เอเอเฟพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ผู้นำสภาสูงสหรัฐฯออกมาป้อง ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของพม่า ในวันพฤหัสบดี(14 ก.ย) ว่า เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพพม่า ได้ให้รับปากว่า จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยให้ชาวโรฮิงญาได้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ แถมออกมาป้องพวกปากหอยปากปู ตำหนิซูจีไม่ขยับช่วยโรฮิงญา นั้นไม่สร้างสรรค์ ส่วนแอมเนสตีสากลเปิดภาพประถ่ายดาวเทียม แสดงให้เห็น หมู่บ้านของชาวโรฮิงญากำลังถูกเพลิงไหม้ครั้งมโหฬาร สุดขนลุก เป็นครั้งแรกที่มองได้ชัดจากอวกาศ ถือเป็นหลักฐานเด็ดชี้ “รัฐบาลทหารพม่าจงใจขับให้โรฮิงญาหนีตายออกนอกประเทศ”
เอเอฟพีรายงานวันนี้(15 ก.ย)ว่า มิตช์ แม็คคอนเนล(Mitch McConnell) ผู้นำเสียงข้างมากสภาสูงสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกัน ออกมาให้ความเห็นถึงออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของพม่า ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เก่แก่และยาวนานของซูจี ได้แถงปกป้องเมื่อวานนี้(14 ก.ย)
โดยในแถลงการณ์ แม็คคอนเนลกล่าวว่า “ซูจี ได้เห็นด้วยถึงการช่วยเหลือที่ต้องเกิดขึ้นทันที และการปรับปรุงการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในภมิภาค โดยเฉพาะจากองค์การกาชาดสากล และเธอกล่าวเป็นนัยว่า เธอจะช่วยให้ถึงที่สุด”
ซึ่งเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตร์เรส ได้ออกมายืนยันว่า ในขณะนี้มุสลิมโรฮิงญาประสบปัญหาวิกฤตทางบรรเทาทุกข์ขั้นร้ายแรง
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ซูจี ผู้นำด้านสันติภาพของพม่าตกเป็นจำเลยต่อประชาคมโลกในปัญหารัฐบาลพม่าปราบปรามโรอิงญาเมื่อวันที่ 25 ส.ค โดยอ้างว่าเป็นการเริ่มก่อนโดยกลุ่มติดอาวุธมุสลิมโรฮิงญา ARSA ส่งผลทำให้คลื่นมนุษย์เกือบ 400,000 คน ได้อพยพออกนอกประเทศทันทีเข้าสู่บังกลาเทศที่มีพรมแดนติดกันทางเหนือ
ในการแถลงของมิตช์ แม็คคอนเนลเมื่อวานนี้(14 ก.ย) ยังรวมไปถึง ผู้นำเสียงข้างมากสภาสูงสหรัฐฯ ออกมาตำหนิกลุ่มที่ออกมาวิจารณ์ซูจี โดยเขากล่าวว่า “ในความเห็นของผม การที่สาธารณะออกมาตำหนิ ออง ซาน ซูจี ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ทางด้านการปฎิรูปพม่าที่ถูกฝากความหวังได้มากที่สุดในเวลานี้ นั้นไม่สร้างสรรรค์เสียเลย” และอีกทั้งยังเป็นการทำให้ถ่วงต่อการทำงานของตัวแทนรัฐบาลพม่า”
เอเอฟพีรายงานว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาสว.สหรัฐฯ ที่รวมไปถึง สว. จอห์น แมคเคน ได้ออกแถลงการณ์แสดงเจตจำนงค์ต่อการประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่า และกดดันให้ซูจีเข้าแก้ปัญหา
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานว่า การบุกเผาหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาทางตะวันตกของพม่า สามารถมองได้เห็นจากอากาศ เมื่อล่าสุดองค์การแอมเนสตีสากลได้ออกมาเปิดเผยในวันพฤหัสบดี(14 ก.ย) ถึงภาพถ่ายผ่านดาวเทียม ที่ได้แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในแถลงการณ์ หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า กองกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงพม่าต้องการผลักดันกลุ่มมุสลิมโรฮิงญาให้ออกนอกประเทศ
โดยในแถลงการณ์ของรัฐบาลพม่าออกมายอมรับว่า ในปัจจุบันนี้ หมู่บ้านโรฮิงญาจำนวนอย่างน้อย 30 % ในรัฐยะไข่ ขณะนี้ว่างเปล่า ซึ่งกูเตร์เรสได้ออกมาประณามถึงการทำลายหมู่บ้านโรฮิงญาว่า “เป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง”
โดย ตีรานนา ฮัสซาน(Tirana Hassan) ผู้อำนวยการกลุ่มตอบโต้วิกฤต (crisis response director) ของกลุ่มแอมเนสตีสากลล ได้ชี้ว่า “หลักฐานที่เกิดขึ้นนั้นปฎิเสธไม่ได้เลยว่า กองกำลังความมั่นคงพม่าได้ทำการจุดไฟเผาหมู่บ้านเป้าหมาย เพื่อผลักดันประชาชนโรฮิงญา ให้เดินทางออกนอกพม่าไป ซึ่งอย่างไม่ต้องสัย นี่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างแน่นอน”
โดยในรายงานบนเว็บไซต์แอมเนสตี สากล หนึ่งในพยานโรฮิงญาที่รอดชีวิต เปิดเผยว่า ทหารพม่าร่วม 50 คนเข้ามายังหมู่บ้านจากทาง 2 ด้าน เข้าประชิดโรฮิงญาที่อยู่บริเวณฝั่งแม่น้ำ เริ่มต้นกราดยิงแบบไม่เลือกหน้า ท่ามกลางการหนีตายอย่างดุดชีวิตของประชาชนมุสลิมโรฮิงญา ซึ่งพบว่ามีทางเลือกน้อยมากในการหลบหนี หากไม่สามารถว่ายข้ามแม่น้ำออกไปได้
พยานที่รอดชีวิตชี้ว่า ทหารพม่ามีเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้ชายของชาวโรฮิงญา ด้วยการจ่อยิงในระยะเผาขน และตบหน้าคนที่ไม่สามารถหนีออกไปได้ทัน ซึ่งเป็นการบุกเข้าทำลายอย่างมีระบบและพร้อมกัน
ซึ่งทางแอมเนสตีสากลชี้ว่า บรรดาเจ้าหน้าที่พม่าจะเข้าล้อมหมู่บ้าน ยิงชาวโรฮิงญาที่ยังหลงเหลือ และทำการเผาหมู่บ้านพวงวกเขาเสีย ทางแอมเนสตีสากลประกาศว่า “นี่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”
และทางกลุ่มเพื่อสิทธิมนุษยชนสากลยังชี้ว่า ***นี่เป็นครั้งแรกที่สามารถเห็นควันไฟได้ชัดเจนจากอวกาศ เพราะไม่สามารถเห็นควันไฟได้อย่างชัดเจนจากระดับสูงในเหตุการณ์ที่คล้ายกันเมื่อ 4 ปีก่อนหน้า*** โดยในแถลงการณ์ของแอมเนสตีสากล จากเว็บไซต์ทางการของทางกลุ่ม MGRออนไลน์พบว่า ในการใช้ดาวเทียมเพื่อติดตามเพลิงไหม้ ทางกลุ่มสามารถยืนยันได้ถึงพื้นที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งมโหฬารในรัศมีวงกว้างที่ Myo Thu Gyi เมื่อวันที่ 28 ก.ค ที่ผ่านมา
ซึ่งรายงานของโกบอลนิวส์ แคนาดา ชี้ว่า แอมเนสตีได้เปิดเผยว่า มีกว่า 80 แห่งในรัฐยะไข่ถูกวางเพลิงเผาอย่างจงใจตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม แอมเนสตียอมรับว่า มีรายงานที่เชื่อถือได้ยืนยันว่า กลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาได้เผาหมู่บ้านชาวพุทธในรัฐยะไข่ แต่ทว่าทางแอมเนสตีสากลไม่สามารถยืนยันได้