เอเจนซีส์ – โดนัลด์ ทรัมป์ และเบอร์นี แซนเดอร์ส สองผู้สมัครตัวเก็งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางฝูงชนแห่เชียร์เนืองแน่นในนิวแฮมป์เชียร์เมื่อวันอาทิตย์ (7) ก่อนการหยั่งเสียงขั้นต้นแบบไพรมารีในรัฐนี้ ตอกย้ำให้เห็นว่า กระแสต้านกลุ่มอำนาจเก่ามาแรงมากในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016
แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกและผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนที่จะมาถึง ได้ปลุกเร้าผู้สนับสนุน 1,220 คนในพอร์ตสมัธด้วยข้อเรียกร้อง “ปฏิวัติการเมือง” เพื่อโค่นล้มการบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองของกลุ่มธุรกิจที่เขาชี้ว่า เป็นต้นตอปัญหาคอร์รัปชันในวอชิงตัน
ทั้งนี้ แม้ปฏิเสธการบริจาคเงินสมทบก้อนใหญ่ แต่แซนเดอร์สกลับระดมเงินสนับสนุนได้มากกว่าฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดียวกัน ถึง 5 ล้านดอลลาร์ จากการร่วมบริจาคของผู้สนับสนุนรายย่อยเฉลี่ยรายละเพียง 27 ดอลลาร์ แต่รวมแล้วได้ถึง 20 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้แซนเดอร์สสามารถทุ่มงบโฆษณาในนิวแฮมป์เชียร์เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
ห่างออกไปไม่กี่ไมล์ ทรัมป์ นักธุรกิจพันล้านที่ลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน และใช้ทุนของตัวเองในการหาเสียงเป็นหลัก กล่าวกับฝูงชนที่กระตือรือร้นถึงสิ่งที่จะทำให้ “อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
แม้นี่อาจเป็นเพียงประเด็นเดียวที่คู่แข่งจากต่างพรรคเห็นตรงกัน แต่การท้าทายหลักความเชื่อทางการเมืองดั้งเดิมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งแซนเดอร์สและทรัมป์มีคะแนนนำในโพลล์ก่อนการหยั่งเสียงขั้นต้นแบบไพรมารีในนิวแฮมป์เชียร์ที่จะมีขึ้นในวันอังคาร (9)
คลินตันที่มีคะแนนในโพลล์ตามหลังแซนเดอร์ในนิวแฮมป์เชียร์เฉลี่ยถึง 13% เดินทางออกจากรัฐนี้เมื่อวันอาทิตย์ หลังหาเสียงทิ้งทวนเมื่อคืนวันเสาร์ (6) ในสนามกีฬาแห่งเดียวกับแซนเดอร์ แต่มีกองเชียร์น้อยกว่าทั้งจำนวนและความกระตือรือร้น
วันอาทิตย์ คลินตันย้ายไปหาเสียงในเมืองฟลินต์ รัฐมิชิแกนแทน โดยฉวยวิกฤตน้ำในเมืองนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่า ตัวเองกังวลกับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน อดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน สามีของเธอที่เป็นแม่เหล็กสำคัญในแคมเปญหาเสียงที่รัฐไอโอวาที่คลินตันเฉือนเอาชนะแซนเดอร์สแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (1) และแยกไปช่วยหาเสียงให้ที่รัฐเนวาดา ซึ่งจะเป็นสนามเลือกตั้งต่อไปในการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาตัวแทนพรรคเดโมแครตที่ยืดเยื้อเกินคาดนั้น ได้เดินทางกลับไปที่นิวแฮมป์เชียร์เมื่อวันอาทิตย์เพื่อเสวนาวงเล็กๆ และคาดว่าจะปรากฏตัวในการหาเสียงคืนวันจันทร์ร่วมกับคลินตันและเชลซี ลูกสาว
การแข่งขันของเดโมแครตกลายเป็นเกมการบริหารความคาดหวัง โดยกองเชียร์ของคลินตันยืนกรานว่า หากแซนเดอร์สไม่ชนะขาดในนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งอยู่ติดกับรัฐเวอร์มอนต์ที่เป็นบ้านเกิดของเขา เท่ากับว่าแรงส่งของเขากำลังจะเริ่มเอื่อยลง
ทางด้านแซนเดอร์ส ยังคงชูนโยบายที่เป็นมิตรกับครอบครัว เช่น เรียกร้องการประกันสุขภาพถ้วนหน้า การเรียนฟรีในมหาวิทยาลัยของรัฐ และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสองเท่า แม้ถูกวิจารณ์จากคลินตันและผู้นำส่วนใหญ่ในพรรคว่า เป็นนโยบายในฝันที่ทำให้เป็นจริงลำบากก็ตาม โดยแซนเดอร์ส์ยืนกรานว่า หากต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงตามที่อเมริกันชนต้องการ อเมริกาต้องปฏิวัติทางการเมือง
ตรงข้ามกับทรัมป์ที่ดูเหมือนยังพร้อมหากินกับการครองตำแหน่งตัวเก็งในโพลล์ และพูดจาวกไปวนมาระหว่างประเด็นต่างๆ อาทิ คนเข้าเมือง การค้า ขณะหาเสียงในมหาวิทยาลัยพลีมัธ สเตท
นอกจากนั้น อดีตพิธีการเรียลลิตี้โชว์ปากร้ายผู้นี้ยังเย้ย “เจบ บุช” อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริดาและคู่แข่งในพรรคเดียวกัน จากกรณีที่พา “บาร์บารา บุช” แม่ที่เป็นอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ไปช่วยหาเสียงเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน
ทรัมป์ยังตั้งข้อสงสัยในความจงรักภักดีของประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยบอกว่า ตัวเขาเองไม่เคยเรียกอยาตอลเลาะห์ คาเมเนอีของอิหร่านว่าผู้นำสูงสุดเหมือนโอบามา
เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังเชื่อว่า สาเหตุที่เขาได้รับเสียงเชียร์กึกก้องระหว่างโต้วาทีที่เซนต์ แอนเซลม์ คอลเลจเมื่อวันเสาร์คือ การกล่าวหาว่า คณะกรรมการพรรครีพับลิกัน (อาร์เอ็นซี) จัดการให้หอประชุมอัดแน่นด้วยผู้บริจาค
อาร์เอ็นซียืนกรานว่า มีผู้บริจาคเพียง 75 คนจากผู้ร่วมฟังการโต้วาที 1,000 คน และผู้เข้าฟังส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาของวิทยาลัย แต่ทรัมป์ยืนยันว่า นักศึกษาซื้อบัตรมาและขายต่อฟันกำไรจากผู้บริจาคกระเป๋าหนัก
อนึ่ง แม้กองเชียร์ทรัมป์ตามไปให้กำลังใจเนืองแน่นกว่าพันคนเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนแซนเดอร์ส แต่จำนวนกองเชียร์เหล่านั้นลดลงอย่างชัดเจนหลังจากที่ทรัมป์พูดจบ แถมผู้สนับสนุนกลุ่มใหญ่ยังออกจากหอประชุมก่อนเวลาเพื่อไปลุ้นซูเปอร์โบลว์ ผิดกับผู้สนับสนุนแซนเดอร์สที่อยู่ให้กำลังใจจนกระทั่งจบการโต้วาที