เอเจนซีส์ - เกิดเหตุระทึกในการปราศรัยหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เนวาดา เมื่อคืนวันเสาร์ (5) หลังมีผู้ตะโกนว่าเห็นคนพกปืนเข้าไปหน้าเวที ทำให้เกิดการชุลมุนกัน ในช่วงที่ทรัมป์และคลินตันลุยหาเสียงตามรัฐต่างๆ ที่อาจชี้ขาดชัยชนะในศึกชิงทำเนียบขาววันอังคารนี้ (8)
เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติราชการลับ ที่คอยอารักขาผู้นำและบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ ได้เข้าประกบ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน แล้วพาเข้าไปด้านหลังเวที ขณะที่ตำรวจกรูเข้าล็อกชายผิวขาวคนหนึ่งบริเวณด้านหน้าฝูงชน ที่กำลังฟังการหาเสียง และจับคว่ำหน้าลงกับพื้นเพื่อค้นตัว ก่อนสวมกุญแจมือและนำตัวออกไปจากสถานที่ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่เผยว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อมีคนตะโกนหน้าเวทีว่า “ปืน” และพากันชี้ไปที่ชายคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าจัดการทันที ทว่า จากการค้นตัวผู้ต้องสงสัย และบริเวณโดยรอบ ไม่พบอาวุธแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หน่วยปฏิบัติราชการลับและสำนักงานตำรวจรีโนกำลังสอบสวนอย่างละเอียด
หลังจากชายคนดังกล่าวถูกคุมตัวออกไป ทรัมป์ก็กลับขึ้นเวทีหาเสียงต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยได้ขอบคุณหน่วยปฏิบัติราชการลับ และเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายของรีโนและรัฐเนวาดาที่ทำหน้าที่อย่างรวดเร็วและเป็นมืออาชีพ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ ทรัมป์ และ ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ตระเวนหาเสียงทั่วอเมริกาในช่วงโค้งสุดท้าย เพื่อโน้มน้าวผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจและกระตุ้นผู้สนับสนุนออกไปใช้สิทธิในวันอังคาร
โพลของหลายสำนัก ชี้ว่า คลินตันยังคงนำทรัมป์ในรัฐสำคัญที่อาจมีผลชี้ขาดชัยชนะ อย่างไรก็ตาม ช่วงห่างของคะแนนแคบลงชัดเจน นับจากที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เปิดเผยเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า กำลังสอบสวนอีเมลล็อตใหม่ที่เพิ่งค้นพบว่า เกี่ยวพันกับการที่คลินตันใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวระหว่างเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศปี 2009 - 2013 หรือไม่
ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วอเมริกาจากแมคแคลตชี-มาริสต์ ที่ออกมาเมื่อวันเสาร์ พบว่า คลินตัน นำเพียง 1% เทียบกับที่นำถึง 6% ในเดือนกันยายน ส่วนโพลของรอยเตอร์/อิปซอส ที่เผยแพร่วันเดียวกัน ระบุว่า คลินตันนำ 4% จาก 5% เมื่อวันศุกร์ (4)
ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้งคู่ต่างตระเวนหาเสียงในฟลอริดา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรัฐที่ต่อสู้กันดุเดือดที่สุด ซึ่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2000 ตัดสินผลกันในรัฐนี้ หลังจากมีข้อโต้แย้งและศาลสูงต้องนับคะแนนใหม่ ซึ่งปรากฏว่า จอร์จ ดับเบิลยู บุช จากรีพับลิกันเอาชนะ อัล กอร์ จากเดโมแครต ได้เข้าสู่ทำเนียบขาว
สำหรับครั้งนี้ ผลสำรวจของเรียลเคลียร์ โพลิติกส์ พบว่า คลินตันมีคะแนนนำในฟลอริดาเพียง 1% บ่งชี้ว่า การเลือกตั้งจะคู่คี่สูสีอย่างมาก
ระหว่างหาเสียงที่แทมปา รัฐฟลอริดา เมื่อเช้าวันเสาร์ ทรัมป์ยังคงวิจารณ์ที่คลินตันสนับสนุน “โอบามาแคร์” หรือกฎหมายประกันสุขภาพ ขณะที่เพิ่งมีการประกาศว่า ค่าเบี้ยประกันจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่า ถ้าได้เป็นประธานาธิบดีจะยกเลิกกฎหมายนี้
ทั้งนี้ การลงคะแนนล่วงหน้าเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา และบริษัทข้อมูล คาตาลิสต์ ประเมินว่า มีผู้ไปใช้สิทธิแล้วกว่า 30 ล้านคน ใน 38 รัฐ จากผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วอเมริการาว 225.8 ล้านคน และวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ลงคะแนนล่วงหน้าได้ในเทศมณฑลหลายแห่งในฟลอริดา
ทีมหาเสียงของทรัมป์และคลินตันปรับตารางการเดินทางกันอุตลุตสำหรับช่วงสองวันสุดท้าย เพื่อลุยทำคะแนนในรัฐที่เล็งเห็นโอกาสชนะ
ทรัมป์บอกกับผู้สนับสนุนในแทมปาว่า จะไปหาเสียงที่มินนิโซตาในช่วงสุดสัปดาห์ทั้งที่ไม่ได้กำหนดในตาราง ทำให้ทีมหาเสียงต้องยกเลิกแผนการเดินทางไปวิสคอนซินในวันอาทิตย์ (6) ซึ่งรีพับลิกันไม่เคยได้ชัยชนะในมินนิโซตาเลยนับจากปี 1984
คลินตัน เริ่มการหาเสียงในวันเสาร์ที่ เวสต์ไมอามี่ คอมมิวนิตี้ เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นย่านของชาวอเมริกันเชื้อสายคิวบา โดยมี เจนคาร์ลอส คาเนลา นักแสดงชื่อดังจากละครดรามา ซึ่งเป็นชาวไมอามีเชื้อสายคิวบา ขึ้นเวทีช่วยหาเสียง
หลังจากนั้น อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงเดินทางไปยังสำนักงานหาเสียงในลิตเติลเฮติ ซึ่งเป็นย่านที่มีชาวอเมริกันเชื้อสายเฮติอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยมีแขกรับเชิญบนเวทีเป็นแม่ของ เทรย์วอน มาร์ติน วัยรุ่นผิวดำไร้อาวุธ ที่ถูกอาสาสมัครป้องกันชุมชนในแซนฟอร์ด รัฐฟลอริดา ยิงเสียชีวิตในปี 2012
ขณะที่ทรัมป์ชอบหาเสียงกลางฝูงชนจำนวนมาก คลินตันกลับวางแผนเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่นชาวคิวบาที่เคยชื่นชอบรีพับลิกันมาตลอด แต่ตอนนี้หนุ่มสาวคิวบาเริ่มหันมาโหวตให้เดโมแครตมากขึ้น
คลินตันยังพยายามปกป้องฐานเสียงของเดโมแครต ด้วยการนัดหมายไปหาเสียงที่แกรนด์ ลาปิดส์ รัฐมิชิแกนในวันจันทร์ ก่อนไปสมทบกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา กับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง รวมทั้งอดีตประธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน ที่ฟิลาเดลเฟีย
ส่วนทรัมป์แวะหาเสียงในไอโอวา, มินนิโซตา, มิชิแกน, เพนซิลเวเนีย และ เวอร์จิเนีย ในวันอาทิตย์ เพื่อพยายามช่วงชิงบางรัฐที่เดโมแครตได้ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีก่อนหน้านี้
