รอยเตอร์ - สื่อสหรัฐฯ เผยกองทัพเรือเตรียมสั่งปลด พล.ร.ท.โจเซฟ โอคอยน์ ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือที่ 7 หลังเกิดเหตุเรือพิฆาตซึ่งปฏิบัติการในน่านน้ำเอเชียเฉี่ยวชนกับเรือสินค้าถึง 2 ครั้งในรอบ 2 เดือน ขณะที่หน่วยกู้ภัยยังคงเร่งค้นหาร่างลูกเรืออเมริกัน 10 นายที่สูญหายจากเหตุเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีเฉี่ยวชนเรือบรรทุกน้ำมันใกล้ๆ สิงคโปร์
แผนปลดนายพล โอคอยน์ มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากเรือพิฆาต ยูเอสเอส จอห์น เอส. แมคเคน ของสหรัฐฯ เฉี่ยวชนกับเรือบรรทุกน้ำมัน อัลนิก เอ็มซี นอกชายฝั่งสิงคโปร์และมาเลเซียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งที่ 4 ที่เกิดขึ้นกับกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ ในปีนี้
“การเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการกองเรือก่อนกำหนดคือสิ่งจำเป็น” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่คนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วานนี้ (22)
ล่าสุด กองทัพเรือสหรัฐฯ ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนปลด โอคอยน์ ซึ่งหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์เนิลนำมาตีแผ่เป็นเจ้าแรก
เจ้าหน้าที่คนเดิมบอกกับรอยเตอร์ว่า พล.ร.อ. สก็อตต์ สวิฟต์ ผู้บัญชาการกองเรือแปซิฟิก จะสั่งปลด โอคอยน์ ระหว่างที่ทั้งคู่พบกันในญี่ปุ่นวันนี้ (23) แต่ไม่ทราบว่ากองทัพจะประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อใด
โอคอยน์ ซึ่งเริ่มรับใช้ชาติจากการเป็นนักบินเครื่องบินขับไล่ F-14 ของกองทัพเรือ มีกำหนดเกษียณอายุในเดือน ก.ย. อยู่แล้ว โดยผู้ที่จะมาแทนตำแหน่งของเขาก็คือ ฟิลิป ซอว์เยอร์ รองผู้บัญชาการกองเรือแปซิฟิก
กองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ มีฐานประจำการอยู่ที่เมืองโยโกสุกะในญี่ปุ่น ประกอบด้วยหมู่เรือรบราว 70 ลำ เครื่องบิน 140 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบิน และกำลังพลอีกราว 20,000 นาย รับผิดชอบพื้นที่ 124 ล้านตารางกิโลเมตรในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีฐานทัพอยู่ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์
ก่อนจะประสบเหตุเฉี่ยวชน ยูเอสเอส จอห์น แมคเคน เคยถูกส่งเข้าไปในรัศมี 12 ไมล์ทะเลรอบเกาะเทียมที่จีนสร้างขึ้นในเดือนนี้ ซึ่งเป็นปฏิบัติการ “ยืนยันเสรีภาพการเดินเรือ” ครั้งล่าสุดของสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านความพยายามอ้างสิทธิ์ของจีนเหนือน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้
หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีของจีนได้ลงบทบรรณาธิการเย้ยหยันวานนี้ (22) ว่า กรณีเรือพิฆาตสหรัฐฯ ชนกับเรือบรรทุกน้ำมันเมื่อวันจันทร์ (21) สะท้อนให้เห็นว่ากองทัพเรืออเมริกันกำลังกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางการเดินเรือในเอเชียเสียเอง ทั้งที่อ้างว่าเข้ามาเพื่อปกป้องเสรีภาพ
“การสูญเสียเรือพิฆาตไปอีกลำไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะจะทำให้ศักยภาพในการป้องกันของอเมริกาถูกตั้งคำถาม และยังเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดเพี้ยนไปยังเกาหลีเหนือและจีน” เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์ โดยไม่ประสงค์ออกนาม
สหรัฐฯ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ได้ระดมทีมนักประดาน้ำ เรือ และเครื่องบินออกค้นหาร่างของลูกเรือ ยูเอสเอส จอห์น แมคเคน อีก 10 นายที่ยังสูญหาย
เมื่อวานนี้ (22) ทีมนักประดาน้ำจากกองทัพเรือและนาวิกโยธินสหรัฐฯ พบศพลูกเรือบางคนติดอยู่ภายในส่วนต่างๆ ของเรือที่ถูกปิดตาย ทว่ายังไม่มีการระบุตัวตน โดยขณะนี้เรือ ยูเอสเอส จอห์น แมคเคน จอดทอดสมออยู่ที่ฐานทัพเรือชางงีในสิงคโปร์
กองทัพเรือสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบศพๆ หนึ่ง ซึ่งกองทัพเรือมาเลเซียพบลอยอยู่ห่างจากจุดที่เรือเฉี่ยวชนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 8 ไมล์ทะเล
ก่อนหน้านี้ เรือพิฆาต ยูเอสเอส ฟิตซ์เจอรัลด์ เพิ่งจะชนกับเรือบรรทุกสินค้าของฟิลิปปินส์จนเกือบจมนอกชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อ 2 เดือนก่อน ทำให้ลูกเรืออเมริกันเสียชีวิต 7 นาย ขณะที่เหตุการณ์ล่าสุดกระตุ้นให้เกิดการสืบสวนในวงกว้าง และระงับปฏิบัติการของกองทัพเรือสหรัฐฯ ชั่วคราว