xs
xsm
sm
md
lg

‘ผอ.ซีไอเอ’ ปลอบ ตอนนี้ยังไม่มีอันตรายที่จะเกิด ‘สงครามนิวเคลียร์สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวของทางการเกาหลีเหนือ  แสดงให้เห็นการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปแบบ “ฮวาซอง-14” ของโสมแดงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา  ทั้งนี้การทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือเช่นนี้  ทำให้ความตึงเครียดเพิ่มทวีขึ้น  และมีความหวั่นเกรงกันว่า สงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯกับโสมแดงกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว  </i>
เอพี/บีบีซีนิวส์/รอยเตอร์ - พวกเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ออกมาพูดในวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) ว่า เวลานี้ไม่ได้มีภัยคุกคามว่ากำลังจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ แต่ความเป็นไปได้ที่ประเทศทั้งสองจะทำศึกกัน ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมายกว่าเมื่อสิบปีก่อน

ทั้ง ไมค์ พอมเพโอ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) และ พล.ท.เอช. อาร์. แม็กมาสเตอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างพยายามที่จะสร้างความมั่นใจขึ้นมาว่าสงครามยังเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยในเวลาเดียวกันก็แสดงความสนับสนุนการพูดจาใช้ถ้อยคำแรงๆ ของทรัมป์ด้วย พวกเขาบอกว่าสหรัฐฯและชาติพันธมิตรไม่สามารถที่จะยืนอยู่เฉยๆ อีกต่อไป แล้วปล่อยให้เกาหลีเหนือเดินหน้าทำการพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ไปเรื่อยๆ
<i>พล.ท. เอช. อาร์. แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว  (ภาพจากแฟ้ม)  เขาออกมากล่าวในวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) ว่า เวลานี้สหรัฐฯไม่ได้ขยับใกล้ถึงจุดทำสงครามกับเกาหลีเหนือมากกว่าเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน  แต่เทียบกับเมื่อ 1 ทศวรรษก่อนแล้ว ก็ขยับใกล้เข้าไปมากทีเดียว </i>
“เราไม่ได้เข้าใกล้สงครามมากขึ้นกว่าเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน แต่เราก็กำลังเข้าใกล้สงครามมากกว่าเมื่อ 1 ทศวรรษก่อน” แม็กมาสเตอร์กล่าว พร้อมกับเสริมว่าคณะบริหารทรัมป์กำลังเตรียมตัวเพื่อใช้วิธีทางทหารมาจัดการกับเกาหลีเหนือถ้าหากจำเป็น

แต่เขาย้ำว่าสหรัฐฯ กำลังดำเนิน “ความพยายามทางการทูตอย่างแน่วแน่มากๆ” ที่นำโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ซึ่งเป็นการสมทบรวมกันกับมาตรการลงโทษคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ เพื่อหน่วงเหนี่ยวดึงรั้ง คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ไม่ให้ทำการยั่วยุต่อไปอีก

“กองทัพสหรัฐฯ กำลังล็อกเป้าและกำลังบรรจุอาวุธเอาไว้พร้อมอยู่ทุกวี่ทุกวัน” แม็กมาสเตอร์กล่าว โดยพูดย้ำคำขู่ของทรัมป์

ไม่แปลกใจถ้าเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอีก

ทางด้าน พอมเพโอ ผู้อำนวยการ ซีไอเอ กล่าวว่า โครงการด้านอาวุธของเปียงยางกำลังมีความเคลื่อนไหวใน “อัตราความเร็วที่น่าตื่นตกใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา” และการที่เกาหลีเหนือจะทำการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก็จะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไรเลย

แต่เขาเตือนว่า “ความอดทนอดกลั้นเชิงยุทธศาสตร์” ของวอชิงตันก็กำลังหมดสิ้นลงเช่นเดียวกัน

พอมเพโอกล่าวว่า เขามี “ความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก” ว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะ “พยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนา” โครงการอาวุธของโสมแดง

และเมื่อถูกถามว่าเกาหลีเหนือขยับเข้ามาใกล้แค่ไหนแล้วในการมีอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งสามารถโจมตีใส่สหรัฐฯได้ เขาก็ตอบว่า “พวกเขากำลังใกล้เข้ามา”

ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์” ของโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ คราวนี้ ผู้อำนวยการซีไอเอกล่าวด้วยว่า “พวกเขากำลังเคลื่อนไหวไปสู่ (เป้าหมาย) นั้นในอัตราความเร็วที่น่าตื่นตกใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
<i>ไมค์ พอมเพโอ ผู้อำนวยการซีไอเอ (ภาพจากแฟ้ม)  เขาพูดในวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) ว่า เวลานี้ไม่ได้มีภัยคุกคามว่ากำลังจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ </i>
ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานในเรื่องโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกหลังจากโสมแดงทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป 2 ครั้งในเดือนกรกฎาคม และเร่งรัดให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องผ่านข้อมติลงโทษคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งสร้างความโกรธเกรี้ยวให้แก่ระบอบปกครองของคิม

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา วอชิงตันกับเปียงยางยังมีการใช้ถ้อยคำวาจาที่แสดงความเป็นปรปักษ์ต่อกันมาตอบโต้ใส่กันไม่หยุดหย่อน โดยที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คุกคามที่จะทำให้เกาหลีเหนือเผชิญกับ “ไฟและความโกรธแค้น”

เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) ถึงแผนการที่จะยิงขีปนาวุธไปตกลงใกล้ๆ กับเกาะกวมซึ่งเป็นฐานทัพทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในแปซิฟิก ถึงแม้ยังไม่มีเครื่องบ่งชี้ใดๆ ว่ากำลังจะมีการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นก็ตามที

จากนั้นทรัมป์ได้ตอบโต้โดยกล่าวว่า เกาหลีเหนือควรคาดหมายเอาไว้ได้เลยว่าจะต้องเจอกับ “ความลำบากอย่างใหญ่โต” หากเกิดอะไรขึ้นกับเกาะกวม

ทรัมป์ยังโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์เมื่อวันศุกร์ (11) ว่า “หนทางแก้ปัญหาด้วยวิธีทางทหาร (ของสหรัฐฯ) เวลานี้กำลังอยู่ในภาวะพรักพร้อมเต็มที่แล้ว มีการล็อกเป้าและบรรจุอาวุธเอาไว้พร้อมแล้ว ถ้าหากเกาหลีเหนือกระทำสิ่งที่ไม่ฉลาดขึ้นมา” ขณะที่เปียงยางกล่าวหาเขาว่า “กำลังผลักดัน” คาบสมุทรเกาหลีให้เข้าไปสู่ “ปากขอบของสงครามนิวเคลียร์”

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวพาดพิงถึงผู้นำเกาหลีเหนือ โดยระบุว่า “ถ้าเขา (คิม) เอ่ยปากส่งเสียงข่มขู่อีกครั้ง ... หรือถ้าเขาทำอะไรก็ตามทีต่อเกาะกวมหรือสถานที่อื่นๆ ซึ่งเป็นดินแดนของอเมริกันหรือเป็นสหายของอเมริกันแล้ว เขาก็จะต้องได้รู้สึกเสียใจอย่างแน่นอน และเขาจะรู้สึกเสียใจอย่างรวดเร็วด้วย”

แต่ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ พอมเพโอกล่าวปฏิเสธว่าเวลานี้ไม่ได้มีภัยคุกคามที่จะเกิดความขัดแย้งสู้รบด้วยนิวเคลียร์ขึ้นมา โดยเขาบอกว่า “ผมได้ยินชาวบ้านชาวช่องกำลังพูดจากันเกี่ยวกับเรื่องที่เรากำลังอยู่ตรงจุดปลายแหลมของสงครามนิวเคลียร์แล้ว แต่ผมยังไม่เห็นมีข่าวกรองใดๆ เลยซึ่งบ่งชี้ว่าเรากำลังอยู่ตรงนั้นในวันนี้”
<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (ภาพจากแฟ้ม)  ใช้ถ้อยคำดุเดือดรุนแรงตอบโต้กับฝ่ายเกาหลีเหนือในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา  มีส่วนสำคัญที่ทำให้วิกฤตเกาหลีเหนือร้อนระอุเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ท่าทีเช่นนี้ของเขามีทั้งคนวิจารณ์และคนเชียร์ </i>
ประเทศจำนวนมากแสดงความวิตกกังวลต่อการที่วิกฤตคราวนี้กำลังยกระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น จีนซึ่งเป็นชาติใหญ่รายเดียวที่ยังคงเป็นมิตรสหายของเกาหลีเหนือ ได้ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยับยั้งชั่งใจ

ขณะที่ ซิกมาร์ กาเบรียล รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี ได้เร่งเร้าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่า สหรัฐฯกับเกาหลีใต้ควรซ้อมรบร่วมตามแผนการที่วางเอาไว้ของพวกเขาในลักษณะที่ “ไม่เป็นการยั่วยุใดๆ เท่าที่สามารถกระทำได้”

ในการให้สัมภาษณ์ อาร์เอ็นดี กลุ่มหนังสือพิมพ์ของเยอรมนี กาเบรียลกล่าวว่า การซ้อมรบร่วมเช่นนั้น “อาจทำให้เกาหลีเหนือใช้เป็นโอกาสสำหรับการทำการยั่วยุครั้งใหม่ ตัวอย่างเช่น การยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง-ไกล (intermediate-range) ใส่เกาะกวม”

จากนั้น “ความรุนแรงที่หมุนวนเป็นเกลียวยกระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ” ก็อาจเกิดขึ้นตามมาอย่างรวดเร็ว เขาบอก

อย่างไรก็ตาม สำหรับวุฒิสมาชิก ลินด์ซีย์ เกรแฮม แห่งพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่บ่อยครั้ง เขากลับกล่าวว่าสนับสนุนวิธีจัดการกับเกาหลีเหนือของทรัมป์เท่าที่ใช้มาจนถึงเวลานี้

“ผมไม่คิดว่ากำลังจะเกิดการปฏิบัติการทางทหารอยู่รอมร่อหรอก แต่เราก็กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะเกิดการชนปะทะกับเกาหลีเหนือ” เกรแฮมกล่าวในรายการ “ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์” ในวันอาทิตย์ (13) เช่นกัน “ผมคิดว่ามันเป็นการใช้ภาษาถ้อยคำที่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิง ผมขอหนุนประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องนี้”

กำลังโหลดความคิดเห็น