xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” กลับลำหลังถูกด่าจากทั่วทิศ เหตุพูดไม่คิดให้ลงโทษหญิงทำแท้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ลีลาหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเต็งผู้เสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน. -- Reuters/Mark Kauzlarich.</font></b>

เอเจนซีส์ - ทรัมป์กลับลำหลังโดนด่าเปิง เรื่องลงโทษผู้หญิงที่ทำแท้ง ระบุประเด็นนี้ควรปล่อยให้รัฐจัดการ และหมอที่ทำแท้งเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน โพลหลายสำนักชี้ว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่พอใจมหาเศรษฐีผู้นี้ และผู้มีสิทธิออกเสียงในสนามเลือกตั้งต่อไปที่วิสคอนซินสนับสนุนครูซมากกว่าทรัมป์

ในการให้สัมภาษณ์เครือข่ายเอ็มเอสเอ็นบีซี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (30 มี.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ แคนดิเดตพรรครีพับลิกันที่มีคะแนนนำลิ่ว กล่าวว่า หากอเมริกาห้ามการทำแท้ง ผู้หญิงบางคนอาจดิ้นรนทำแท้งผิดกฎหมาย จึงสมควรได้รับการลงโทษในบางรูปแบบ ซึ่งขณะนี้ เขายังคิดไม่ออกว่า จะลงโทษด้วยวิธีการใด

แต่เมื่อถามว่า ผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงท้องและต้องไปทำแท้งสมควรถูกลงโทษหรือไม่ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์วัย 69 ปี ตอบชัดเจนว่า “ไม่”

บทสัมภาษณ์นี้เรียกเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่จากทั่วสารทิศ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการทำแท้ง

การทำแท้งเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงเผ็ดร้อนมายาวนานในแวดวงการเมืองอเมริกัน รวมทั้งยังกลายเป็นนโยบายหลักของนักการเมืองสายอนุรักษนิยม แม้ศาลสูงสหรัฐฯ วินิจฉัยตั้งแต่ปี 1973 ว่า ผู้หญิงมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องการตัดสินใจของตนเองในการยุติการตั้งครรภ์ก็ตาม

ทรัมป์นั้นได้รับการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงที่เชียร์พรรครีพับลิกันจากการประกาศจุดยืนว่า เป็นคนนอกที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอำนาจเก่าในวอชิงตัน อย่างไรก็ดี นักธุรกิจพันล้านจากนิวยอร์กผู้นี้ที่เคยสนับสนุนการทำแท้ง กำลังถูกกดดันจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมให้พิสูจน์ตัวเองว่า เปลี่ยนใจมาคัดค้านการทำแท้งแล้วจริง ๆ รวมทั้งยังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการแสดงความเห็นดูแคลนผู้หญิงและคนกลุ่มน้อย

จอห์น เคสิก ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอและผู้สมัครที่มีคะแนนรั้งท้ายในอันดับ 3 ในบรรดาแคนดิเดตที่ต้องการเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ กล่าวว่า ผู้หญิงไม่ควรถูกลงโทษ และสำทับว่า เขาต่อต้านการทำแท้ง ยกเว้นในกรณีพิเศษ เช่น การข่มขืน

เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกจากเทกซัสและแคนดิเดตที่มีคะแนนอันดับ 2 รองจากทรัมป์ โจมตีว่า อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ไม่ได้พิจารณาประเด็นนี้อย่างถ้วนถี่ และว่า การสนับสนุนชีวิต (pro-life) ไม่ได้หมายถึงทารกในครรภ์เท่านั้น แต่ต้องรวมถึงมารดาด้วย

ครูซยังเหน็บทรัมป์ว่า พูดได้ทุกอย่าง ขอแค่ให้ตัวเองเป็นที่สนใจก็พอ

ด้าน ฮิลลารี คลินตัน ตัวเก็งตัวแทนพรรคเดโมแครตในศึกชิงทำเนียบขาว วิจารณ์ว่า คำพูดของทรัมป์ร้ายแรงและอันตราย อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศยังฉวยโอกาสนี้หาเสียงโดยบอกว่า ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิเข้าถึงระบบสุขอนามัย ทั้งยังเรียกร้องอเมริกันชน ว่า ไม่ควรปล่อยให้คนที่เหยียบย่ำสิทธิสตรีเฉียดกรายใกล้ทำเนียบขาว

ส่วน เบอร์นี แซนเดอร์ส ผู้สมัครอีกคนจากเดโมแครต โจมตีการแสดงความคิดเห็นของทรัมป์ว่า “น่าอดสู”

ดอว์น ลาเกนส์ จากแพลนเน็ด พาเรนต์ฮูด แอ็กชัน ฟันด์ ปีกการเมืองของกลุ่มรณรงค์เพื่อสุขภาพสตรี ชี้ว่า คำสัมภาษณ์ของทรัมป์ “อันตรายอย่างยิ่ง”

กระทั่งกลุ่มคัดค้านการทำแท้ง ยังบอกว่า ความคิดเห็นของทรัมป์ขัดแย้งกับจุดยืนของกลุ่ม

ดอน เคลมเมอร์ โฆษกที่ประชุมสังฆราชาคาทอลิกแห่งอเมริกา กล่าวว่า แม้ต่อต้านการทำแท้ง แต่ไม่เคยเรียกร้องให้ลงโทษสตรีที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์

อนึ่ง แม้ในรอบกว่า 40 ปีมานี้ ฝ่ายที่คัดค้านการทำแท้งไม่เคยรวบรวมเสียงสนับสนุนเพื่อล้มล้างคำวินิจฉัยของศาลสูงสำเร็จ ทว่า หลายรัฐได้ผ่านกฎหมายเพื่อจำกัดการทำแท้ง

หลังจากถูกรุมประณามจากทั่วสารทิศ ทีมหาเสียงของทรัมป์รีบออกแถลงการณ์แก้เกี้ยวโดยบอกว่า ประเด็นนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจน และควรส่งกลับไปให้แต่ละรัฐเป็นผู้ตัดสินใจ

จากนั้นไม่นาน ทรัมป์กลับลำคำโต โดยบอกว่า เฉพาะหมอทำแท้งเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากในกรณีนี้ผู้หญิงถือเป็นเหยื่อเช่นเดียวกับทารกในครรภ์ แต่สำทับว่า จุดยืนของตนคงเดิมเหมือนกับ โรนัลด์ เรแกน คือสนับสนุนชีวิตโดยมีข้อยกเว้น

ทรัมป์ที่เคยสนับสนุนเดโมแครตมาก่อน ถูกกล่าวหาว่า ชอบกลับลำในประเด็นร้อน และแม้มีคะแนนนำในการเลือกตัวแทนรีพับลิกัน แต่ความท้าทายสำคัญ คือ การเอาชนะใจผู้หญิงที่มีสิทธิออกเสียง

ทั้งนี้ ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส ที่จัดทำในเดือนมีนาคม พบว่า ผู้หญิงที่มีแนวโน้มออกไปใช้สิทธิ 66% “ไม่พอใจ” ทรัมป์ มีเพียง 38% ที่พอใจ

สาเหตุอาจเนื่องมาจากทรัมป์ดูถูกผู้หญิงอย่างเปิดเผยด้วยการเรียกว่า “หมูอ้วน” “อุ้ยอ้าย” และ “สัตว์ที่น่ารังเกียจ” แถมเมื่อเร็ว ๆ นี้ เขายังถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงในสื่อ หลังจากโพสต์ภาพที่ไม่น่าดูนักของภรรยาของครูซเทียบกับภาพอดีตภรรยานางแบบเก่าของตัวเอง

ทรัมป์ปฏิเสธว่า เขาไม่ได้เป็นพวกกีดกันทางเพศ และยืนยันว่า ไม่มีใครเคารพเพศหญิงเท่าตัวเองอีกแล้ว

ทั้งนี้ รัฐต่อไปที่จะจัดการเลือกตั้งขั้นต้นแบบไพรมารี คือ วิสคอนซิน ในวันที่ 5 เม.ย. นี้ โดยโพลของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมาร์แกตต์ ระบุว่า ผู้ที่มีแนวโน้มไปใช้สิทธิ 40% สนับสนุนครูซ มีเพียง 30% ที่สนับสนุนทรัมป์ และ 70% ของผู้มีสิทธิออกเสียงที่ลงทะเบียนไม่ชอบใจทรัมป์ เทียบกับกลุ่มที่พอใจที่มีแค่ 22%.


กำลังโหลดความคิดเห็น