คน รายได้จากการให้เช่าที่พักโดยปกติ 1,615 ดอลลาร์สหรัฐ (55,600 บาท) จำนวนคืนให้เช่าที่พักต่อเจ้าของที่พักต่อปี รวม 31 คืน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับวิธีที่ชุมชน Airbnb ที่ได้ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพทั่วโลก
● ผู้เข้าพัก ระบุว่าสาเหตุที่ตัดสินใจพัก ณ ที่พักของ Airbnb เพราะต้องการใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่น และผู้เข้าพัก 66% ระบุว่า ข้อดีของสภาพแวดล้อมแบบที่เกิดจากการแบ่งปันที่พักเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกพักกับ Airbnb
● ผู้เข้าพัก 89% ระบุว่าสาเหตุที่เลือก Airbnb เพราะมีที่พักที่ตั้งอยู่ในทำเลดีๆ ในเมืองให้เลือกมากมาย และการใช้จ่ายของผู้เข้าพัก 44% เกิดขึ้นในย่านที่ผู้เข้าพักอยู่อาศัย
● ผู้เข้าพัก 53% ประหยัดค่าใช้จ่ายได้จากการเลือกพักกับ Airbnb ในธุรกิจต่างๆ ในเมืองและย่านที่ผู้เข้าพักไปเที่ยวชม
● เจ้าของที่พัก Airbnb 88% ทั่วโลกให้เช่าที่พักด้วยวิถีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดพื้นที่สำหรับการรีไซเคิล การสนับสนุนให้ผู้เข้าพักใช้บริการขนส่งสาธารณะ และการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์
“ตัวเลขในปี พ.ศ. 2560 สะท้อนให้เห็นความต้องการท่องเที่ยวแบบสัมผัสวิถีท้องถิ่นอย่างถ่องแท้ มีเพิ่มมากขึ้นจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในประเทศไทย” นาง มิช โคห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb กล่าว “เนื่องจากหลายประเทศในภูมิภาคนี้มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะการท่องเที่ยวที่มากเกินไป (overtourism) Airbnb จึงมุ่งมั่นส่งเสริมนักลงทุนด้านงานบริการในท้องถิ่น และสนับสนุนการเติบโตของชุมชนผ่านการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่ส่งผลดีต่อชุมชนและยั่งยืน”
“เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เป็นผู้นำคนสำคัญในอุตสาหกรรมให้เกียรติมาเข้าร่วมในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวของเรา ผู้นำเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เราตั้งตารอวันที่จะได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เพื่อหาทางออกให้กับปัญหาการท่องเที่ยวที่มากเกินไป และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพทั่วโลก”
คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว Airbnb ถูกจัดตั้ง
การส่งเสริมคุณภาพ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ส่งผลดีต่อชุมชนมีความสำคัญอย่างยิ่งในยามที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council - WTTC) กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก่อให้เกิดการจ้างงาน 313 ล้านตำแหน่ง และสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของโลกร้อยละ 10 บริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวขึ้น เพื่อช่วยพัฒนาวิสัยทัศน์ระยะยาวและกิจกรรมของบริษัท เพื่อให้มั่นใจได้ว่า Airbnb เป็นทางออกให้กับปัญหาการท่องเที่ยวที่มากเกินไปซึ่งเกิดจากการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ (Mass travel)
คณะกรรมการที่ปรึกษาการท่องเที่ยวประกอบด้วยผู้นำทางด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกและผู้นำด้านนโยบายที่เป็นผู้วางแนวทางการเจรจาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของอุตสาหกรรมนี้ :
• นายเดวิด สโควซิล (David Scowsill) ประธานบริหารบริษัท EON Reality Inc. และอดีตประธานและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก
• นายทาเล็บ ไรไฟ (Taleb Rifai) อดีตเลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ
• นางโรเซต รัวกัมบา (Rosette Rugamba) ผู้อำนวยการซองกา แอฟริกา (Songa Africa) และอมาโคโร ลอด์จ (Amakoro Lodge) และอดีตอธิบดีการท่องเที่ยวแห่งรวันดา
• ศาสตราจารย์ ดิ ออน บ็อบ คาร์ (Professor the Hon Bob Carr) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่งประเทศออสเตรเลีย และอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งนิวเซาท์เวลส์
“การเดินทางกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้นเนื่องจากประชากรโลกมีฐานะร่ำรวยขึ้น ภายในปี พ.ศ. 2573 ผู้คนอีก พันล้านคนจะเลื่อนสถานะเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งผู้คนเหล่านี้จะมีการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเปิดหูเปิดตาตนเองมากขึ้น การท่องเที่ยวที่กระจุกตัวอยู่ในสถานที่สำคัญๆ จึงเป็นความเสียงของสถานที่เหล่านั้นในอนาคต เพราะการกระจุกตัวของการท่องเที่ยวก่อให้เกิดสภาวะแออัด” นายเดวิด สโควซิล คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวของ Airbnb กล่าว และว่า “Airbnb ได้พิสูจน์ให้ประจักษ์ถึงการเป็นผู้ริเริ่ม การนำนักเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ และการสร้างรายได้ให้กับที่พักในท้องถิ่น การกระจายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองต่างๆ และประเทศที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ต่างกัน เป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขภาวะการท่องเที่ยวที่มีมากเกินไป เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะทำงานร่วมกับพวกเขาในการขยายความพยายามในฐานะที่เป็นผู้นำในธุรกิจใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้”