xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” จวกมูลนิธิคลินตันเป็น “องค์กรขี้ฉ้อ” สมควรถูกปิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - มหาเศรษฐีปากเปราะ โดนัลด์ ทรัมป์ ประณามมูลนิธิเพื่อการกุศลที่ก่อตั้งโดยอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ว่าเป็น “บริษัทขี้ฉ้อ” พร้อมทั้งเรียกร้องให้ ฮิลลารี คลินตัน สั่งปิดองค์กรดังกล่าวเสีย

ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สมัครชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน ยังเสนอให้ตั้ง “อัยการพิเศษ” ตรวจสอบอดีตรัฐมนตรีหญิงซึ่งเป็นผู้สมัครคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต และยังกล่าวหาสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ว่าพยายามช่วย “ฟอกขาว” ให้ คลินตัน พ้นมลทินจากกรณีที่เธอใช้อีเมลส่วนตัวรับ-ส่งข้อมูลระหว่างเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ

“จำนวนอีเมล การเอื้อประโยชน์ และจำนวนครั้งที่มีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้น จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบโดยอัยการพิเศษในทันที ทันที และทันที” ทรัมป์ กล่าวระหว่างปราศรัยที่เมืองอาครอน มลรัฐโอไฮโอ เมื่อวันจันทร์ (22 ส.ค.) ท่ามกลางเสียงตอบรับจากผู้ฟังที่ต่างร้องตะโกนว่า “จับเธอให้ได้! จับเธอให้ได้!”

ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ ได้กล่าวหามูลนิธิคลินตัน (Clinton Foundation) ว่าเป็น “บริษัทที่ขี้ฉ้อที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง”

มูลนิธิดังกล่าวก่อตั้งขึ้นในปี 2001 หลังจากที่ บิล คลินตัน พ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และระดมเงินบริจาคได้แล้วกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“มูลนิธิที่ว่านี้จะต้องถูกปิดทันที” ทรัมป์ กล่าว

มหาเศรษฐีวัย 70 ปีระบุอีกด้วยว่า มูลนิธิคลินตันรับเงินสนับสนุนจากหลายประเทศ “ซึ่งมีนโยบายแบ่งแยกกีดกันสตรี คนรักร่วมเพศ และอื่นๆ”

ดูเหมือน ทรัมป์ กำลังพาดพิงถึงหลายๆ ประเทศที่บริจาคเงินก้อนใหญ่ให้แก่มูลนิธิคลินตัน ในช่วงที่ ฮิลลารี เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาล บารัค โอบามา เทอมหนึ่ง (2009-2013) ในจำนวนนี้ยังรวมถึงบางประเทศที่ถูกตะวันตกตราหน้าว่าลิดรอนสิทธิมนุษยชน เช่น ซาอุดีอาระเบีย

“ผมหมายความว่า เงินเหล่านี้ควรส่งกลับคืนให้เจ้าของ พวกเขาไม่ควรรับเงินเหล่านี้เอาไว้” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์

เจมส์ คาร์วิลล์ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ซึ่งเคยช่วยให้ บิล คลินตัน ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในทศวรรษ 1990 เตือนให้ทุกฝ่ายระวังผลกระทบร้ายแรง หาก ทรัมป์ และพวกเดินหน้ากดดันจนมูลนิธิคลินตันต้องปิดตัวลง

“จะต้องมีคนตายเพราะเรื่องนี้แน่นอน” คาร์วิลล์ บอกกับผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น พร้อมประเมินว่า มูลนิธิคลินตันได้ช่วยให้ประชาชนมากกว่า 10 ล้านคนได้รับยาต่อต้านเชื้อเอชไอวีในราคาถูก

มูลนิธิคลินตันได้จัดสรรเงินทุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทั้งในและนอกประเทศ โดยได้มอบเงินช่วยเหลือไปราว 218 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2014

เป็นที่เข้าใจกันว่า มูลนิธิจะต้องมีแนวทางป้องกัน (firewall) ไม่ให้ภารกิจขององค์กรเข้าไปพัวพันกับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศของ ฮิลลารี คลินตัน แต่นักวิจารณ์บางคนก็เชื่อว่า “กำแพง” ดังกล่าวคงจะมี “รอยรั่ว” บ้างไม่มากก็น้อย

อีเมลเกือบ 15,000 ฉบับที่ถูกส่งออกจากเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของ คลินตัน ได้ถูกนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์เรื่อง “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ระหว่างมูลนิธิกับการทำงานของ คลินตัน ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ

Judicial Watch ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบอิสระในสหรัฐฯ ได้อ้างถึงอีเมลบางฉบับที่ชี้ให้เห็นว่า ผู้บริจาคหลายรายได้พยายามล็อบบี้ ฮูมา อาเบดิน ผู้ช่วยคนสนิทของคลินตัน เพื่อที่จะเข้าถึงตัวรัฐมนตรีหญิงโดยตรง

ศาลได้พิพากษาให้ชุดอีเมลดังกล่าวถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน หลังจาก Judicial Watch ได้ยื่นคำร้องโดยอ้างกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร (Freedom of Information Act)

อีเมลซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อไม่นานนี้ยังระบุด้วยว่า เคซีย์ เวสเซอร์แมน มหาเศรษฐีที่บริจาคเงินเข้ามูลนิธิคลินตัน เคยขอให้ ดัก แบนด์ ผู้ช่วยคนสนิทของอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ช่วยติดต่อไปยัง อาเบดิน เพื่อนัดพบกับนักการทูตที่กรุงลอนดอน ซึ่งก่อให้เกิดคำถามว่า คลินตัน ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้บริจาครายใหญ่ๆ หรือไม่

บิล คลินตัน พยายามบรรเทากระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้น โดยประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ถ้าภรรยาของเขาได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ มูลนิธิคลินตันจะไม่รับเงินจากองค์กรหรือผู้บริจาคต่างชาติอีกต่อไป และตนก็จะลาออกจากบอร์ดบริหารมูลนิธิด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น