รอยเตอร์ - สถานะว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ โดนัลด์ ทรัมป์ มั่นคงยิ่งขึ้นกว่าเก่า หลังผลการนับคะแนนในรัฐมิชิแกนที่ผ่านการรับรองอย่างไม่เป็นทางการพบว่าทรัมป์ได้คะแนนโหวตเฉือนชนะ ฮิลลารี คลินตัน 10,704 เสียง ซึ่งจะทำให้เขาได้คณะผู้เลือกตั้งเพิ่มขึ้นมาอีก 16 รวมเป็น 306 เสียง และนำห่างคลินตันถึง 74 เสียง
เว็บไซต์สำนักงานเลขาธิการแห่งรัฐมิชิแกน (Michigan secretary of state) ระบุว่า จากผลการนับคะแนนรวมทุกเทศมณฑลปรากฏว่าทรัมป์ได้คะแนนโหวตไปทั้งสิ้น 2,279,543 เสียง ส่วนคลินตันได้ 2,268,839 เสียง ในขณะที่ผู้สมัครอันดับรองๆ อย่าง แกรี จอห์นสัน จากพรรคลิเบอแทเรียน และ จิลล์ สไตน์ จากพรรคกรีน ได้ไป 172,136 เสียง และ 51,463 เสียง ตามลำดับ
สำหรับผู้สมัครอื่นๆ อีก 9 รายได้คะแนนโหวตรวมกันเกือบ 30,000 เสียง โดยผลการนับคะแนนนี้จะยังถือว่าไม่เป็นทางการ จนกว่าจะผ่านการตรวจสอบและรับรองโดยคณะกรรมการตรวจนับคะแนนเลือกตั้ง (Board of State Canvassers) ในวันที่ 28 พ.ย.
สื่อหลายสำนักไม่ได้ฟันธงว่าใครชนะที่รัฐมิชิแกนในคืนวันที่ 8 พ.ย. เนื่องจากทรัมป์ และคลินตันได้คะแนนโหวตสูสีกันมาก จึงทำให้รัฐนี้กลายเป็นรัฐสุดท้ายที่ผลการนับคะแนนยังไม่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการล่าสุดแสดงให้เห็นว่าส่วนต่างคะแนนของทรัมป์ และคลินตันนั้นแคบเข้ามา โดยเมื่อวันที่ 15 พ.ย. สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าทรัมป์ได้คะแนนโหวต 2,279,805 เสียง และคลินตันได้ไป 2,268,193 เสียง ห่างกันมากถึง 11,612 เสียง
หากทรัมป์ได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ชนะที่รัฐมิชิแกน จะทำให้เขามีคณะผู้เลือกตั้งรวม 306 เสียง ในขณะที่คลินตันยังมีอยู่เพียง 232 เสียงเท่าเดิม
Cook Political Report ระบุว่า หากวัดกันที่คะแนนป็อปปูลาร์โหวตทั่วทั้งสหรัฐฯ คลินตันจะเป็นฝ่ายชนะทรัมป์ประมาณ 2 ล้านเสียงเศษๆ