เอเอฟพี - มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ เต็งหนึ่งในศึกชิงผู้แทนพรรครีพับลิกัน สร้างความงุนงงอีกครั้งด้วยการ “พลิกลิ้น” เรื่องจะสอบปากคำผู้ต้องหาก่อการร้ายด้วยวิธี “ทรมาน” และตามล่าบุคคลในครอบครัวของพวกเขา โดยยืนยันกับสื่อวอลล์สตรีทเจอร์นัลวานนี้ (4 มี.ค.) ว่า ตนจะไม่สั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ หากได้เป็นประธานาธิบดี
ในถ้อยแถลงที่ส่งถึงหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล ทรัมป์ ซึ่งเวลานี้มีโอกาสสูงมากที่จะได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วงปลายปี ระบุว่า “ผมจะใช้อำนาจทางกฎหมายที่มีหยุดผู้ก่อการร้ายพวกนี้ให้ได้”
“อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจดีว่าสหรัฐฯ มีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ และผมจะไม่สั่งให้กองทัพหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ ละเมิดกฎหมายเหล่านั้น และจะขอคำปรึกษาจากพวกเขา ผมจะไม่สั่งให้ทหารทำผิดกฎหมายแน่นอน”
จุดยืนใหม่ของทรัมป์แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่เขาพูดระหว่างการดีเบตเมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งเขาได้ย้ำคำสัญญาเดิมว่า ถ้าได้เป็นประธานาธิบดีก็พร้อมที่จะ “ทำเสียยิ่งกว่า” การกรอกน้ำ (waterboarding) เพื่อรีดความจริงจากผู้ก่อการร้าย และพร้อมส่งเจ้าหน้าที่ออกตามล่าสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาด้วย
“คุณนึกออกไหมว่าเจ้าพวกสัตว์ร้ายในตะวันออกกลางที่ฆ่าตัดหัวคนเป็นว่าเล่น มันคงจะนั่งคุยกันและนึกขำที่สหรัฐฯ มัวแต่พิรี้พิไรเรื่องการจับนักโทษกรอกน้ำ” ทรัมป์ กล่าวระหว่างการดีเบตเมื่อวันพฤหัสบดี (3)
แม้คำพูดแรงๆ ของ ทรัมป์ จะโดนใจชาวอเมริกันบางกลุ่มที่สับสนและไม่พอใจกับความล่าช้าของปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่สหรัฐฯ กำลังทำอยู่ แต่ขณะเดียวกันมันก็เรียกเสียงประณามอย่างกว้างขวาง
นักวิจารณ์ชี้ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อาจไม่ยอมรับคำสั่งของประธานาธิบดีที่ผิดกฎหมาย
“คำสั่งพวกนี้ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และจะไม่มีทนายคนไหนโต้แย้งเป็นอื่นแน่” ปีเตอร์ ฟีเวอร์ อาจารย์วิชารัฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะจากมหาวิทยาลัยดยุค (Duke University) ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ฟีเวอร์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งด้านความมั่นคงในรัฐบาล บิล คลินตัน และ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงภายในของพรรครีพับลิกันในสัปดาห์นี้ เพื่อประณามวิสัยทัศน์ของทรัมป์ เกี่ยวกับการใช้อำนาจของอเมริกา
“การที่เขาสนับสนุนให้ใช้วิธีทรมานผู้ต้องหาอย่างเกินขอบเขต เป็นสิ่งที่ไม่อาจอภัยได้” จดหมายดังกล่าว ระบุ
ไมเคิล เฮย์เดน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ก็ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ว่า เจ้าหน้าที่ทุกคน “มีหน้าที่ต้องปฏิเสธคำสั่งซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความขัดแย้งทางอาวุธ”
เมื่อวานนี้ (4) ส.ว.ลินด์เซย์ เกรแฮม สังกัดพรรครีพับลิกัน ก็ได้ส่งหนังสือถึงนายพลระดับสูงของเพนตากอน เพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ ทรัมป์ ให้สัญญาไว้ว่าจะทำ
“ท่านคิดว่าเรื่องพวกนี้มีกฎหมายรองรับหรือไม่ และจะให้คำแนะนำแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไรหากมีคำสั่งเช่นนี้ออกมา” เกรแฮมตั้งคำถาม
ระหว่างการดีเบตเมื่อวันพฤหัสบดี (3) ผู้สมัครคู่แข่งต่างรุมโจมตีเรื่องที่ ทรัมป์ แสดงวิสัยทัศน์กลับไปกลับมา แต่เจ้าตัวก็แย้งง่ายๆ ว่า ตนเป็นคน “ยืดหยุ่น”
สภาคองเกรสสั่งห้ามเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สอบปากคำผู้ต้องหาด้วยวิธีกรอกน้ำ รวมถึงการทรมานที่ป่าเถื่อนอื่นๆ
ทรัมป์ ยังเสนอให้ฆ่าบุคคลในครอบครัวของผู้ต้องหาก่อการร้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายรับไม่ได้เข้าไปใหญ่
“มันเป็นการฆาตกรรมชัดๆ” ยูจีน ฟิเดลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการยุติธรรมทางทหารจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล บอกกับเอเอฟพี
ด้าน พล.อ.อ.ฟิลิป บรีดเลิฟ ผู้บัญชาการนาโต ให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์นี้ว่า ผู้นำกองทัพในยุโรปเริ่มสอบถามตนว่า กองทัพสหรัฐฯ จะเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบใด หาก ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี
“ผมได้รับคำถามมากมายจากเจ้าหน้าที่ยุโรปเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ครั้งนี้... พวกเขาได้เห็นการถกเถียงอย่างกว้างขวางกว่าในอดีตที่ผ่านมา” บรีดเลิฟ กล่าว