เอเจนซีส์ - การประชันวิสัยทัศน์สดรอบที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายระหว่าง ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากพรรคเดโมแครต และมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน เปิดฉากขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (20 ต.ค.) ตามเวลาในไทย โดยอดีตรัฐมนตรีหญิงจวกทรัมป์ ว่าเป็น “หุ่นเชิด” ของรัสเซีย ขณะที่ทรัมป์ตอกกลับว่าทีมหาเสียงของเดโมแครตใช้วิธีสกปรกทำลายชื่อเสียงของตน และไม่ขอรับปากว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.นี้หรือไม่
หลายฝ่ายเฝ้าจับตาว่า ทรัมป์จะมีไม้เด็ดมากอบกู้คะแนนนิยมที่ตกต่ำจากพิษของการเปิดโปงคลิปเสียงดูหมิ่นสตรีหรือไม่ ก่อนที่ศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ จะเปิดฉากขึ้นในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า
ภาพลักษณ์ของทรัมป์ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็น “มหาเศรษฐีปากเปราะ” อยู่แล้วยิ่งถูกบั่นทอนหนักเข้าไปอีก หลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงลามกของเขา รวมถึงผู้หญิงหลายคนที่ดาหน้าออกมาแฉว่าเคยถูก ทรัมป์ ล่วงละเมิดทางเพศ
การดีเบตซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. ตามเวลาในภาคตะวันออกสหรัฐฯ ณ มหาวิทยาลัยลาสเวกัส มลรัฐเนวาดา คาดว่าจะมีผู้ชมหลายสิบล้านคน และคงเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับ ทรัมป์ ที่จะโน้มน้าวใจชาวอเมริกันบางส่วนซึ่งยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใครเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 8 พ.ย.
คลินตัน และทรัมป์ ก้าวขึ้นสู่โพเดียมของตนเองโดยไม่มีการจับมือทักทายตามธรรมเนียม เช่นเดียวกับในการดีเบตรอบสองที่เมืองเซนต์หลุยส์ มลรัฐมิสซูรี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทรัมป์ วัย 70 ปี ไม่ยืนยันว่าตนจะยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 8 พ.ย. โดยระบุว่าจะต้องพิจารณาเสียก่อนว่าผลที่ออกมานั้น “ชอบธรรม” หรือไม่ ซึ่งเท่ากับว่ามีความเป็นไปได้ที่ ทรัมป์ จะคัดค้านผลการเลือกตั้ง หากตนเป็นฝ่ายแพ้
“ผมจะบอกให้ทราบอีกทีในเวลานั้น ตอนนี้ปล่อยให้พวกคุณสงสัยกันไปก่อน” ทรัมป์กล่าว
คลินตันโต้กลับว่า “ทุกท่านโปรดเข้าใจสิ่งที่เขาพูดว่าหมายความว่าอย่างไร... เขากำลังสร้างความเสื่อมเสียและใส่ร้ายระบอบประชาธิปไตยของเรา และดิฉันคนหนึ่งล่ะที่รู้สึกตกใจที่ผู้สมัครประธานาธิบดีจากหนึ่งในสองพรรคการเมืองใหญ่ประกาศจุดยืนเช่นนี้”
ในการโต้วาทีสดครั้งสุดท้ายนี้ ผู้สมัครทั้งสองฝ่ายพยายามควบคุมประเด็นให้อยู่ในเรื่องนโยบายมากกว่าครั้งก่อนๆ แต่ ทรัมป์ ก็ไม่วายกล่าวหา คลินตัน ว่าวางแผนส่งผู้หญิงหลายคนออกมาร้องแรกแหกกระเชอว่าถูกตนล่วงละเมิดทางเพศ
ทรัมป์ ยืนกรานปฏิเสธเรื่องการถือวิสาสะ “จับของสงวน” ผู้หญิงหลายต่อหลายคน โดยอ้างว่าคลินตันกำลัง “หาเสียงด้วยวิธีสกปรก” และกุเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาทำลายชื่อเสียงของตน
“ผมคิดว่าผู้หญิงเหล่านี้คงอยากดัง หรือไม่ก็เป็นแผนของเธอ (คลินตัน)... เธอเป็นคนสั่งให้ผู้หญิงพวกนี้ออกมาพูด” ทรัมป์กล่าว
อดีตรัฐมนตรีหญิงชี้ว่า ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อเหล่านั้นตัดสินใจออกมาแฉทุกอย่างเอง หลังจากได้ยิน ทรัมป์ พูดในการดีเบตครั้งที่สองว่า ไม่เคยเข้าหาผู้หญิงโดยที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจ
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ได้เปิดโปงคลิปเสียงเมื่อปี 2005 ขณะที่ ทรัมป์ ใช้คำพูดลามกบรรยายประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่มีสามีแล้ว และยังโอ้อวดเรื่องการจับต้องของสงวนสาวๆ ด้วย
“โดนัลด์ คิดว่าการดูถูกผู้หญิงทำให้เขามีอำนาจ เขาทำลายศักดิ์ศรีและคุณค่าในตัวเองของพวกเธอ และดิฉันเชื่อว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่รู้ว่าการถูกกระทำเช่นนั้นจะรู้สึกอย่างไร” คลินตัน กล่าว พร้อมอ้างไปถึงชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ที่ถูกมหาเศรษฐีผู้นี้ใส่ร้ายป้ายสี
“นี่คือรูปแบบของการสร้างความแตกแยกและวิสัยทัศน์ที่อันตรายในประเทศของเรา... เขายั่วยุให้คนใช้ความรุนแรง เขาปรบมือเชียร์ในขณะที่ผู้คนชกต่อยกันหน้าเวทีหาเสียง นี่ไม่ใช่ความเป็นอเมริกา”
ตลอด 90 นาทีของการดีเบต ผู้สมัครทั้งสองได้ตอบโต้กันอย่างเผ็ดร้อนในประเด็นสำคัญๆ เช่น การทำแท้ง, สิทธิในการพกพาอาวุธปืน, ปัญหาผู้อพยพ รวมไปถึงการใช้อิทธิพลแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
คลินตันกล่าวหาทรัมป์ ว่าเป็น “หุ่นเชิด” ของผู้นำหมีขาว ส่วน ทรัมป์ ก็เยาะเย้ยว่า คลินตัน “เสียรู้” ปูติน มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
อดีตรัฐมนตรีหญิงยังติเตียน ทรัมป์ ที่ไม่ยอมเอ่ยประณาม ปูติน กรณีพรรคเดโมแครตถูกแฮกเกอร์เจาะระบบเมื่อเร็วๆ นี้
“เขาเชื่อสิ่งที่ วลาดิมีร์ ปูติน พูด มากกว่าคำยืนยันจากกองทัพและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่ให้คำสัตย์สาบานว่าจะปกป้องพวกเรา” คลินตัน ระบุ
หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ แถลงยืนยันว่า คณะผู้นำรัสเซียมีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของคณะกรรมการพรรคเดโมแครตแห่งชาติ และนำอีเมลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่พรรคออกมาตีแผ่เพื่อทำลายชื่อเสียงคลินตัน
ทรัมป์ ยืนยันว่าตนไม่เคยสนิทชิดเชื้อกับปูติน แต่พร้อมที่จะสานความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำรัสเซีย มากกว่า คลินตัน
“เขาพูดถึงผมในทางที่ดีๆ... ในขณะที่เขาไม่ศรัทธาในตัวเธอ เขาไม่เคารพประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเรา และผมจะบอกอะไรให้นะ... เราน่ะกำลังเผชิญปัญหาร้ายแรงมากทีเดียว”
คลินตัน สวนกลับทันทีว่า “อ้อ... นั่นก็เพราะเขาอยากจะมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นหุ่นเชิดของเขามากกว่าน่ะสิ”
“ไม่ คุณนั่นแหละที่เป็นหุ่นเชิด” ทรัมป์ ตอบ
“ปูติน ใช้ไหวพริบหลอกเธอและโอบามา ได้แทบจะทุกย่างก้าว”
คลินตันชี้ว่า ทรัมป์ประกาศตัวเป็น “หัวหอก” ด้านอาวุธนิวเคลียร์ และชาวอเมริกันไม่ควรไว้ใจว่าเขาจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของการใช้อาวุธมหาประลัยนี้
ผู้สมัครทั้ง 2 คนยังปะทะคารมกันในเรื่องมูลนิธิการกุศลของครอบครัวคลินตัน โดย ทรัมป์ กล่าวหา คลินตัน เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้บริจาครายใหญ่ๆ สมัยที่ยังเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศช่วงปี 2009-2013 ซึ่งเธอยืนยันว่า “ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน” และเธอทำทุกอย่างโดยเห็นแก่ “ค่านิยมและผลประโยชน์ของชาติ” เป็นหลัก
ทรัมป์ระบุว่า มูลนิธิของคลินตันอาจคืนเงินหลายล้านดอลลาร์ให้แก่ซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าปฏิบัติต่อคนรักร่วมเพศอย่างโหดร้าย
คลินตันบอกว่า เธอยินดีให้ผู้คนเปรียบเทียบการทำงานของมูลนิธิคลินตันกับองค์กรการกุศล ทรัมป์ ฟาวเดชัน ซึ่งเอาเงินบริจาคไปสร้างรูปปั้น โดนัลด์ ทรัมป์ สูง 6 ฟุต
สแนปโพลจากซีเอ็นเอ็นซึ่งสำรวจความคิดเห็นประชาชนทันทีหลังการดีเบตจบลง พบว่า คนส่วนใหญ่ 52% ยกให้ คลินตัน เป็นฝ่ายชนะศึกดีเบตนัดสุดท้าย ส่วนคนที่มองว่า ทรัมป์ ชนะมีเพียง 39%