เอเอฟพี - กลุ่มคนร้ายบุกปล้นเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 4 ล้านยูโรออกไปจากโรงแรมหรู ริตซ์ โฮเท็ล ในกรุงปารีส (Hôtel Ritz Paris) เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (10 ม.ค.) นับเป็นคดีปล้นทรัพย์อุกอาจครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นกับเมืองหลวงของฝรั่งเศส ล่าสุดตำรวจสามารถตามจับคนร้ายได้แล้วอย่างน้อย 3 คน
แก๊งโจรซึ่งมีทั้งหมด 5 คนได้ใช้ขวานทุบกระจกหน้าต่างร้านขายเครื่องเพชร ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมหรูบริเวณจัตุรัส ปลาซ วองโดม เมื่อเวลา 18.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (00.30 น.วันนี้ตามเวลาในไทย) ก่อนจะกวาดเครื่องเพชรหลบหนีไป
กองกำลังความมั่นคงฝรั่งเศสได้ทำการปิดถนนโดยรอบโรงแรมหลังเกิดเหตุ ล่าสุดมีรายงานว่าตำรวจจับกุมคนร้ายได้แล้วอย่างน้อย 3 คน และอยู่ระหว่างตามล่าอีก 2 คนที่เหลือเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (10)
“เราได้ยินเสียงดังเอะอะบนถนน... คนที่เดินผ่านไปมาก็เข้ามาหลบในโรงแรม เราไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งมีคนบอกว่าเครื่องเพชรถูกปล้น” พนักงานโรงแรมคนหนึ่งบอกกับเอเอฟพี
พนักงานโรงแรมอีกคนเล่าว่าเห็นคนขี่จักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงออกไปทางถนนหลังโรงแรมหลังเกิดเหตุปล้น
ร้านอัญมณีแบรนด์ดังหลายร้านได้นำเครื่องเพชรมาวางโชว์ในตู้กระจกด้านหน้าโรงแรมริตซ์
แหล่งข่าวฝ่ายตุลาการคนหนึ่งประเมินมูลค่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยไป “มากกว่า 4 ล้านยูโร” หรือประมาณ 153.4 ล้านบาท
รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เฌราร์ด โกลโลม ออกมากล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติภารกิจ “อย่างมืออาชีพ” และสร้างชื่อเสียงให้แก่วงการตำรวจฝรั่งเศส ขณะที่อัยการปารีสก็ได้เริ่มสืบสวนคดีปล้นทรัพย์ครั้งนี้แล้ว
ปลาซวองโดมซึ่งมีร้านค้าอัญมณีและนาฬิกาแบรนด์หรูตั้งเรียงรายอยู่หลายร้านเคยถูกคนร้ายบุกปล้นกลางวันแสกๆ มาแล้วหลายครั้ง
ทางการฝรั่งเศสได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณจัตุรัสแห่งนี้ซึ่งเป็นที่ตั้งกระทรวงยุติธรรมด้วย หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกโจรกรรมเครื่องเพชรหลายคดี มูลค่าระหว่าง 420,000 ยูโรไปจนถึง 2 ล้านยูโร ในปี 2014
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการปล้นเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเดือน มี.ค.ปี 2016 โดยคราวนี้คนร้ายได้ใช้ปืนและระเบิดขู่พนักงานของร้าน Chopard ก่อนจะกวาดเครื่องเพชรมูลค่า 6 ล้านยูโรหลบหนีไป