เอเจนซีส์ - ปฏิบัติการกู้ภัยในเทกซัสทำงานแข่งกับเวลาในวันอังคาร (29 ส.ค.) เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากอิทธิฤทธิ์ของเฮอริเคน “ฮาร์วีย์” ที่ทำให้ฝนตกหนักทำลายสถิติและน้ำท่วมสูงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 มิหนำซ้ำยังมีการพยากรณ์ว่า เฮอริเคนระดับ 4 ลูกนี้กำลังจะหอบฝนกลับไปตกซ้ำในบริเวณเดิมอีกระลอก ขณะที่นายกเทศมนตรีฮุสตันประกาศเคอร์ฟิวเพื่อสกัดการฉวยโอกาสจี้ปล้น และเริ่มมีความกังวลว่า จระเข้หลายร้อยตัวจากฟาร์มใหญ่แห่งหนึ่งอาจหลุดออกมาเนื่องจากระดับน้ำเอ่อสูงจนใกล้ถึงขอบรั้ว
หน่วยฉุกเฉินยังคงระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างอยู่กลางอุทกภัยโดยไม่หยุดพัก หลังจากฮาร์วีย์พัดขึ้นฝั่งที่รัฐเทกซัสเมื่อคืนวันศุกร์ (25) และทำให้ถนนหลายสายกลายเป็นแม่น้ำและย่านที่พักอาศัยในฮุสตัน เมืองใหญ่อันดับ 4 ของอเมริกา กลายเป็นทะเลสาบ
นายกเทศมนตรีซิลเวสเตอร์ เทอร์เนอร์ ประกาศในวันอังคาร (29) ห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลในฮุสตันตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนจนถึง 05.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับปฏิบัติการกู้ภัย และป้องกันผู้ร้ายฉวยโอกาสจี้ปล้น
รายงานระบุว่า เฮอริเคนฮาร์วีย์ที่ล่าสุดหยุดอยู่ในอ่าวเม็กซิโกและคาดว่า จะกลับเข้าฝั่งอีกครั้งเช้าวันพุธ (30) นั้น ทำให้สะพานขาดอย่างน้อย 1 สะพาน, ผนังกั้นน้ำแตก 1 แห่ง, เขื่อน 1 แห่งอยู่ในภาวะเสี่ยง และประชาชนในรัฐเทกซัสกว่า 8,000 คนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงฉุกเฉิน
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติคาดว่า ฮาร์วีย์จะนำฝน 15-30 เซนติเมตรไปตกทางเหนือและตะวันออกของฮุสตัน ตั้งแต่พื้นที่ตะวันออกสุดของเทกซัสจนจรดด้านตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐลุยเซียนา
ทางการออกประกาศเตือนประชาชนในที่ลุ่มอย่างเช่นเมืองนิวออร์ลีนส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเฮอร์ริเคน “แคทรินา” หนักหน่วงที่สุดเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ให้เตรียมพร้อมรับฝนที่จะมีปริมาณถึง 25 เซนติเมตรในช่วง 36 ชั่วโมงข้างหน้า รวมทั้งความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
สื่อเมริกันรายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 30 คน และทางการกังวลว่า ตัวเลขอาจสูงขึ้นหลังจากที่น้ำลดและทีมกู้ภัยสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึง
สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติทวิตว่า ฮาร์วีย์อาจทำลายสถิติปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากพายุหมุนเขตร้อนเพียงลูกเดียว ด้วยปริมาณน้ำฝนถึง 132 เซนติเมตรที่วัดได้ในเมืองซีดาร์บายูเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร (29)
อย่างไรก็ดี คาดว่า ฮาร์วีย์จะอ่อนกำลังลงเมื่อกลับขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือและรัฐมิสซิสซิปปี้ในวันพฤหัสบดี (31)
เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางประเมินว่า อาจมีประชาชนถึง 5 แสนคนในเทกซัสที่ต้องการความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ แต่ขณะนี้ความพยายามหลักพุ่งเป้าไปที่การบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน เนื่องจากชีวิตประชาชนจำนวนมากอยู่ในความเสี่ยง
ขณะเดียวกัน ทางการอพยพผู้พักอาศัยบริเวณรอบโรงงานเคมีที่ผลิตสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์แห่งหนึ่งในเทศมณฑลที่กินพื้นที่ถึงฮุสตัน เพื่อป้องกันไว้ก่อนเนื่องจากเกรงว่า สารเคมีบางอย่างอาจทำปฏิกิริยาหรือทำให้เกิดการระเบิด
นอกจากนี้ยังมีความกังวลกันว่า จระเข้นับร้อยอาจหลุดออกจาก เกเตอร์ คันทรี ซึ่งเป็นสวนสัตว์และเขตสงวนพันธุ์สัตว์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮุสตัน เนื่องจากระดับน้ำห่างจากด้านบนสุดของรั้วที่กักขังจระเข้ 350 ตัว ไม่ถึง 30 เซนติเมตร และเจ้าของสวนสัตว์ยอมรับว่าจนปัญญาที่จะหาทางป้องกัน
จอห์น วอร์เรน จากกรมอุทยานและสัตว์ป่าเทกซัส พยายามคลายความกังวลของประชาชนว่า หากจระเข้เหล่านั้นซึ่งส่วนใหญ่ช่วยมาจากป่า หลุดออกไปจริงก็ยังถือว่า เป็นเพียงส่วนน้อยของจำนวนประชากรจระเข้ในป่า และธรรมชาติของจระเข้ที่ถูกจับมาเลี้ยงมักไม่ไปไกลจากแหล่งอาหาร นอกจากนี้เกเตอร์ คันทรียังอยู่ห่างจากตัวเมืองใหญ่ถึง 24 กิโลเมตร
วันอังคาร (29) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปยังพื้นที่ภัยพิบัติในฮาร์วีย์ เพื่อแสดงความเป็นผู้นำในเหตุการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติใหญ่ครั้งแรกนับจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี รวมทั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำรอย จอร์จ ดับเบิลยู. บุช อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกัน ที่ถูกวิจารณ์ว่ารับมือเฮอร์ริเคนแคทรีนาล่าช้าและไม่เหมาะสม
ซาราห์ ฮักคาบี แซนเดอร์ โฆษกหญิงของทำเนียบขาวแถลงข่าวหลังจากที่ทรัมป์เดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตันว่า ผู้นำสหรัฐฯ จะกลับไปเทกซัสอีกรอบในวันเสาร์ รวมทั้งอาจเดินทางไปลุยเซียนาด้วยหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย
ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวยกย่องการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและรัฐบาลกลางในการรับมือภัยพิบัติครั้งนี้ขณะเดินทางไปยังเมืองคอร์ปัส คริสตี อย่างไรก็ดี ทรัมป์และเมลาเนีย ภรรยา งดไปยังฮุสตันที่ยังจมน้ำสาหัส เนื่องจากไม่ต้องการขัดขวางปฏิบัติการกู้ภัย