บุรีรัมย์ - กลางวันแสกๆ คนร้ายขี่จักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อก ประกบจักรยานยนต์พยาบาลสาวบุรีรัมย์ขณะขี่ไปเข้าเวร รพ. กระชากกระเป๋าจนเหยื่อรถล้มบาดเจ็บท่ามกลางผู้คนสัญจรพลุกพล่าน พลเมืองดีช่วยนำส่งโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายหนีลอยนวล ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุล่าตัวคนร้าย ด้านเหยื่อเผยสังคมทุกวันนี้มีอันตรายรอบด้าน เตือนผู้หญิงเพื่อนพยาบาลและประชาชนให้ระวังตัวมากขึ้น
วันนี้ (28 พ.ค.) ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน กระชากกระเป๋าพยาบาลสาว ที่บริเวณสี่แยกเสนสิริ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงรถจักรยานยนต์ของเหยื่อ ซึ่งมีร่องรอยขูดขีดสีถลอกเสียหาย ส่วนผู้ประสบเหตุทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ทัศนีย์ จันทร์งาม อายุ 30 ปี เป็นผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลบริเวณเท้า แขน ขา และใบหน้า มีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์รักษาบาดแผลแล้ว
จากการสอบถาม น.ส.ทัศนีย์ ผู้ช่วยพยาบาลสาว เล่าด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกว่า ช่วงเช้าได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักที่หมู่บ้านธารารมย์ เพื่อจะไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ตอน 08.00 น. แต่พอจะถึงสี่แยกเสนสิริ ได้มีชายลักษณะผมสูง ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ แต่จำทะเบียนไม่ได้ ใส่เสื้อลายสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ มาประกบด้านข้างแล้วกระชากกระเป๋าสะพายซึ่งภายในมีเงินสดอยู่ประมาณ 200-300 บาท บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารสำคัญ จนทำให้รถล้มได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากนั้นได้พลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำส่งโรงพยาบาล
น.ส.ทัศนีย์เล่าอีกว่า ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวเอง ที่ผ่านมาเคยได้ยินข่าวว่าพยาบาลถูกทำร้าย กระชากกระเป๋า และลวนลามในหลายจังหวัด แต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเองทั้งที่เป็นตอนกลางวันแสกๆ ท่ามกลางผู้คนขับรถสัญจรไปมาพลุกพล่าน จึงรู้สึกว่าสังคมทุกวันนี้มีอันตรายรอบด้านโดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ไปไหนมาไหนคนเดียว จึงอยากจะเตือนเพื่อนพยาบาล หรือประชาชนทั่วไปให้ระมัดระวังตัวมากขึ้น หากเป็นไปได้ก็อย่าไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะอันตรายมีอยู่รอบตัว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานให้จุดบริการประชาชนเทศบาลตำบลอิสาณได้ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เพื่อเป็นเบาะแสหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นซ้ำอีก