เอเจนซีส์ / MGR online - “อ็อกซ์แฟม” องค์กรเอ็นจีโอนานาชาติชื่อดัง ซึ่งมีฐานอยู่ในอังกฤษ ออกโรงเรียกร้องในวันเสาร์ (5 พ.ย.) ให้รัฐบาลอิรัก เอ่ยปากขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนจากนานาชาติในการดับไฟที่โหมลุกไหม้ในบ่อน้ำมัน 19 แห่ง ในเมืองโมซุลของตน โดยระบุ การจุดไฟเผาบ่อน้ำมันของกลุ่มรัฐอิสลามในพื้นที่เป็นต้นตอของปัญหาแหล่งน้ำปนเปื้อน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจำนวนหลายพันคน
ไค ทาบาเซ็ค โฆษกขององค์กรอ็อกซ์แฟม ซึ่งกำลังจับตาดูผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากผลพวงของปฏิบัติการทางทหารของกองทัพอิรักในการยึดคืนเมืองโมซุลจากกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลอิรักจะต้องชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศถึงความล้มเหลว ในการดับไฟที่ลุกไหม้บ่อน้ำมันจำนวน 19 แห่ง ที่เขต “กอยาร์ราห์” ทางใต้ของเมืองโมซุล ที่ถูกกลุ่มไอเอสจุดไฟเผา โดยระบุ ปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษในแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และทำให้เกิดผลกระทบด้านสุขภาพต่อประชาชนจำนวนหลายพันคนในเมืองโมซุล
“ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลอิรักจะต้องชี้แจงปัญหานี้ และเปิดรับความช่วยเหลือจากนานาชาติ” โฆษกอ็อกซ์แฟม กล่าว
ด้านรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในอิรัก ซึ่งสอดคล้องกับรายงานขององค์กรอ็อกซ์แฟมระบุว่า ที่ผ่านมา ทางการอิรักได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดับไฟที่โหมลุกไหม้บ่อน้ำมันทั้ง 19 แห่งทางใต้ของเมืองโมซุล แต่ความพยายามในการควบคุมเพลิงกลับต้องเผชิญอุปสรรคสำคัญทั้งจาก “กับระเบิด” ที่กลุ่มไอเอส ฝังกระจายอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก รวมถึงสภาพอากาศที่ร้อนจัดสุดขั้วทะลุ 40 องศาเซลเซียสในพื้นที่ โดยเฉพาะในเวลากลางวัน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อบาดี แห่งอิรัก ได้ประกาศกร้าวเมื่อ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ของทหารอิรัก จำนวน 30,000 นาย และกองกำลังเพชเมอร์กาของชาวเคิร์ด อีกราว 4,000 คน ในการยึดคืนเมืองโมซุลจากกลุ่มไอเอส จะต้องลุล่วงภายในสิ้นปี 2016 นี้ เพื่อปลดปล่อยเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านของประชากรมากกว่า 664,000 คน ในจังหวัดนิเนเวห์แห่งนี้ ที่ตกอยู่ใต้การยึดครองของกลุ่มไอเอสมาตั้งแต่ปี 2014