xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยรบพิเศษอิรักรุกคืบหน้า เจาะแนวต้านไอเอสเข้าโมซุลได้แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - หน่วยรบพิเศษอิรักฝ่าแนวป้องกันของไอเอส บริเวณชานเมืองด้านตะวันออก และเข้าสู่โมซุลสำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (31 ต.ค.) ท่ามกลางรายงานว่า ประชาชนในเมืองบางส่วนเริ่มลุกฮือหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับกลุ่มไอเอส

ปฏิบัติการชิงเมืองโมซุล ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญที่สุดของอิรัก นับจากการโค่นล้ม ซัดดัม ฮุสเซน ในปี 2003 มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากหน่วยรบพิเศษ (ซีทีเอส) เคลื่อนเข้าสู่ก๊อกจาลี เขตอุตสาหกรรมที่อยู่บริเวณชานเมืองด้านตะวันออกของโมซุล

พลโท อับดุล กานี อัล-อัสซาดี ผู้บัญชาการซีทีเอสด้านตะวันออกของโมซุล เปิดเผยกับสถานีทีวีของรัฐ ว่า ซีทีเอสเคลื่อนเข้าประชิดชายขอบเขตคารามาภายในเมืองโมซุลแล้ว โดยมีการปะทะกับนักรบของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) มาตลอดทาง

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองของกองกำลังเพชเมอร์กา จากเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ด ระบุได้รับรายงานว่า นักรบไอเอส 7 คนถูกสังหารในเขตเอเดน ใกล้กับคารามา และรถสองคันของไอเอสถูกทำลาย

สถานีทีวีของรัฐบาลอิรัก รวมทั้งแหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองเคิร์ด รายงานเพิ่มเติมว่า มีการปะทะภายในเมืองระหว่างนักรบไอเอส กับประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยการยิงใส่หน่วยตำรวจของกลุ่มก่อการร้ายนี้ในเขตอินติซาร์ ทางใต้ของคารามา ทำให้นักรบติดอาวุธกระจายกำลังบนถนนสายต่าง ๆ ทั่วเมือง เนื่องจากกลัวว่าประชาชนจะรวมพลังแข็งข้อ

สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า ยังไม่สามารถยืนยันรายงานดังกล่าวได้ ขณะที่ทางการอิรักและอเมริกา หวังว่า การลุกฮือในเมืองโมซุลจะช่วยตัดกำลังไอเอส ที่บุกยึดโมซุลเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก ตั้งแต่ปี 2014 และประกาศสถาปนา “รัฐอิสลาม” เพื่อปกครองชาวมุสลิมทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม การสู้รบเพื่อชิงเมืองนี้ที่มีประชากร 1.5 ล้านคน ซับซ้อนกว่าการชิงหมู่บ้านคริสเตียน และสุหนี่ และเมืองอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เกือบเรียกได้ว่าร้างผู้คน

โมซุลมีขนาดใหญ่กว่าเมืองอื่น ๆ ที่ไอเอสเคยยึดครองหลายเท่า ซึ่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่า ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ประชาชน 1 ล้านคน จะกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยทันที และต้องมีปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมขนาดใหญ่ที่สุดของโลกมารองรับ

นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อบาดี ของอิรัก ประกาศเมื่อวันจันทร์จากฐานทัพอากาศในเกย์ยารา ทางใต้ของโมซุล ว่า กองกำลังอิรักกำลังพยายามปิดทางออกจากโมซุลทั้งหมด และยื่นคำขาดให้นักรบไอเอสหลายพันคนในเมืองนี้เลือกระหว่างยอมจำนน หรือถูกสังหาร

ทั้งนี้ กองกำลังความมั่นคงของอิรักและนักรบเพชเมอร์การวม 50,000 นาย เริ่มเปิดฉากบุกโมซุลเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม โดยได้รับการสนับสนุนภาคพื้นดินและอากาศจากกองทัพพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ นอกจากนี้ กลุ่มนักรบชีอะต์ที่อิหร่านให้การสนับสนุนอีกนับพันคน ยังเข้าร่วมรบทางด้านตะวันตกของโมซุลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 ต.ค.)

พลเอก รูเพิร์ต โจนส์ จากอังกฤษ ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการด้านยุทธศาสตร์และการสนับสนุนของกลุ่มพันธมิตรต่อต้านไอเอส ระบุว่า กองกำลังอิรักมีความคืบหน้าอย่างชัดเจนและตรงตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้

หากเมืองโมซุลกลับคืนสู่การควบคุมของแบกแดดจะถือเป็นความพ่ายแพ้อย่างแท้จริงของไอเอสในอิรัก หลังจากเข้ายึดพื้นที่ครึ่งประเทศเมื่อสองปีที่แล้ว

ฮาดิ อัล-อามิริ ผู้นำองค์กรบาดร์ นักรบชีอะต์กลุ่มใหญ่ที่สุด แสดงความหวังว่า โมซุลจะไม่กลายเป็นสงครามยืดเยื้อและสร้างความเสียหายรุนแรงเหมือนเช่นเมืองอะเลปโปในซีเรีย ที่กลุ่มต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงนักรบชีอะต์ ต่อสู้กันมา 4 ปีจนถึงทุกวันนี้

ขณะเดียวกัน ไอเอสพยายามต้านทานการบุกของกองทัพอิรักและพันธมิตรด้วยคาร์บอมบ์ ระเบิดฆ่าตัวตาย การซุ่มยิง และการโจมตีด้วยปืนครก

ในวันจันทร์ พวกญิฮาดกลุ่มนี้ ประกาศว่า ใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีขบวนรถร่วมของกองทัพอิรักและนักรบชีอะต์ทางใต้ของโมซุล แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ

ที่ผ่านมา คู่สงครามทั้งสองฝ่ายต่างไม่ให้ตัวเลขการสูญเสียของฝั่งตัวเอง แต่มักจะอ้างว่า สังหารฝ่ายตรงข้ามได้นับร้อย

เจ้าหน้าที่ยูเอ็นและชาวบ้าน ยังเผยว่า ไอเอสต้อนพลเมืองจากหมู่บ้านต่าง ๆ ไปยังโมซุล เพื่อใช้เป็นโล่มนุษย์ รวมทั้งยังจุดไฟเผาบ่อน้ำมันเพื่อใช้เป็นม่านควันอำพรางในการหลบหนี

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น แถลงว่า กลยุทธ์การทำลายล้างทรัพยากรไม่ให้หลงเหลือถึงศัตรูของไอเอส ส่งผลทันทีต่อสุขภาพของพลเมือง และยังเป็นความเสี่ยงระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น