รอยเตอร์ - เป็นกระแสฮือฮาอีกระลอกเมื่อมหาเศรษฐีปากเปราะ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครตัวเก็งของพรรครีพับลิกัน ประกาศกลางเวทีปราศรัยเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ว่า ไม่เคยใส่ใจเงินค่าจ้าง 400,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีสำหรับตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาว และหากชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 ก็จะไม่ขอรับเงินเดือน
ทรัมป์ ยังคงเป็นผู้สมัครที่มีคะแนนนิยมมาแรงที่สุดสำหรับการชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันในเวลานี้ แม้ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อนเลยก็ตาม
ในงานเสวนาที่เมืองโรเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ทรัมป์ ถูกตั้งคำถามว่า หากเขาได้เป็นประธานาธิบดีจะลดเงินบำนาญและสวัสดิการด้านสุขภาพของสมาชิกสภาคองเกรสลงบ้างหรือไม่
“อย่างแรกที่ผมจะทำคือบอกพวกคุณตรงนี้เลยว่า ถ้าผมเป็นประธานาธิบดี ผมจะไม่ขอรับเงินเดือน โอเคไหม” ทรัมป์ กล่าว
“มันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญเลยสำหรับผม”
ทรัมป์ วัย 69 ปี ซึ่งสร้างเนื้อสร้างตัวจนเป็นมหาเศรษฐีจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นดาราทีวีเรียลลิตีโชว์ด้วย ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บสให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 405 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ไม่นานนักหลังจากที่ประกาศตัวลงชิงตำแหน่งผู้แทนพรรครีพับลิกันในเดือนมิถุนายน ทรัมป์ อ้างว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขานั้นมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เสียอีก
เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ ซึ่งทำธุรกิจเหมืองแร่จนร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีก่อนจะก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 1921 และ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ซึ่งมาจากตระกูลที่มั่งคั่ง ล้วนสมัครใจบริจาคเงินเดือนประธานาธิบดีให้การกุศล