เอเจนซีส์ - คะแนนนิยมในตัว “โดนัลด์ ทรัมป์” นักธุรกิจฝีปากกล้า แรงดีไม่มีตก โพลล่าสุดซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (26 ก.ค.) จากสองสำนักระบุเจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้นำโด่งในบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนรีพับลิกันลงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งหมด 16 คน เจ้าตัวคุยไม่แปลกใจ ชี้ประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมืองไร้น้ำยา
ผลสำรวจความคิดเห็นของเอ็นบีซี/มาริสต์พบว่า ทรัมป์ซึ่งเป็นพิธีกรเรียลิตีโชว์ชื่อดังด้วย มีคะแนนนำ 7 จุดในนิวแฮมป์เชียร์ และตามผู้ที่มีคะแนนนำในไอโอวาเพียง 2 จุด
ขณะเดียวกัน โพลของซีเอ็นเอ็น/โออาร์ซีระบุว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงของรีพับลิกันส่วนใหญ่ต้องการให้ทรัมป์อยู่ในการแข่งขันต่อ และ 22% คิดว่าเขาจะเป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากรีพับลิกันในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายนปีหน้า ด้วยคะแนนนำห่างผู้สมัครคนอื่นๆ ทั้งหมด มีเพียง เจบ บุช อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริดาที่พ่อและพี่ชายเคยครองทำเนียบขาวมาแล้วเท่านั้นซึ่งยังคงตามไล่จี้พอเห็นหลัง
โดยโพลของซีเอ็นเอ็นระบุว่า ทรัมป์นำผู้สมัครของรีพับลิกันอีก 15 คน ด้วยคะแนน 18% อันดับสองคือบุชที่ได้คะแนน 15%
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์รายการสเตท ออฟ ดิ ยูเนียนของซีเอ็นเอ็นทางโทรศัพท์เมื่อวันอาทิตย์ (26) ว่า ไม่แปลกใจเลยเมื่อดูจากจำนวนคนที่ไปฟังการปราศรัยและลุกขึ้นปรบมือให้ตน และว่า คนอเมริกันกำลังเอือมระอากับนักการเมืองไร้น้ำยาในวอชิงตัน
การสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกหลังจากทรัมป์สร้างความขุ่นเคืองให้ผู้สมัครคนอื่นๆ ของพรรครีพับลิกันด้วยการดูหมิ่นตำแหน่งวีรบุรุษสงครามของวุฒิสมาชิกจอห์น แม็กเคน ที่พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้บารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต ในปี 2008
ว่าที่จริง กระแสความขัดแย้งจากการที่ทรัมป์วิจารณ์ว่า แมคเคนได้เป็นวีรบุรุษสงครามเพราะถูกทหารเวียดนามจับเป็นเชลยศึก 5 ปี และการตราหน้าผู้อพยพชาวเม็กซิโกว่าเป็นอาชญากรและนักข่มขืน รวมทั้งการโจมตีคู่แข่งในพรรคเดียวกันอย่างวุฒิสมาชิกลินด์ซีย์ เกรแฮม และริก เพอร์รี อดีตผู้ว่าการรัฐเทกซัส ดูเหมือนส่งให้เจ้าตัวได้รับความนิยมในบรรดาผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน
ซีเอ็นเอ็นพบว่า พวกที่ต้องการให้ทรัมป์อยู่ในการแข่งขันต่อรวมถึง 58% ของผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายอีแวนเจลิสต์ซึ่งเป็นผิวขาว, 58% ของกลุ่มอนุรักษนิยม และ 57% ของผู้สนับสนุนกลุ่ม “ที ปาร์ตี้”
สำหรับคำถามที่ว่า ต้องการเห็นผู้สมัครคนใดขึ้นเวทีดีเบต ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน (แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกผู้สมัครคนใด) 18% ลงคะแนนให้ทรัมป์ เทียบกับ 14% สำหรับบุช และไม่ถึง 10% สำหรับผู้สมัครแต่ละคนที่เหลือ
ทั้งนี้ การสำรวจของซีเอ็นเอ็นจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 เดือนนี้ โดยสอบถามความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างวัยผู้ใหญ่ 1,017 คน และมีค่าความคลาดเคลื่อน 3.5% ในบรรดากลุ่มตัวอย่างที่มีสิทธิ์เลือกตั้งและลงทะเบียนแล้ว 419 คน ซึ่งแบ่งออกเป็นผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันและผู้ไม่ฝักใฝ่พรรคใดแต่มีความโน้มเอียงที่จะสนับสนุนพรรครีพับลิกัน
ส่วนในโพลของเอ็นบีซีบ่งชี้ว่า ทรัมป์กวาดคะแนนเป็นกอบเป็นกำในสองรัฐแรกที่จะมีการหยั่งเสียงขั้นต้น เริ่มจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์ที่มหาเศรษฐีผู้นี้นำขาดด้วยคะแนน 21% ทิ้งอันดับ 2 คือบุชที่ได้คะแนน 14% ส่วนที่ไอโอวา ทรัมป์ตามหลังสก็อตต์ วอล์กเกอร์ ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซินเพียง 2 จุดคือ 17% ต่อ 19%
ทรัมป์นั้นได้คะแนนนำในการสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศตั้งแต่ก่อนวิจารณ์แมคเคน แต่โพลของซีเอ็นเอ็นแสดงให้เห็นว่า คะแนนนิยมในตัวเขายังคงเหนียวแน่นในระดับรัฐ แม้ถูกคู่แข่งในพรรครีพับลิกันด้วยกันโจมตีอย่างหนักก็ตาม โดยมหาเศรษฐีผู้นี้ทำคะแนนเพิ่ม 6% นับจากปลายเดือนมิถุนายน
ในทางกลับกัน ทรัมป์ก็ถูกมองแง่ลบมากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ จากพวกที่ไม่ได้สนับสนุนเขา โดยโพลของเอ็นบีซีพบว่า 44% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันในไอโอวา และ 53% ในนิวแฮมป์เชียร์บอกว่าไม่ชอบนักธุรกิจพันล้านผู้นี้
เกรแฮม หนึ่งในคู่แข่งที่ถูกทรัมป์โจมตีให้สัมภาษณ์รายการ “ดีส วีก” ของเครือข่ายเอบีซีว่า ไม่คิดว่า ทรัมป์มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้นำประเทศ ขณะที่เพอร์รีให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า การลงสมัครของทรัมป์ไม่ได้ช่วยส่งเสริมลัทธิอนุรักษนิยมเสมอไป
