รอยเตอร์ - อดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐฯ ฝากถึงน้องชาย “เจบ บุช” ไม่ต้องพยายามพูดแก้ต่างเรื่องที่ตนส่งทหารอเมริกันบุกอิรักในปี 2003 หลังแคมเปญหาเสียงของ เจบ บุช เพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันเริ่มตกที่นั่งลำบาก เนื่องจากได้เงินบริจาคน้อยลง และคะแนนนิยมก็ยังตามหลังคู่แข่งอย่าง เบน คาร์สัน และมหาเศรษฐีปากเปราะ โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่หลายขุม
เจบ บุช ลุกขึ้นมาโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนแทนพี่ชาย หลัง ทรัมป์ หยิบยกเหตุวินาศกรรม 9/11 ขึ้นมาโจมตีอดีตประธานาธิบดี บุช ว่าล้มเหลวในการปกป้องชีวิตชาวอเมริกัน และยังเป็นผู้ออกคำสั่งให้ทหารบุกอิรักเมื่อปี 2003
ผลงานดีเบตซึ่งไม่เข้าตาประชาชนเท่าที่ควรที่รัฐโคโลราโดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (28) ยิ่งเป็นการซ้ำเติม เจบ บุช ซึ่งกำลังเผชิญปัญหายอดเงินบริจาคน้อยลงเรื่อยๆ จนต้องลดขนาดองค์กรหาเสียงในเมืองไมอามี และตัดเงินเดือนพนักงาน
เมื่อวันพฤหัสบดี (29) อดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้ขึ้นปาฐกถาต่อเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนซึ่งเคยทำงานในรัฐบาลของเขาที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยผู้ที่เข้าร่วมงานเผยว่า บุช ในวัย 69 ปี ได้ยิงมุกตลกและวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองหลายเรื่อง แต่ดูจะไม่อนาทรร้อนใจกับประวัติการทำงานของตนที่ผ่านมา
แคมเปญหาเสียงของ เจบ บุช ถูกหยิบยกขึ้นมาคุยระหว่างช่วงถาม-ตอบ ซึ่งอดีตประธานาธิบดีผู้เป็นพี่ชายกล่าวว่า เวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าใครควรได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 และตนเชื่อว่าน้องชายยังเป็นหนึ่งในตัวเก็งของพรรค
บุช ผู้พี่ยอมรับว่า ความสัมพันธ์ในครอบครัวอาจทำให้ เจบ รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องปกป้องตน
ผู้ฟังปาฐกถาคนหนึ่งเล่าว่า อดีตประธานาธิบดีชี้ว่า เจบ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกเช่นนั้น เพราะทุกสิ่งที่เขาตัดสินใจทำลงไปสมัยยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความเหมาะสมต่อกาลเทศะ จึงไม่จำเป็นที่ตัวเขาเองหรือใครๆ จะต้องออกมาแก้ต่างให้อีกในวันนี้
บุช ผู้พี่ ระบุด้วยว่า มีผู้บริจาคอุดหนุนแคมเปญหาเสียงของ เจบ บุช รวมเป็นเงินอย่างน้อย 350,000 ดอลลาร์สหรัฐที่งานระดมทุนในเมืองจอร์จทาวน์ รัฐวอชิงตัน และแม้ว่าการประชันวิสัยทัศน์ของ เจบ ครั้งล่าสุดจะไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร แต่เชื่อว่าน้องชายจะแก้สถานการณ์ได้ในที่สุด
“เขาบอกว่า เขามั่นใจในตัวน้องชายว่ามีประวัติที่ดีพอ ทั้งยังมีหัวใจและความกล้าหาญที่จะเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ” ผู้บริจาครายหนึ่งอ้างคำพูดของ บุช
อดีตผู้นำสหรัฐฯ ยังเอ่ยถึงเมื่อครั้งที่ตนพ่ายเลือกตั้งไพรแมรีให้แก่ จอห์น แม็กเคน ที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์เมื่อปี 2000 แต่สุดท้ายก็สามารถตีตื้นกลับมาเป็นฝ่ายชนะได้
“บุช บอกว่า การหาเสียงย่อมมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา... ถ้าคุณจัดการกับคะแนนนิยมที่ขึ้นๆ ลงๆ ตอนหาเสียงไม่ได้ ก็คงไม่สามารถรับมือกับกระแสขึ้นๆ ลงๆ ตอนเป็นประธานาธิบดีได้แน่นอน”