เอเอฟพี – โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันศุกร์ (12 ส.ค.) ถอยหลังกลับจากที่เขาเคยกล่าวยืนยันว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา และ ฮิลลารี คลินตัน เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) โดยขณะนี้เขากลับบอกว่า เขาแค่พูดเหน็บแนมเสียดสีเท่านั้น
และก็เหมือนกับที่เขาเคยทำอยู่บ่อย ๆ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่พรรครีพับลิกันส่งเข้าแข่งขันผู้นี้ ยังกล่าวหาพวกสื่อมวลชน ว่า ตีความสิ่งที่เขาพูดอย่างผิด ๆ ไปเอง
สำหรับในกรณีนี้เขาพุ่งเป้าไปที่โทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็น ถึงแม้ในทางเป็นจริงแล้ว การแสดงความเห็นของเขาในเรื่องกลุ่มนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ กับ โอบามา และคลินตัน นั้น ได้ถูกสื่อมวลชนต่าง ๆ นำไปเสนอกันอย่างกว้างขวาง
“เจอปัญหาเรตติ้งตก @CNN รายงานซีเรียสเชียวว่า ผมเรียกประธานาธิบดี โอบามา (และคลินตัน) เป็น “ผู้ก่อตั้ง” ไอซิส&ตัวบิ๊ก พวกเขาไม่รู้จักการเหน็บแนมเลยหรือ?” ทรัมป์เขียนในทวิตเตอร์
ทรัมป์ตั้งข้อกล่าวหาเรื่องนี้ครั้งแรกสุด เมื่อวันพุธ (10) ระหว่างการปราศรัยหาเสียงที่รัฐฟลอริดา จากนั้นก็พูดซ้ำอีกในการให้สัมภาษณ์สื่อหลายต่อหลายครั้งวันพฤหัสบดี (11)
ในตอนนั้นเขาดูเหมือนกำลังลอกเลียนข้อโต้แย้งของนักวิจารณ์จำนวนหนึ่ง ที่ระบุว่า เพราะสหรัฐฯถอนทหารออกจากอิรักในยุคโอบามา ตอนที่คลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศนั่นเอง จึงทำให้เกิดสุญญากาศขึ้นมา ซึ่งเปิดทางให้กลุ่มไอเอสสามารถก้าวผงาดและแผ่ขยายตัวในอิรักและซีเรีย
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่เคยกล่าวอธิบายอย่างเต็ม ๆ ว่า ที่เขาพูดนั้นเขาหมายความว่าอย่างไร
เขายังพูดด้วยว่า เขาถือว่า คลินตัน คู่แข่งของเขาจากพรรคเดโมแครตในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ คือ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มไอเอส
ทางทีมรณรงค์หาเสียงของคลินตันได้แถลงตอบโต้ในวันพฤหัสบดี (11) โดยเรียกข้อกล่าวหานี้ว่า พิลึกพิลั่น
“ใครก็ตามที่ยินดีจมดิ่งได้ต่ำขนาดนี้ได้บ่อยขนาดนี้ ไม่ควรได้รับอนุญาตให้ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเรา” คลินตัน เขียนในทวิตเตอร์ ทั้งนี้ ในสหรัฐฯ ประธานาธิบดี คือ ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ทรัมป์นั้นมีความโน้มเอียงที่จะลื่นไหลไปเรื่อยกับการตั้งข้อหา และการกล่าวยืนกรานต่าง ๆ ซึ่งเขามักพูดออกมาอยู่บ่อย ๆ ตามใจปาก
ทว่า ในเดือนที่แล้วเขาก็ใช้มุกแก้ตัวอย่างเดียวกันกับคราวนี้ นั่นคือ บอกว่า เขาแค่กำลังพูดถากถางเหน็บแหนมเท่านั้น หลังจากที่เขาถูกมองว่าขอร้องให้แฮกเกอร์ชาวรัสเซียช่วยเจาะหาพวกอีเมลของคลินตันยุคที่เธอเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งได้ถูกลบทิ้งไป โดยที่อีเมลเหล่านี้เองเป็นศูนย์กลางของการโต้แย้งกล่าวหากันซึ่งคอยรังควานการหาเสียงของคลินตันไม่หยุดไม่หย่อน
ทั้งนี้ การถูกมองว่า เรียกใช้บริการของแฮกเกอร์ของต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาติที่ไม่เป็นมิตรอย่างรัสเซีย เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่พัวพันกับความลับของประเทศเช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องเสียหายอย่างยิ่งแก่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
นอกจากนั้น ในสัปดาห์ที่แล้ว เขายังถึงกับกล่าวยอมรับในทางพฤตินัยว่าตนเองผิดพลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากเหลือเกินสำหรับเขา
กล่าวคือ ทรัมป์ยอมรับในวันที่ 5 สิงหาคม ว่า เขาผิดพลาดที่อ้างว่าได้เห็นคลิปวิดีโอลับของอิหร่าน ซึ่งแสดงให้เห็นขณะกำลังมีการจ่ายเงินสด 400 ล้านดอลลาร์ ให้แก่เตหะราน เพื่อเป็นค่าไถ่สำหรับให้อิหร่านปล่อยตัวพวกนักลงโทษชาวอเมริกัน
ทว่า คลิปวิดีโอซึ่งมีผู้ชมกันกว้างขวางนี้ กลับเป็นที่เชื่อกันว่า แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อนักโทษชาวอเมริกัน 3 ใน 5 คน ที่ทางอิหร่านปล่อยตัว เดินออกมาจากเครื่องบินลำหนึ่งที่นครเจนีวา, สวิตเซอร์แลนด์
ในทวีตที่เขาส่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (5) ทรัมป์ กล่าวว่า นี่แหละคือสิ่งที่เขาเห็นจากคลิปวิดีโอนี้