ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ระทึก! รถเก๋งซิ่งแหกด่านตรวจกลางเมืองเชียงใหม่ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าใช้อาวุธปืนยิงล้อกระทั่งจนมุม รวบ 2 ผู้ต้องหา ค้นรถพบยาบ้าซุกซ่อน 177 เม็ด โดยหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นสิบตำรวจตรีสังกัดกองบังคับการสืบสวนภาค 5 ส่วนอีกรายเป็นพ่อค้ายา ขณะที่รองผู้บัญชาการฯ ภาค 5 รุดสอบปากคำด้วยตัวเองที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ยืนยันดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น และมีคำสั่งให้ออกจากราชการทันที
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าช่วงเที่ยงวันนี้ (10 ส.ค. 60) ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กำลังตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรและการกระทำผิดกฎหมายบริเวณถนนคลองชลประทานก่อนถึงแยกตลาดต้นพยอม ปรากฏว่าได้มีรถยนต์เก๋งสีม่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับผ่านมาจึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้เร่งความเร็วและขับหลบหนีไปตามถนนสุเทพและเข้าไปในตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วไปตามถนนมหิดล โดยมีการชนกับรถตามเส้นทางหลบหนี และเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนยิงใส่ล้อรถของคนร้ายจนกระทั่งไปถึงบริเวณสะพานลอยข้ามแยกหนองหอย รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้เสียหลักและไม่สามารถหลบหนีต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อมจับกุม
เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ได้แก่ นายสัจจะ จันทรทวีนุช อายุ 25ปี บ้านเดิมเลขที่ 185/22 หมู่ 3 ต.ท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ คนขับรถ และ ส.ต.ต.กฤษฎาพงษ์ สารเทพ ผบ.หมู่ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บ้านเดิมเลขที่ 183 หมู่ 4 ต.บัว อำเภอบัว จังหวัดน่าน โดยผู้ต้องหาอยู่ในสภาพคล้ายมึนเมา ขณะที่จากการตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวซึ่งเป็นรถยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน งค 3943 เชียงใหม่ พบยาบ้า 177 เม็ดซุกซ่อนอยู่ จึงได้ทำการควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูพิงคราชนิเวศน์ ในส่วนของ ส.ต.ต.กฤษฎาพงษ์นั้น เบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดสั่งให้ออกราชการทันทีเพื่อทำการสอบสวน
ขณะที่ต่อมา พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อติดตามคดีดังกล่าวและร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยว่าเหตุดังกล่าวนี้เริ่มต้นจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจค้นตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ในการป้องกันและกวาดล้างอาชญากรรม ปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าวที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนได้ขับผ่านมาและเจ้าหน้าที่เรียกทำการตรวจ แต่ปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงไล่ตามไปจนกระทั่งสามารถจับกุมได้ พร้อมตรวจค้นในรถพบยาบ้าซุกซ่อนจำนวนประมาณ 200 เม็ด จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวน ทั้งนี้ระหว่างที่ผู้ต้องหาขับรถหลบหนีได้มีการเฉี่ยวชนรถยนต์ของประชาชนเสียหาย 7-8 คัน ซึ่งขอให้เจ้าทุกข์เข้าแจ้งความด้วย
สำหรับหนึ่งในผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่า แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดแน่นอน และเบื้องต้นมีการสั่งให้ออกจากราชการทันที แม้จะอ้างว่าเพียงนั่งรถมาด้วยเท่านั้น แต่มีกฎระเบียบอยู่แล้วว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือผู้ค้ายาเสพติด ส่วนนายสัจจะ ซึ่งเป็นคนขับรถนั้น ยอมรับว่าเป็นเจ้าของยาบ้าดังกล่าว จากประวัติพบว่ามีพฤติกรรมค้ายาเสพติดมานานแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้เป็นสายข่าวยาเสพติดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้จะมีการขยายผลการจับกุมครั้งนี้ต่อไป
