xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” พูดลอยๆ หลายรัฐ “โกงสะบัด” โอ่ชนะป๊อปปูลาร์โหวตถ้าเลือกตั้งใส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชูนิ้วโป้งให้กับผู้สื่อข่าว บริเวณด้านหน้าคลับเฮาส์ ของสนมกอล์ฟทรัมป์ เนชันแนล ในนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐฯ
เอเจนซีส์ - โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาลอยๆ ในวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีการโกงกันอย่างร้ายแรง โดยมีคนนับล้านๆ ลงคะแนนเสียงกันอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าหักคะแนนเหล่านั้น ตนก็จะชนะ ฮิลลารี คลินตัน ในป๊อปปูลาร์โหวตด้วย ทั้งนี้ เขาออกมาพูดเช่นนี้ หลังจากทีมรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครพรรคเดโมแครตประกาศว่า อาจร่วมเรียกร้องให้นับคะแนนใหม่ในหลายรัฐ ขณะเดียวกัน ที่ปรึกษาคนสำคัญของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังส่งสัญญาณว่า ถ้าเดโมแครตผลักดันการนับคะแนนใหม่ออกนอกหน้า ทรัมป์อาจไม่ระงับแผนการเช็คบิลคดีอีเมลฉาวของคลินตัน

ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา แบบช็อกสายตาคนดูทั่วโลก โดยได้คะแนนเสียงจริงๆ จากประชาชน หรือ ป๊อปปูลาร์โหวต แพ้คลินตันราว 2.2 ล้านเสียง ทว่า เขาได้เสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง หรือ อิเล็กเทอรัลโหวต ซึ่งเป็นตัวชี้ขาดว่าใครจะได้เป็นประมุขคนใหม่ของอเมริกา เกินกว่าครึ่งหนึ่ง ทำให้ตัวคลินตันเองประกาศยอมแพ้ในวันที่ 9 พ.ย. ถึงแม้การนับคะแนนในหลายมลรัฐยังไม่เสร็จสิ้น

ในวันอาทิตย์ (27) ที่ผ่านมา ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ได้กระหน่ำโพสต์ทวิตเตอร์ตั้งแต่ช่วงเช้าและบางโพสต์พาดพิงถึงคลินตัน ว่า ควรเคารพกระบวนการเลือกตั้ง และเมื่อถึงช่วงค่ำ ว่าที่ประมุขทำเนียบขาวเริ่มมีน้ำเสียงตีรวนมากขึ้นโดยโพสต์ ว่า นอกจากชนะคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งถล่มทลายแล้ว ตนอาจชนะป็อปปูลาร์โหวตด้วย หากหักคะแนนจากพวกที่ลงคะแนนผิดกฎหมายนับล้านๆ คนออก

เท่านั้นยังไม่พอ ทรัมป์ ยังโพสต์ในคืนวันอาทิตย์ ว่า มีการโกงเลือกตั้งอย่างร้ายแรงในรัฐเวอร์จิเนีย นิวแฮมป์เชียร์ และแคลิฟอร์เนีย ที่คลินตันชนะทั้ง 3 รัฐ พร้อมกล่าวหาสื่อว่า อคติที่ไม่ยอมรายงานเรื่องนี้

ทรัมป์และผู้ช่วยไม่ได้แสดงหลักฐานประกอบข้อกล่าวอ้างเหล่านี้ รวมทั้งไม่ได้ให้ความกระจ่างว่า จะคัดค้านการนับคะแนนที่รัฐวิสคอนซินหรือไม่ หากมีปัญหาการโกงการเลือกตั้งรุนแรงจริง นอกจากนั้นจวบจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งใดๆ เลย ออกมาระบุว่า มีการโกงการเลือกตั้งกว้างขวางอย่างที่ทรัมป์กล่าวหา
ตำรวจนิวยอร์ก ตรวจถุงหิ้วและกระเป๋าบริเวณด้านหน้าอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนิวยอร์ก ที่พำนักของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
ถึงแม้ทรัมป์ออกมาพูดไม่ขาดปากก่อนการเลือกตั้ง ว่า ผลการเลือกตั้งอาจถูกบิดเบือน แต่เขาก็ไม่เคยร้องเรียนเรื่องนี้เลยหลังจากตัวเองเป็นฝ่ายชนะชนิดหักปากกาเซียน จนกระทั่งตอนนี้ที่ จิลล์ สไตน์ ผู้สมัครจากพรรคกรีน เรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ในรัฐวิสคอนซิน และ มาร์ก อิริก เอเลียส นักกฎหมายด้านการเลือกตั้งของคลินตันประกาศบนเว็บไซต์ Medium.com เมื่อวันเสาร์ (26) ว่า ทีมหาเสียงของแคนดิเดตจากเดโมแครตอาจร่วมเคลื่อนไหวในการเรียกร้องให้นับคะแนนใหม่ในรัฐมิชิแกนและ เพนซิลเวเนีย

ทั้ง 3 รัฐที่สไตน์ทำเรื่องร้องเรียนนี้เป็นรัฐที่เคยเทคะแนนให้ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งก่อนๆ แต่หนนี้กลับลงคะแนนให้ทรัมป์ชนะแบบฉิวเฉียด วิสคอนซินนั้นมีคะแนนผู้เลือกตั้ง 10 เสียง, มิชิแกน 16 เสียง และเพนซิลวาเนีย 20 เสียง ขณะที่ในเวลานี้เมื่อรวมเอา 3 รัฐนี้เข้าไว้ด้วยทรัมป์จะมีคะแนนอีเล็กเทอรัลโหวต 306 เสียง ส่วนคลินตันมี 232 เสียง เมื่อเป็นเช่นนี้หมายความว่า หากผลการนับคะแนนใหม่ออกมาว่า คลินตันเป็นผู้ชนะทั้งหมด เธอก็จะกลับกลายเป็นผู้ได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งเกินครึ่ง และจะได้เป็นประธานาธิบดีแทน ถึงแม้พวกผู้เชี่ยวชาญยังคงมองว่าเป็นไปได้ยากมากที่เธอจะกลับพลิกมีชัยได้ในทั้ง 3 มลรัฐเช่นนี้ ตามผลที่ออกมาในขณะนี้นั้น ทั้ง 3 รัฐทางคลินตันตามหลังทรัมป์อยู่ในระดับหลักหมื่น และรวม 3 รัฐแล้วเธอได้ห่างจากทรัมป์ราวแสนคะแนนเศษ

ในวันอาทิตย์ (27) เช่นกัน เคลลี่ แอนน์ คอนเวย์ ผู้ช่วยระดับสูงของทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า หากทีมคลินตันผลักดันเรื่องการนับคะแนนใหม่ในวิสคอนซินออกนอกหน้าเกินไป ว่าที่ประธานาธิบดีอาจทบทวนคำประกาศก่อนหน้านี้ที่ว่า จะไม่ดำเนินคดีอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกรณีการใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ

คอนเวย์บอกกับเครือข่ายเอบีซีว่า แม้ทรัมป์ “เอื้อเฟื้อ” ต่อคลินตัน แต่คลินตันกลับแสดงท่าทีว่า ต้องการให้ที่ปรึกษาเดินหน้าให้มีการนับคะแนนใหม่

นอกจากปัญหาเรื่องการนับคะแนนใหม่แล้ว ช่วงเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ยังเต็มไปด้วยขวากหนามอีกทั้งปรากฏสัญญาณความขัดแย้งภายในในการเลือกรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งบางคนในทีมสนับสนุน มิตต์ รอมนีย์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันในศึกชิงทำเนียบขาวปี 2012 ขณะที่กลุ่มกระแสหลักชู รูดี จูเลียนี อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก

ความตึงเครียดภายในทีมทรัมป์ฟ้องออกมาชัดเจนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่คอนเวย์ทวิตว่า มีผู้แสดงความกังวลเข้ามา “ท่วมท้น” เกี่ยวกับรอมนีย์

เมื่อเครือข่ายเอ็นบีซีสอบถามเรื่องนี้ในวันอาทิตย์ คอนเวย์ ยืนยันว่า ไม่ได้ต่อต้านรอมนีย์ แต่ประหลาดใจที่มีเสียงเตือนหลั่งไหลเข้ามาเกี่ยวกับการเสนอชื่อรอมนีย์ที่เคยเป็นตัวแทนกลุ่มอำนาจเก่าในพรรครีพับลิกันวิจารณ์ทรัมป์อย่างไม่ไว้หน้ามาก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น