รอยเตอร์ - พวกนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) จุดไฟเผาบ่อน้ำมันในเมืองติกริต เพื่อขัดขวางการจู่โจมของกองกำลังติดอาวุธชีอะห์และทหารอิรัก ที่ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อยึดคืนเมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกลุ่มไอเอสและเมืองอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ
ผู้เห็นเหตุการณ์และแหล่งข่าวของทหารเผยว่าพวกนักรบรัฐอิสลามวางเพลิงที่แหล่งน้ำมันอาจิล เพื่อปกป้องตนเองจากการถูกโจมตีโดยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอิรัก
จนถึงตอนนี้ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของทหารอิรักยังไม่สามารถพิชิตกลุ่มไอเอส ซึ่งที่ประกาศสถาปนาการปกครองแบบ “กาหลิบ” อิสลาม บนพื้นที่ยึดครองคร่อมดินแดนอิรักและซีเรีย และแผ่กระจายความหวาดผวาไปทั่วภูมิภาคด้วยการประหารชีวิตตัวประกันทั้งชาวอาหรับและตะวันตกอย่างเหี้ยมโหด รวมถึงเข่นฆ่าและลักพาตัวชนกลุ่มน้อยทางศาสนาอย่างเช่นชาวยาซิดีและชาวคริสเตียน
จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ที่เดินทางไปพร้อมกับนักรบและทหารอิรักที่ร่วมปฏิบัติการยึดคืนเมืองติกริต ระบุพบเห็นกลุ่มควันสีดำทะมึนลอยพวยพุ่งขึ้นจากบ่อน้ำมันตั้งแต่วันพุธ (4 มี.ค.) ทั้งนี้บ่อน้ำมันต่างๆที่ยึดครองได้คือแหล่งเงินทุนสำคัญของพวกไอเอส แม้ว่าพวกเขาจะขาดความรู้ความเชี่ยวชาญที่จะดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ตาม
ก่อนหน้าที่จะถูกพวกไอเอสบุกยึดเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน บ่อน้ำมันอาจิล สามารถผลิตน้ำมันดิบป้อนโรงกลั่นเคอร์คุกได้ถึง 25,000 บาร์เรลต่อวัน เช่นดียวกับแก๊ส 150 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันป้อนสถานีไฟฟ้าเคอร์คุก ที่ควบคุมโดยรัฐบาล
วิศวกรประจำบ่อน้ำมันแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองติกริตไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 35 กิโลเมตร บอกกับรอยเตอร์เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อนว่า พวกนักรบรัฐอิสลาม สูบน้ำมันจากอาจิลในปริมาณต่ำ เนื่องจากเกรงว่าเทคนิคการสกัดแบบดั้งเดิมของพวกเขาอาจไปจุดชนวนแก๊ส ขณะที่ข้อมูลของสำนักสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) ระบุว่าในเดือนสิงหาคมปีก่อน เกิดเหตุระเบิดก่อความเสียหายในห้องควบคุมของบ่อน้ำมันแห่งนี้
ผลลัพธ์ของสมรภูมิรบติกริต เมืองซึ่งเป็นที่รู้จักกันในฐานะบ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน จะเป็นตัวตัดสินว่ากองกำลังอิรักจะสามารถรุกคืบขึ้นไปทางเหนือได้หรือไม่และเร็วแค่ไหน เช่นเดียวกับความพยายามยึดคืนโมซุล เมืองใหญ่ที่สุดที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มรัฐอิสลาม
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้กองทัพอิรักที่ได้รับการหนุนหลังจากจากนักรบชีอะห์และกองกำลังเปอร์เมสกาของชาวเคิร์ด ยังไม่สามารถโค่นหรือยึดคืนเมืองใดๆ ที่ตกอยู่ภายในการครอบครองของไอเอส แม้พันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ลงมือโจมตีทางอากาศมานานกว่า 7 เดือน รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนทั้งด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธศาสตร์จากอิหร่าน ชาติเพื่อนบ้านด้วย
ในส่วนของปฏิบัติการจู่โจมยึดคืนเมืองครั้งใหญ่สุดนี้ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญคืออิหร่านไม่ใช่สหรัฐฯ โดย กัสเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการทหารอิหร่านคนสำคัญ กำลังทำหน้าที่สั่งการปฏิบัติการต่างๆ ทางฝั่งตะวันออก โดยมีพวกนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน เป็นแกนนำของปฏิบัติการส่วนใหญ่