เชียงใหม่ - ผบช.ภ.5 ควงผู้ว่าฯ เชียงใหม่ โชว์ผลงานทลายแก๊งค้ายานรกรายใหญ่ภาคเหนือ 4 คดีซ้อน ยึดยาบ้าได้กว่า 2 ล้านเม็ด ไอซ์เป็น 10 กิโลฯ พร้อมเตือนประชาชนระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาดหนัก ย้ำอย่าเชื่อคนโทร.ขอตรวจบัญชีแบงก์ หลังยายวัย 75 ปี ถูกหลอกสูญแล้วกว่า 7 ล้าน
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยผู้แทนฝ่านทหารจากกองทัพภาคที่ 3 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายกิตติชัย เหลืองกำจร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการดำเนินกวาดล้างจับกุมยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 6 ราย ผู้ต้องหา 6 คน ยึดของกลางเป็นยาบ้ากว่า 2,138,200 เม็ด และไอซ์ 10 กิโลกรัม
โดยรายแรกเป็นผลการจับกุมของสถานีตำรวจภูธรนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ได้ผู้ต้องหา 3 คน ได้แก่ นายเสียน กันทะใจ อายุ 45 ปี นายท่อง แซ่ว่าง อายุ 40 ปี และนายเอกราช แซ่ว่าง อายุ 47 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวอำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน พร้อมยึดของกลางยาบ้า 1.12 ล้านเม็ด และไอซ์ 10 กิโลกรัม รวมทั้งรถยนต์กระบะอีก 2 คัน เมื่อวันที่ 23 ส.ค.60
ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจอยู่ มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าเลขทะเบียน บฉ 8749 น่าน ขับมาจากอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ มุ่งหน้าไปอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ต่อมา ได้มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บธ 4916 น่าน วิ่งตามหลังมา ได้ชะลอความเร็วก่อนถึงด่านตรวจ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเรียกตรวจ รถยนต์คันดังกล่าวได้เปลี่ยนช่องทางเดินทางไปทางขวา แล้วเร่งเครื่องหลบหนี จึงได้ไล่ติดตาม และสามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้บริเวณหลัก กม.ที่ 181 ถนนสายเด่นชัย-ศรีสัชนาลัย
ทั้งนี้ พบผู้ขับรถคือ นายเสียน เป็นคนขับ ตรวจพบยาเสพติด จำนวน 12 เป้ มียาบ้า 1,120,000 เม็ด ไอซ์ 10 กิโลกรัม ซุกซ่อนในถังน้ำแข็ง จำนวน 2 ถัง บรรทุกอยู่ด้านหลังของรถ และจากการสืบสวนขยายผลพบว่า รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า เลขทะเบียน บฉ 8749 น่าน เป็นรถนำสำรวจเส้นทาง จึงได้ประสานสถานีตำรวจภูธรศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย สกัดจับกุมได้ที่เขตตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย พบ นายท่อง เป็นคนขับรถ และนายเอกราช นั่งโดยสารมาด้วย จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมรถยนต์ 2 คัน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับว่า ได้ร่วมกันรับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดเชียงราย ไปส่งให้แก่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ในราคาค่าจ้าง 1,000,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสอบสวนขยายผลจับกุมถึงเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านสถานีตำรวจภูธรแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรวจยึดยาเสพติด 2 ราย ยึดของกลางยาบ้าที่คนร้ายทิ้งไว้แล้วหลบหนีได้ 578,000 เม็ด และ 240,000 เม็ด ขณะที่สถานีตำรวจภูธรแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ยึดยาบ้าได้ 100,000 เม็ด
ส่วนสถานีตำรวจภูธรฝาง จังหวัดเชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาคือ นายชนพงษ์ คำปัน อายุ 30 ปี ชาวตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และนายธีรภัทร เฉลิมพลศักดา อายุ 43 ปี ชาวตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมยึดของกลางยาบ้า 80,000 เม็ด รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
นอกจากนี้ ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จับกุม นายวัชระ หรือบ๊อบ คำแก้ว อายุ 33 ปี ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีพฤติกรรมขายยาบ้า พร้อมของกลางยาบ้า 800 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหารับว่า เคยว่าจ้างขนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือไปส่งพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล และผู้ว่าจ้างได้นัดหมายให้ไปรับยาเสพติด ต่อมา ได้ขยายผลไปตรวจยึดยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด ที่บริเวณโคนป้ายชะลอความเร็ว ริมถนนสายเชียงราย-เทิง ตำบลท่าสาย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
สำหรับสรุปผลปฏิบัติการงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5 ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.59-25 ส.ค.60 นั้น ผลการจับกุมภาพรวม 26,711 คดี ผู้ต้องหา 28,019 คน จับกุมข้อหารายสำคัญ 6,630 คดี ผู้ต้องหา 7,475 คน ยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 52,718,960 เม็ด ไอซ์ 421.31กิโลกรัม เฮโรอีน 213.50 กิโลกรัม กัญชา 11.70 กิโลกรัม และฝิ่น 203.76 กิโลกรัม
และโอกาสเดียวกันนี้ ผบช.ภ.5 ยังได้ฝากเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นตำรวจภาค 5 โทรศัพท์ใช้กลอุบายต่างๆ ขอตรวจสอบบัญชีธนาคารว่าเกี่ยวข้องต่อยาเสพติด ขอให้ไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งมีคุณยายชาวเชียงใหม่วัย 75 ปี ถูกหลอกโอนเงินกว่า 7 ล้านบาทไปให้ ซึ่งพบว่ามีต้นทางจากไต้หวัน
“หากมีโทรศัพท์แบบนี้เข้ามาอย่าได้หลงเชื่อ ให้ตัดสายทิ้งไปเลย หรือหากตรวจสอบข้อมูลของหมายเลขโทรศัพท์ก็จะเป็นของหน่วยงานราชการจริง ซึ่งถูกแก๊งคนร้ายแฮ็กข้อมูลมาใช้” ผบช.ภ.5 กล่าวย้ำ