เอเจนซีส์ - ล่าสุดหลังจากถูกกักตัวเพื่อสอบสวนถึง 2 วัน อดีตผู้นำฝรั่งเศส นิโกลาส์ ซาร์กอซี ถูกตั้งข้อหารับเงินท่อน้ำเลี้ยงจากอดีตผู้นำลิเบีย พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี จำนวน 50 ล้านยูโร เลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสปี 2007 แต่เมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) พบซากอร์ซีถูกปล่อยตัวชั่วคราวเป็นอิสระภายใต้ข้อกำหนดเงื่อนไขประกันตัว แถมอีก 2 อดีตรัฐมนตรีใกล้ชิดติดร่างแหโดนสอบด้วย
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) ว่า พบว่าอดีตประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์กอซี ปกครองฝรั่งเศสในช่วงระหว่างปี 2007-2012 ถูกสั่งฟ้องในข้อหาใช้เงินหาเสียงผิดกฎหมาย โดยรับเงินสินบนท่อน้ำเลี้ยงจากอดีตผู้นำเผด็จการ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี
โดยพบว่า วันพุธ (21) ซาร์กอซี จากการเมืองปีกขวาฝรั่งเศสได้รับการประกันตัวออกมาชั่วคราว หลังจากถูกตำรวจฝรั่งเศสควบคุมตัวถึง 2 วันเต็มเพื่อสอบปากคำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางเศรษฐกิจด้านคอร์รัปชัน การฟอกเงิน และการเลี่ยงภาษี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสต้องการทราบว่ากัดดาฟีหรือใครในลิเบียที่แอบให้เงินผิดกฎหมายการหาเสียงเลือกตั้งปี 2007 ที่ทำให้เขาชนะการเลือกตั้ง
สื่ออังกฤษชี้ว่า การออกมาเปิดโปงซาร์กอซีครั้งนี้ถือเป็นคดีการใช้เงินเลือกตั้งผิดกฎหมายครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นคดีที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับผู้นำฝรั่งเศส แต่ทว่าพบว่า ซาร์กอซียังคงยืนกรานปฏิเสธ และชี้ว่าข้อกล่าวหานั้น “เป็นสิ่งน่าเกลียด”
ภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส การถูกตั้งสอบสวนอย่างเป็นทางการนั้นหมายความว่า “เป็นเรื่องร้ายแรงหรือมีหลักฐานที่สอดคล้อง” ที่ชี้ไปถึงการเกี่ยงข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นอีกก้าวที่ไปสู่การไต่สวนทางศาล แต่ทว่าการสอบสวนสามารถถูกทำให้ยุติโดยที่ไม่มีการสั่งฟ้อง
ในคืนวันพุธ (21) เดอะการ์เดียนรายงานว่า อดีตผู้นำฝรั่งเศสวัย 63 ปีได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ หลังจากถูกปล่อยตัวชั่วคราวภายใต้เงื่อนไข
และในช่วงระหว่าง 2 วันในการถูกตำรวจควบคุมตัว ถือเป็นครั้งแรกที่อดีตประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์กอซี ต้องเผชิญหน้ากับตำรวจในคดีนี้ ซึ่งการสอบสวนในคดีนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2013 อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนไม่พบว่า “ได้เอ่ยชื่อระบุชื่อผู้ต้องสงสัย” แต่ได้มีการทำคดีพุ่งเป้าไปที่การคอร์รัปชัน ลักลอบผิดกฎหมาย การปลอมแปลง การใช้เงินสาธารณะอย่างมิชอบ และการฟอกเงิน
ผู้ตรวจสอบได้ทำการสอบสวนในข้อกล่าวหาที่ว่า ***รัฐบาลลิเบียของกัดดาฟีแอบให้เงินลับๆแก่ซาร์กอซีจำนวนทั้งหมด 50 ล้านยูโรสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งปี 2007 หรือไม่*** ซึ่งจำนวนเงินที่ว่านี้ถือเป็น 2 เท่าของข้อกำหนดการใช้เงินสำหรับการเลือกตั้งตามกฎหมายฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ที่ 21 ล้านดอลลาร์ในเวลานั้น (2007)
นอกจากนี้ เงินก้อนนี้ของกัดดาฟีที่ซาร์กอซีได้รับมา ยังเป็นการละเมิดกฎหมายฝรั่งเศสว่าด้วยเงินจากต่างชาติและการแสดงแหล่งที่มาของเงินทุนหาเสียง
ในเดือนเมษายน 2012 มีเดียพาร์ต (Mediapart) เว็บไซต์เชิงสอบสวนได้เปิดเผยเอกสารที่ทางสื่ออ้างว่า ถูกลงนามโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงลิเบียที่บ่งชี้ว่า รัฐบาลลิเบียอนุมัติการจ่ายเงิน 50 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งของซาร์กอซี
แต่ทว่าก่อนหน้านั้นทั้งซาร์กอซีและโคลด์ เกยองต์ (Claude Guéant) คนใกล้ชิด และอดีตรัฐมนตรีได้ออกมาปฏิเสธว่า “ไม่ใช่เอกสารของจริง” แต่ทว่าในภายหลังศาลฝรั่งเศสตัดสินยืนยันว่า เอกสารที่ว่านี้เป็นเอกสารจริง และยังได้อนุญาตให้ใช้ในการสอบสวนได้ สื่ออังกฤษชี้
นอกจากตัวซาร์กอซีแล้ว ยังพบว่า เกยองต์ถูกฝรั่งเศสสอบสวนด้วยเช่นกัน ในความผิดองค์กรฉ้อโยงคดีสอบสวนกัดดาฟี หลังมีการตรวจพบเงินจำนวน 500,000 ยูโรที่ถูกโอนผ่านทางธนาคาร แต่โคลด์ เกยองต์อ้างว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการขายภาพเขียน 2 ชิ้น
สำหรับซาร์กอซีมาจนถึงเวลานี้ เขาปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือต่อการเรียกตัวสำหรับเข้าการสอบปากคำในคดีนี้
และพบว่าคดีสอบรับเงิน 50 ล้านยูโรจากกัดดาฟี ถูกทำให้คืบหน้าเร็วขึ้น โดย ไซอัด ทาเคียดดีน (Ziad Takieddine) นักธุรกิจชาวเลบานอน-ฝรั่งเศส ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลกัดดาฟี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมีเดียพาร์ตในปี 2016ว่า ***เขาเป็นคนที่ขนกระเป๋าใส่เงินสดจากผู้นำลิเบียสำหรับการช่วยแคมเปญหาเสียงของซาร์กอซี***
ในการให้สัมภาษณ์ในเวลานั้น ทาเคียดดีนยังอ้างว่า เขาเดินทางระหว่างกรุงตริโปลีและกรุงปารีสถึง 3 ครั้งในช่วงปลายปี 2006 และต้นปี 2007 ซึ่งในแต่ละเที่ยวนักธุรกิจรายนี้ขนกระเป๋าใส่เงินสดจำนวนราว 1.5 -2 ล้านยูโร ซึ่งเป็นธนบัตรเงินยูโรฉบับละ 200 ยูโร และ 500 ยูโร โดยชายผู้นี้อ้างว่า กระเป๋าใบนี้เขาได้รับมาจากหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของกองทัพลิเบียซึ่งเป็นคนของเผด็จการกัดดาฟี
เดอะการ์เดียนชี้ต่อว่า นิโกลาส์ ซาร์กอซี มีความสัมพันธ์อย่างสลับซับซ้อนกับอดีตเผด็จการลิเบีย เพราะในทันทีที่เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนใหม่ เขาได้ออกคำเชิญผู้นำลิเบีย เพื่อเดินทางมายังกรุงปารีสในการเยือนอย่างเป็นทางการ พร้อมการต้อนรับขั้นสูง แต่ทว่าซาร์กอซีกลับเป็นผู้นำองค์การนาโตในการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกองกำลังลิเบียของกัดดาฟี และช่วยให้กองกำลังกลุ่มกบฏสามารถโค่นล้มรัฐบาลกัดดาฟีได้สำเร็จงในปี 2011 ซึ่งในเดือนมีนาคม 2011 บุตรชายของกัดดาฟี ซาอีฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี (Saif al-Islam Gaddafi) ได้เรียกร้องเงินคืนจากซาร์กอซีผ่านสื่อยูโรนิวส์ว่า
“ซาร์กอซีสมควรที่ต้องคืนเงินที่เขารับจากลิเบียเพื่อการหาเสียงเลือกตั้งฝรั่งเศสของตัวเอง พวกเราได้ให้เงินเขาใช้หาเสียงเลือกตั้ง และทางเรามีหลักฐานพิสูจน์ได้..และสิ่งแรกที่เราต้องการเรียกร้อง คือ ขอให้ตัวตลกรายนี้คืนเงินกลับมาให้แก่ประชาชนชาวลิเบีย”
แต่ทว่าอดีตผู้นำฝรั่งเศส นิโกลาส์ ซาร์กอซี กลับกล่าวปัดข้อกล่าวหาของบุตรชายอดีตผู้นำเผด็จการลิเบีย โดยชี้ว่าเป็นคำกล่าวที่ออกมา เพราะมีความโกรธแค้นที่เขาร่วมในปฏิบัติการที่สหรัฐฯ เป็นแกนนำในการเข้าแทรกแซงทางการทหาร ส่งผลทำให้กัดดาฟีที่มีอำนาจมาอย่างยาวนานร่วม 41 ปีต้องปิดฉากลง
แต่ทว่าทนายความส่วนตัวของซาร์กอซีไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้ เดอะการ์เดียนรายงาน
นอกจากนี้ ในวันอังคาร (20) พบว่า อดีตรัฐมนตรีฝรั่งเศส และคนใกล้ชิดซาร์กอซีอีกราย บรีซ ออร์เตอเฟอซ์ (Brice Hortefeux) ถูกสอบปากคำจากตำรวจในการเกี่ยวข้องคดีรับเงินช่วยการเลือกตั้งจากกัดดาฟี
ซึ่งในเดือนมกราคมล่าสุด นักธุรกิจฝรั่งเศส Alexandre Djouhriถูกต้องสงสัยจากเจ้าหน้าที่สอบสวนในการทำตัวเป็น“ท่อน้ำเลี้ยง” ส่งผ่านเงินของกัดดาฟีไปยังทีมหาเสียงเลือกตั้งของซาร์กอซี ซึ่งเขาถูกจับในอังกฤษ และได้รับอนุญาตให้การประกันตัวหลังขึ้นศาลกรุงลอนดอน
และพบว่า Djouhri ต้องกลับเข้าเรือนจำแรกรับก่อนการไต่สวนอีกครั้งในเดือนที่ผ่านมา เกิดขึ้นหลังจากที่ฝรั่งเศสออกหมายเป็นครั้งที่ 2 สำหรับการจับกุมเขา ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้ากำหนดการขึ้นฟังการพิจารณาคดีที่จะมีขึ้นภายในเดือนนี้
นอกจากนี้ยังพบว่า ไม่นานมานี้ซาร์กอซีถูกสั่งให้ขึ้นศาลไต่สวนในคดีอื่นเช่นกัน ซึ่งเป็นคดีการใช้เงินหาเสียงเลือกตั้งปี 2012 ที่เขาไม่สามารถกลับมาเป็นผู้นำฝรั่งเศสในสมัยถัดมาได้ ที่รู้จักในชื่อคดี “Bygmalion affair” มีศูนย์กลางคดีที่การทำบัญชีปกปิดการใช้จ่ายเงินหาเสียงจำนวนที่สูงมากกว่าที่กฎหมายเลือกตั้งฝรั่งเศสกำหนด ที่ส่วนใหญ่เป็นการจัดการหาเสียงแบบหรูหรา และการตั้งเวทีหาเสียงขนาดใหญ่เลียนแบบตามอย่างสหรัฐฯ ส่งผลทำให้เขาถูกตั้งฉายาล้อเลียน แต่อดีตผู้นำแดนน้ำหอมปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด เดอะการ์เดียนรายงาน