รอยเตอร์ - เจบ บุช อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ออกมาแถลงตอบโต้คำวิจารณ์ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สมัครเต็งหนึ่งและคู่แข่งของเขาในศึกชิงตัวแทนพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) หลังมหาเศรษฐีปากเปราะได้พูดพาดพิงถึงอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเขาว่าต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001
ทรัมป์ ซึ่งมีคะแนนนิยมพุ่งแรงสุดในบรรดาผู้สมัครสายรีพับลิกันทั้ง 15 คน งัดกลยุทธ์ฟื้นฝอยหาตะเข็บมาโจมตีคู่แข่งอย่าง เจบ บุช เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (16) โดยชี้ว่าพี่ชายของ บุช สมควรถูกตำหนิที่ปล่อยให้มีการก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาเกิดขึ้นในช่วงปีแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
“พี่ชายของผมพยายามตอบสนองวิกฤตที่เกิดขึ้น และเขาได้ทำทุกอย่างที่พวกคุณคาดหวังว่าคนเป็นประธานาธิบดีจะต้องทำ” บุช ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ State of the Union ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น
“ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ก็เชื่อเช่นนั้น และผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขา (ทรัมป์) ถึงพยายามนำประเด็นนี้มาพูด”
เจบ บุช ซึ่งเป็นบุตรชายคนเล็กสุดของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ยังตอกกลับอีกด้วยว่า ข้อคิดเห็นของทรัมป์เกี่ยวกับเหตุการณ์ 9/11 แสดงให้เห็นว่าชายคนนี้ “ขาดความน่าเชื่อถือ” ส่วนนโยบายต่างประเทศของ ทรัมป์ ก็ไม่ต่างอะไรจากรายการเรียลิตีโชว์ที่มหาเศรษฐีผู้นี้เป็นพิธีกรและผู้อำนวยการสร้าง
“ในแง่ของนโยบายต่างประเทศ สิ่งที่คุณทรัมป์พูดทำให้ผมรู้สึกเหมือนเขายังอยู่ในรายการ The Apprentice อย่างไรอย่างนั้น”
ระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการข่าว ฟ็อกซ์นิวส์ ซันเดย์ มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ปากไม่มีหูรูดยังไม่วายเหน็มแนม บุช โดยล้อเลียนคำพูดที่ว่าพี่ชายของเขา “ทำให้พวกเราปลอดภัย”
“เจบบอกว่า พี่ชายผมช่วยให้พวกเราปลอดภัย อืม... ก็แค่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์พังราบลงมาเท่านั้นเองนะ” ทรัมป์กล่าว
“ผมไม่ได้ต้องการติเตียน จอร์จ บุช แต่ผมไม่ชอบใจที่ เจบ พูดว่า พี่ชายผมช่วยให้พวกเราปลอดภัย ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ 9/11 เป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติเรา”
ทรัมป์ เสริมอีกว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้นโยบายสกัดกั้นผู้อพยพผิดกฎหมายอย่างที่เขายึดถือ การวางแผนก่อวินาศกรรมลักษณะนี้คงจะทำได้ยากตั้งแต่ต้น
“ผมเชื่อว่าถ้าผมเป็นผู้บริหารประเทศ ครอบครัว (ผู้อพยพ) พวกนั้น และคนเหล่านั้นคงไม่มีโอกาสเข้ามาในประเทศเรา”
ผู้ก่อการร้ายทั้ง 19 คนที่ลงมือจี้เครื่องบินโดยสาร 4 ลำในวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ล้วนถือวีซาชั่วคราวเดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย ทว่าคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ 9/11 ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องหลายอย่างในกระบวนการพิจารณาคำร้องขอวีซ่า
บุช ยังเปรียบคำพูดของ ทรัมป์ ว่าเหมือนเป็นการโยนบาปให้อดีตประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์โจมตีอ่าวเพิร์ลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
“บางทีสัปดาห์หน้า คุณทรัมป์อาจจะพูดว่า แฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ต้องรับผิดชอบที่ปล่อยให้ญี่ปุ่นโจมตีอ่าวเพิร์ล”