แพร่ - ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองเมืองแพร่ตั้งโต๊ะโชว์จับยานรกได้อีกแสนเม็ด หลังสั่งตรวจเข้มเส้นทางสายรอง เจอหนุ่มสูงเม่นบึ่งปิกอัพขนกลางวันแสกๆ ก่อนหิ้วสอบขยายผลตามรวบหนุ่มอุตรดิตถ์ เครือข่ายที่นัดรับยาบ้าได้อีกราย
วันนี้ (30 ส.ค.) นายวัฒนา พุทธิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่, พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.แพร่, พ.อ.จักรเรศ ศิริพงศ์ ผบ.ม.พัน.12 จ.แพร่ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ค้ายาบ้า คือ นายปรีชา แสวงหา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196/1 หมู่ 7 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ และนายนิวัฒิพงษ์ ทองประจักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/22 หมู่ 10 ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์
และสามารถยึดได้ยาบ้าจำนวน 108,000 เม็ด รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สี่ประตู สีขาว รุ่นไทรทัน ทะเบียน กง 9368 แพร่ จำนวน 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.ต.ยุทธชัยกล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายได้ที่ด่านตรวจดงยาง สภ.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ของกลางยาบ้า 1,120,000 เม็ด และไอซ์ 10 กก. รถยนต์ 2 คัน ซึ่งได้นำไปแถลงข่าวที่ตำรวจภูธรภาค 5 แล้ว แต่คดีดังกล่าวทำให้เห็นว่าการลำเลียงยาบ้าเปลี่ยนเส้นทางไปเส้นทางสายรองมากขึ้น จึงได้กำชับพิเศษสำหรับเส้นทางขนาดเล็กในจังหวัดแพร่ทุกเส้นทาง
กระทั่งวันที่ 28 ส.ค. เวลาประมาณ 16.40 น. เจ้าหน้าที่ด่านตรวจหาดรั่ว ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ได้ตรวจค้นรถต้องสงสัยดันดังกล่าว พบนายปรีชา แสวงหา ผู้ต้องหาที่ 1 และยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสีน้ำตาลดำ ซ่อนอยู่พนักพิงเบาะตอนหลัง
สอบสวนนายปรีชาได้รับสารภาพว่าจะนำยาบ้าดังกล่าวไปส่งที่หลักกิโลเมตรที่ 311 ถนนสายอุตรดิตถ์-พิษณุโลก เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าส่งยา และสามารถจับกุมนายนิวัฒิพงษ์ ผู้ต้องหาที่ 2 ที่ได้รับสารภาพด้วยว่ายาบ้าชุดนี้ส่งมอบมาจากนายตง ไม่ทราบนามสกุล ที่ริมทางหลวงหมายเลข 101 หน้าโรงเรียนสูงเม่นชนูปถัมป์ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการติดตามหาตัวต่อไป
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า มาตรการปราบปรามยาเสพติดในจังหวัดแพร่ที่มีทั้งการค้า และเสพในจังหวัด มีสถิติการจับกุมเดือนละ 200 คดี นอกจากนั้นยังมีผู้สมัครใจเผยตัวออกมาเพื่อการเข้าค่ายบำบัด ที่ค่ายทหาร ม.พัน.12 อ.เด่นชัย ในภาพรวมแล้วปีนี้จังหวัดแพร่ทำงานมา 8 เดือนได้ผลน่าพอใจ จน ป.ป.ส.ให้คำชมจังหวัดแพร่สามารถทำงานทั้งปราบปรามและแก้ปัญหาผู้เสพได้ผลดี
ผู้ว่าฯ แพร่ย้ำว่า สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นคือ การบูรณาการความร่วมมือข้าราชการทุกหน่วย และประชาชน รวมทั้งจิตอาสาที่ร่วมกันทำงานจนการแก้ปัญหายาเสพติดเห็นผล ก็ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำงานกันอย่างเต็มที่