เอเอฟพี/MGROnline - แคมเปญหาเสียงเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ที่เริ่มมีบรรยากาศผ่อนคลายลงในช่วงปีใหม่กลับร้อนระอุขึ้นทันควันเมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.) เมื่อมหาเศรษฐีปากเปราะ “โดนัลด์ ทรัมป์” เต็งหนึ่งของพรรครีพับลิกัน ขุดคุ้ยพฤติกรรมความไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยาของอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ขึ้นมาเยาะเย้ย “ฮิลลารี” ซึ่งเป็นคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต
ทรัมป์ ตอกย้ำประเด็นของเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเขาเตือน ฮิลลารี ไม่ให้ดึงอดีตประธานาธิบดีผู้เป็นสามีมาช่วยหาเสียง เนื่องจากประวัติความเจ้าชู้ของ บิล คลินตัน อาจทำให้ภรรยาของเขาไปไม่ถึงฝั่งฝันในการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ
“ถ้า ฮิลลารี คิดจะพาสามีที่มีประวัติล่วงละเมิดสตรีออกมาช่วยหาเสียง แล้วก็ใช้กลยุทธ์แบบผู้หญิงๆ กับผมล่ะก็ เธอคิดผิด” ทรัมป์ โพสต์ข้อความในบัญชีทวิตเตอร์ของเขา ซึ่งมีผู้ติดตามมากถึง 5 ล้านคน
ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์วัย 69 ปี ก็โพสต์ข้อความว่า "คลินตันประกาศจะเอาสามีมาช่วยหาเสียง แต่ในเมื่อเขาเคยแสดงตัวเป็นพวกคลั่งเพศนิยม เพราะฉะนั้น ไม่เหมาะสม”
ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ข่าว “ฟ็อกซ์นิวส์” สื่อโปรดปรานของพวกอนุรักษนิยม เมื่อวันอาทิตย์(27) ว่า บิล คลินตัน “ไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับผม เพราะยุคที่เขาเป็นประธานาธิบดีก็ถือว่าย่ำแย่ที่สุด อย่างที่เธอ (ฮิลลารี) เคยพูดถึงผมนั่นแหละ”
ทั้งนี้ทรัมป์มุ่งอ้างอิงถึงการที่ ฮิลลารี คลินตัน ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ดิมอยน์รีจิสเตอร์ ของรัฐไอโอวาเมื่อไม่นานนี้ โดยติเตียน ทรัมป์ ว่าเป็นพวก “คลั่งเพศนิยม” และ “น่ารังเกียจ” หลังจากที่ใช้ภาษาสแลง Schlong ซึ่งแปลว่า “อวัยวะเพศชาย” มาเย้ยหยันเรื่องที่เธอเคยแพ้ บารัค โอบามา เมื่อปี 2008 และยังวิจารณ์เรื่องที่เธอขอเวลาไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างการดีเบตของพรรคเดโมแครตครั้งล่าสุด
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงยังกล่าวหา ทรัมป์ ว่า “ส่งเสริมการโฆษณาชวนเชื่อของพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส)” เพราะคำพูดที่แสดงถึงความเกลียดชังมุสลิมของ ทรัมป์ กำลังถูกพวกไอเอสใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาแนวร่วมใหม่ๆ
ทรัมป์ เรียกร้องให้ คลินตัน ออกมาขออภัยในเรื่องนี้ ทว่าเธอก็ทำเฉย
ในขณะที่การหยั่งเสียงเพื่อคัดเลือกตัวแทนของแต่ละพรรคไล่เรียงไปตามมลรัฐต่างๆ กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเริ่มต้นที่ไอโอวาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มหาเศรษฐีวัย 69 ปีผู้มีวาจาเถรตรงดุเดือดรายนี้ยังคงเป็นเต็งหนึ่งที่ครองใจฐานเสียงส่วนใหญ่ของ GOP และมีแนวโน้มชัดเจนว่าจะได้ลงสนามดวลแบบตัวต่อตัวกับ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016
บิล คลินตัน เผชิญข้อครหาเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ และตอนที่เขาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ยอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์สวาทกับ “โมนิกา ลูวินสกี” ซึ่งเข้ามาฝึกงานในทำเนียบขาว
หลังข่าวสัมพันธ์สวาทกับ ลูวินสกี ถูกเปิดโปง คลินตัน ก็ถูกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงมติในเดือน ธ.ค. ปี 1998 ให้ดำเนินการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งโทษฐานเบิกความเท็จ และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ทว่าได้คะแนนเสียงไม่ถึงสองในสามในวุฒิสภา จึงเป็นอันถอดถอนเขาไม่สำเร็จ
ฮิลลารี คลินตัน เคยประกาศไว้ว่า เธอ “ก้าวข้าม” เรื่องอื้อฉาวของสามีมานานแล้ว