เอพี - แหล่งข่าวใกล้ชิดให้ข้อมูลเอพีล่าสุด คณะลูกขุนใหญ่ในคดีสอบสวนรัสเซียยุ่งเลือกตั้งสหรัฐฯ ของโรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษสหรัฐฯ รับฟังข้อมูลจากล็อบบี้ยิสต์ตึกทรัมป์ทาวเวอร์ ที่ถูกระบุว่า “เป็นอดีตทหารหน่วยต่อต้านการจารกรรมลับของอดีตสหภาพโซเวียต” ในการเข้าให้การแบบปิดลับ พบเกี่ยวข้องกับลูกชายคนโตของผู้นำสหรัฐฯ พบกับทนายความรัสเซียเมื่อเดือนมิถุนายน 2016
เอพีรายงานวันนี้ (31 ส.ค.) ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดที่รู้ในเรื่องนี้ ยืนยันกับเอพีล่าสุดว่า “รินาต อัคฮ์เมตชิน” (Rinat Akhmetshin) ได้ปรากฏตัวต่อหน้าคณะลูกขุนใหญ่ของ โรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษสหรัฐฯ ในการเข้าให้ข้อมูลแบบปิดลับไม่กี่สัปดาห์ล่าสุด
ทั้งนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มุลเลอร์และทีมของเขาให้ความสำคัญกับการพบลับของ ***ลูกชายคนโตของทรัมป์ ดอน จูเนียร์ พร้อมด้วย ลูกเขย จาเรด คุชเนอร์ ผู้จัดการหาเสียงในขณะนั้น พอล มานาฟอร์ต *** เพื่อหวังได้ข้อมูลที่จะทำลายคู่แข่ง เป็นการหารือบนตึกทรัมป์ทาวเวอร์เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2016 หรือไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ผู้เป็นพ่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นตัวแทนชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกันสำเร็จ และเป็นความเชื่อมโยงที่ถูกมุลเลอร์มองว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการเข้ามาข้องเกี่ยวการเลือกตั้งสหรัฐฯ ของรัสเซีย
อัคฮ์เมตชินเข้าให้ปากคำถูกรายงานครั้งแรกจากสื่อไฟแนนเชียลไทม์ส แต่ทว่าการยืนยันถึงการเข้าให้ปากคำของอัคฮ์เมตชิน เพิ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อชายผู้นี้ยอมเปิดเผยถึงความเกี่ยวข้องของตัวเขาในการประชุมบนตึกทรัมป์ทาวเวอร์ ซึ่งถูกเปิดเผยระหว่างที่อัคฮ์เมตชินให้สัมภาษณ์พิเศษกับเอพีเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พบว่าล็อบบี้ยิสต์จากตึกทรัมป์ทาวเวอร์ ในอดีตเคยเป็นถึงเจ้าหน้าที่การทหารของอดีตสหภาพโซเวียต และพบว่าชายผู้นี้ในขณะที่ทำงานให้กับกองทัพโซเวียต เขาประจำอยู่ในหน่วยต่อต้านการจารกรรมลับโซเวียต ซึ่งอัคฮ์เมตชินยังเป็นที่รู้จักในฐานะชื่อ “ล็อบบี้ยิสต์วอชิงตัน” เอพีรายงานว่า อัคฮ์เมตชินทำงานเพื่อดูแลผลประโยชน์ให้รัสเซียในความพยายามที่จะดิสเครดิตเรื่องของทนายความ เซอร์เก แมกนิตสกี (Sergei Magnitsky) ที่ต้องจบชีวิตลงในเรือนจำรัสเซีย และได้กลายเป็นที่มาของชื่อกฎหมายคว่ำบาตรสหรัฐฯ “The Magnitsky Act” ที่ชุดคณะร่วมสองพรรคเป็นผู้ร่างและได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส และลงนามบังคับใช้ในปี 2012 โดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา
เอพีรายงานว่า มีรายงานระบุถึงอัคฮ์เมตชินว่า เขามีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานข่าวกรองของรัสเซีย แต่เขาปฏิเสธทั้งหมด และเรียกคำกล่าวอ้างนี้ว่า เป็นเกมสกปรกป้ายสีการหาเสียงเลือกตั้ง
เอพียังชี้ว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมา มุลเลอร์และทีมงานตรวจสอบแสดงสัญญาณความสนใจต่อการประชุมลับบนตึกทรัมป์ทาวเวอร์อย่างชัดเจน จากการที่มีการติดต่อทนายความคนหนึ่งและพบว่ามีชาวรัสเซียที่มากกว่า 1 คนร่วมอยู่ในการพบปะกับลูกชายของทรัมป์ ซึ่งพบว่าในการประชุมในครั้งนั้น นอกเหนือจากอัคฮ์เมตชินที่มีเชื้อสายรัสเซียแล้ว ยังรวมไปถึงทนายความมอสโกซึ่งเป็นตัวหลักของการประชุม นาตาเลีย เวเซลนิตสกายา (Natalia Veselnitskaya) ซึ่งเป็นผู้ที่ขอพบกับลูกชายคนโตของทรัมป์ และให้คำสัญญาว่า เธอมีข้อมูลลับด้านลบของฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอยู่ในมือ
นอกจากนี้ยังพบว่า มีชายที่เกิดในสาธารณรัฐจอร์เจียสมัยอยู่ภายใต้การปกครองของอดีตสหภาพโซเวียต อิเก คาเวลาดซี (Ike Kaveladze) หรือในอีกหนึ่งชื่อ อิรัคลี คาเวลาดซี (Irakly Kaveladze) เป็นผู้ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษาให้กับการประชุมในครั้งนั้น ซึ่งเป็นที่น่าสนใจเมื่อพบว่าชายผู้นี้ดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสของครอคัส กรุ๊ป (Crocus Group) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของรัสเซียที่เคยเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมทางธุรกิจกับผู้นำสหรัฐฯคนปัจจุบันในการนำการประกวดนางงามจักรวาลมายังกรุงมอสโก
และในการประชุมยังมี ร็อบ โกลด์สโตน (Rob Goldstone) ที่มีชื่อเป็นผู้สนทนาตอบโต้กับบุตรชายคนของทรัมป์ผ่านทางอีเมล
เอพีชี้ว่าในอีเมลโต้ตอบระหว่างโกลด์สโตน และดอน จูเนียร์ ทั้งนี้ลูกชายคนโตของผู้นำสหรัฐฯ เป็นผู้ทวีตขึ้นผ่านทวีตเตอร์ แสดงให้เห็นถึงการสนทนากับชายผู้นี้ โดยดอน จูเนียร์อ้างว่า “โกลด์สโตน” เป็นผู้ต้องการให้เขาพบกับบุคคลหนึ่งซึ่งทางโกลด์สโตนได้อ้างว่า เป็นทนายความของรัฐบาลรัสเซีย ที่มีข้อมูลลับฉาวของคู่แข่ง ฮิลลารี คลินตัน ในส่วนของรัสเซียและในส่วนของสนับสนุนของรัฐบาลรัสเซียต่อทรัมป์
“หากว่าสิ่งที่คุณพูดมาเป็นความจริง ผมจะรู้สึกชอบมากโดยเฉพาะหลังจากหน้าร้อนนี้” ทรัมป์ จูเนียร์ เขียนตอบในอีเมลฉบับหนึ่งซึ่งโต้ตอบกับโกลด์สโตน