เอเอฟพี - จิลล์ สไตน์ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคกรีน ยื่นคำร้องวานนี้ (25 พ.ย.) ขอให้มีการนับคะแนนใหม่อีกครั้งที่รัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 รัฐ “แบทเทิลกราวนด์ สเตตส์” ที่มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถเก็บชัยชนะมาได้ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย.
คณะกรรมการการเลือกตั้งรัฐวิสคอนซิน แถลงว่า “กำลังเตรียมนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง” ตามคำร้องขอของ สไตน์ และผู้สมัครอันดับรองๆ อีกคนหนึ่ง ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องกระทำอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 13 ธ.ค.
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งกำลังคำนวณค่าใช้จ่ายที่พรรคกรีนจะต้องเสียจากการเรียกร้องขอนับคะแนนใหม่
สไตน์ ยังมีแผนท้าทายชัยชนะของ ทรัมป์ ที่รัฐเพนซิลเวเนียและมิชิแกนอีกด้วย เนื่องจากพบ “ความไม่ชอบมาพากล” ซึ่งแคมเปญของเธอก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าคืออะไร
สำหรับการยื่นคำร้องขอนับคะแนนใหม่ที่รัฐเพนซิลเวเนียและมิชิแกน จะต้องไม่เกินวันจันทร์ที่ 28 พ.ย. และ 30 พ.ย. ตามลำดับ ซึ่ง สไตน์ อ้างว่าเธอสามารถระดมทุนได้แล้ว 4.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อผลักดันเรื่องนี้ จากที่ตั้งเป้าเอาไว้ทั้งหมด 7 ล้านดอลลาร์
“การขอนับคะแนนใหม่เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อบูรณภาพของการเลือกตั้ง และเพื่อให้เห็นว่าระบบเลือกตั้งของสหรัฐฯ น่าเชื่อถือมากเพียงใด” เว็บไซต์ระดมทุนของ สไตน์ แถลง
กลุ่มฝ่ายซ้ายที่ต่อต้าน ทรัมป์ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบผลการนับคะแนนเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ท่ามกลางข้อครหาว่ามหาเศรษฐีปากเปราะได้รับความช่วยเหลือจากแฮกเกอร์รัสเซีย และอาจจะฉ้อโกงเลือกตั้งด้วย
“ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่สร้างความแตกแยกและเจ็บปวดสำหรับทุกฝ่าย มีรายงานว่าฐานข้อมูลผู้มีสิทธิ์ออกเสียง พรรคการเมือง และบัญชีอีเมลส่วนบุคคลถูกแฮ็ก และนั่นทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากรู้สึกไม่เชื่อมั่นในผลการเลือกตั้ง” สไตน์ ระบุบนเว็บไซต์ของเธอ
“ความกังวลเหล่านี้จะต้องได้รับการตรวจสอบ ก่อนที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 จะถูกรับรองอย่างเป็นทางการ เราสมควรมีกระบวนการเลือกตั้งที่ไว้วางใจได้”
ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า โอกาสที่ผู้ชนะจะพลิกจาก ทรัมป์ เป็น ฮิลลารี คลินตัน นั้นเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถึงกระนั้น ข้อเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ในหลายรัฐก็อาจส่งผลต่อความชอบธรรมของว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งเป็นที่ทราบกันแล้วว่าแพ้ “ป็อปปูลาร์โหวต” ให้แก่ คลินตัน ถึง 2 ล้านเสียง
อดีตรัฐมนตรีหญิงพ่ายให้แก่ ทรัมป์ ไปเพียง 27,000 เสียงที่วิสคอนซิน และ 60,000 เสียงที่เพนซิลเวเนีย ขณะที่ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการที่สำนักงานเลขาธิการแห่งรัฐมิชิแกนประกาศออกมา ระบุว่า ทรัมป์ ชนะ คลินตันอย่างเฉียดฉิวเพียง 10,704 เสียงเท่านั้น
หาก ทรัมป์ ได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ชนะที่รัฐมิชิแกน เขาจะได้คณะผู้เลือกตั้งเพิ่มขึ้นมาอีก 16 รวมเป็น 306 เสียง และนำห่างคลินตันถึง 74 เสียง