เอเจนซีส์ - เกาหลีใต้กับอเมริกาเริ่มซ้อมรบประจำปีตามกำหนดในวันจันทร์ (21 ส.ค.) ผู้นำโสมขาวดักคอเปียงยางอย่าใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างทำพฤติกรรมยั่วยุเหมือนที่ผ่านมา ด้านจีนย้ำสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีปัจจุบันอ่อนไหวและเปราะบางอย่างยิ่ง และปักกิ่งไม่คิดว่า การซ้อมรบร่วมของวอชิงตันและโซลจะช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
ถึงแม้การฝึกร่วมทางทหารระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูร้อน โดยปัจจุบันใช้ชื่อว่า “อุลชี ฟรีดอม การ์เดียน” นี้ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการจำลองการทำสงครามสู้รบกันผ่านระบบคอมพิวเตอร์ แต่ก็ทำให้เกาหลีเหนือเป็นเดือดเป็นแค้นได้ทุกครั้งเนื่องจากมองว่า เป็นการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวรุกรานตน
เมื่อวันอาทิตย์ (20) สำนักข่าวของทางการเปียงยางวิจารณ์การซ้อมรบประจำปีนี้ว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ “บุ่มบ่ามสุ่มเสี่ยง” ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ที่ไม่อาจควบคุมได้
ทว่า วอชิงตันและโซลไม่ได้สะทกสะท้านกับคำขู่ดังกล่าว และเริ่มต้นการซ้อมรบนาน 11 วันตามที่กำหนดไว้ในช่วงเช้าวันจันทร์ (21) โดยที่มีทหารอเมริกัน 17,500 นาย และทหารเกาหลีใต้ 50,000 นายเข้าร่วม
กองบัญชาการทหารสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้และกระทรวงกลาโหมโสมขาวระบุว่า จะไม่มีการฝึกซ้อมภาคสนาม เช่น การใช้อาวุธจริงหรือรถถัง แต่นายทหารของทั้งสองฝ่ายจะฝึกบัญชาการรบและการตัดสินใจหน้าจอคอมพิวเตอร์ และทั้งสองประเทศยืนยันว่า การซ้อมรบครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อการป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกเท่านั้น
ในวันจันทร์ (21) ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ ยังออกคำแถลงว่า เกาหลีเหนือไม่ควรใช้การซ้อมรบครั้งนี้เป็นข้ออ้างในการแสดงพฤติกรรมยั่วยุอีก และว่า ที่ต้องซ้อมรบกับสหรัฐฯ เป็นประจำก็เพราะเปียงยางเองเป็นฝ่ายยั่วยุไม่หยุดหย่อน
ปกติแล้ว เกาหลีเหนือจะตอบโต้การซ้อมรบอเมริกา-เกาหลีใต้ด้วยการทดสอบอาวุธและแสดงโวหารข่มขู่คุกคาม เช่น ระหว่างการฝึกร่วมอุลชีเมื่อปีที่แล้ว เปียงยางทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำที่ทะยานไปได้ไกลถึงเกือบ 500 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นระยะทางไกลที่สุดสำหรับอาวุธประเภทนี้ของโสมแดง
นอกจากนั้นหลังสิ้นสุดการซ้อมรบไม่กี่วัน เปียงยางยังทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 และถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สำหรับในปีนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ถึง 2 ครั้ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญภายนอกระบุว่า เป็นจรวดที่น่าจะสามารถยิงไปไกลถึงดินแดนบางส่วนของอเมริกา เช่น อะแลสกา แอลเอ หรือชิคาโก นอกจากนั้นพวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ในอนาคต เปียงยางจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการครอบครองขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่สามารถโจมตีอเมริกาได้
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาพูดจาข่มขู่ตอบโต้เกาหลีเหนือในเดือนที่แล้ว โดยบอกว่าจะตอบโต้การก้าวร้าวรุกรานของเปียงยาง ด้วย “ไฟและเพลิงแค้น” แต่ถูกเปียงยางตะคอกกลับว่า กำลังเตรียมยิงขีปนาวุธ 4 ลูกไปตกใกล้กวม ซึ่งเป็นฐานทัพยุทธศาสตร์ของอเมริกาในมหาสมุทรแปซิฟิก ถึงแม้อีกไม่กี่วันต่อมาผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน จะออกมากล่าวว่า จะรอดูพฤติกรรมวอชิงตันก่อนเดินหน้าแผนการทดสอบยิงขีปนาวุธไปยังเกาะกวม
สำหรับท่าทีของจีน ในวันจันทร์ (21) หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงย้ำว่า สถานการณ์ปัจจุบันบนคาบสมุทรเกาหลีอ่อนไหวและเปราะบางมาก ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้และอเมริกา ต้องร่วมกันผ่อนคลายสถานการณ์ และจีนไม่คิดว่า การซ้อมรบจะช่วยบรรเทาความตึงเครียดได้ แต่ทุกฝ่ายควรปฏิบัติตามข้อเสนอของจีนคือ อเมริกาและเกาหลีใต้ระงับการซ้อมรบ แลกเปลี่ยนกับเกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
หวาสำทับว่า แม้อเมริกาลดกำลังพลที่เข้าร่วมซ้อมรบครั้งนี้ แต่ปักกิ่งยังยืนยันว่า การซ้อมรบไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่อย่างใด