เอเอฟพี - ตำรวจสหรัฐฯ บุกค้นบ้านพักมือปืนกราดยิงคอนเสิร์ตลาสเวกัสพบปืนอีกนับสิบกระบอกพร้อมอุปกรณ์ผลิตระเบิด ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประณามเหตุกราดยิงที่คร่าชีวิตคนไป 59 ศพเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ว่าเป็นการกระทำเยี่ยง “ปีศาจร้าย” แต่ยังไม่พูดว่าจะแก้กฎหมายอาวุธปืนให้เข้มงวดขึ้นหรือไม่ และไม่เอ่ยถึงแรงจูงใจของเหตุสังหารหมู่ที่มีคนตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ระหว่างแถลงข่าวผ่านสื่อโทรทัศน์ ทรัมป์พยายามปลอบขวัญและเรียกร้องให้ชาวอเมริกันรวมกันเป็นหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นแบบแผนคำพูดสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในยุคใหม่เมื่อบ้านเมืองเกิดความสูญเสีย และไม่แตกต่างกับเมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา หลั่งน้ำตาให้กับเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมแซนดีฮุคเมื่อปี 2012 หรือตอนที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช กล่าวว่า “ประเทศชาติกำลังโศกเศร้า” กับเหตุกราดยิงที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค
ทรัมป์ สั่งให้มีการลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศจนถึงเวลาพระอาทิตย์ตกของวันศุกร์ (6) พร้อมสวดภาวนาให้แก่เหยื่อกราดยิง และประกาศจะไปเยือนนครลาสเวกัสในวันพุธ (4)
ตำรวจพบว่ามือปืนที่ลงมือกราดยิงคอนเสิร์ตจนทำให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 500 คน เป็นอดีตพนักงานบัญชีวัย 64 ปี ที่ชื่อ “สตีเฟน เครก แพดด็อก” ซึ่งตัดสินใจปลิดชีพตัวเองก่อนที่หน่วย SWAT จะบุกขึ้นไปถึงห้องที่เขาใช้ก่อเหตุบนชั้น 32 ของโรงแรม มัณฑะเลย์ เบย์
พนักงานสอบสวนพบปืนอย่างน้อย 16 กระบอก รวมถึงปืนไรเฟิลอยู่ภายในห้องโรงแรมที่ แพดด็อก เข้าพัก และเมื่อเข้าตรวจค้นบ้าน 1 ใน 2 หลังของเขาก็ยังพบปืนอีก 18 กระบอก รวมถึงอุปกรณ์ผลิตระเบิดด้วย
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังไม่ปักใจที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างว่า แพดด็อก เป็น “ทหารของรัฐคอลีฟะห์” และแม้จะยังไม่ทราบแรงจูงใจของเขา แต่การสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดนี้ก็ทำให้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนกลับมาเป็นประเด็นดีเบตร้อนแรงในสหรัฐฯ อีกครั้ง
ซาราห์ ฮักคาบี แซนเดอร์ส เลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว ระบุว่า “นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการเมือง” ซึ่งก็เป็นมุกเดิมๆ ที่ฝ่ายสนับสนุนการถือครองปืนมักจะนำมาอ้างเวลาถูกสังคมกดดัน
“ยังมีเวลาและสถานที่ที่จะอภิปรายเรื่องการเมืองกันอีกเยอะ แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่เราจะต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว”
ผู้นำสหรัฐฯ เองก็กล่าวสำทับว่า “ความเป็นเอกภาพของเราไม่อาจถูกทำลายได้ด้วยความชั่วร้าย ความผูกพันระหว่างเราจะไม่ถูกทำลายด้วยความรุนแรง”
อย่างไรก็ตาม เอกภาพที่ ทรัมป์ พูดถึงดูจะหาได้ยากยิ่งในยามที่ผู้คนตื่นตระหนกกับความสูญเสีย
ฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นคู่แข่งของ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว ออกมาติเตียนสมาคมไรเฟิลแห่งชาติ (National Rifle Association - NRA) ซึ่งเป็นองค์กรล็อบบี้ยิสต์ที่สนับสนุนให้สภาคองเกรสออกกฎหมายที่ทำให้การซื้อหาท่อเก็บเสียงปืน (gun silencer) ทำได้ง่ายขึ้น
“ผู้คนพากันวิ่งหนีแตกตื่นเพราะตกใจเสียงปืน แล้วคุณลองคิดดูว่าจะมีคนตายเพิ่มขึ้นอีกแค่ไหนถ้ามือปืนมีท่อเก็บเสียง” คลินตัน กล่าวผ่านทวิตเตอร์ หลังจากพรรคเดโมแครตของเธอเคยพยายามที่จะผลักดันกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่มีผลบังคับอย่างจริงจังและยั่งยืน แต่ก็ไม่สำเร็จ
“แค่ความโศกเศร้ายังไม่พอ เราจะต้องทิ้งเรื่องการเมือง และลุกขึ้นสู้กับ NRA และร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
เว็บไซต์ massshootingtracker.org ระบุว่า เฉพาะในปีนี้เกิดเหตุกราดยิงในสหรัฐอเมริกาแล้วมากกว่า 270 ครั้ง ทว่าตัวเลขดังกล่าวยังเป็นที่ถกเถียง
ผลสำรวจล่าสุดของแกลลัป พบว่า แต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตเพราะความรุนแรงจากอาวุธปืนมากกว่า 33,000 รายในสหรัฐฯ และชาวอเมริกันร้อยละ 55 ต้องการให้ภาครัฐกำหนดเงื่อนไขในการซื้อปืนที่เข้มงวดขึ้น
NRA เคยบริจาคเงิน 30 ล้านดอลลาร์อุดหนุนแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ เมื่อปี 2016 ตามข้อมูลจากองค์กรติดตามการเมือง Center for Responsive Politics