xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่ออนาจารทรัมป์เรียงหน้าออกสื่อ ทีมหาเสียงแถ นสพ.ดังหวังดิสเครดิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<em><br><FONT color=#000033> โดนัลด์ ทรัมป์ บรรจงจูบแผ่นป้ายที่มีข้อความเขียนว่า Women for Trump ขณะหาเสียงที่เมืองเลคแลนด์ รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 12 ต.ค. -- Agence France-Presse/Mandel Ngan.</font></b> </em>

เอเจนซีส์ - แคมเปญหาเสียงโดนัลด์ ทรัมป์ อลเวงหนัก หลังผู้หญิงที่เคยถูกทำอนาจารทยอยปรากฏตัวฟ้องพฤติกรรมต่ำทรามของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ขณะที่เจ้าตัวฉุนจัด ยืนกรานเรื่องราวที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น ด้านทีมหาเสียงสับสื่อ “โจมตีเพื่อทำลายชื่อเสียง” และหวังผลทางการเมือง

หลังจากที่ทรัมป์ปฏิเสธบนเวทีดีเบตกับฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9) ว่า ไม่เคยล่วงเกินผู้หญิงอย่างที่โอ้อวดในคลิปฉาวที่ถูกเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พลันก็มีผู้หญิงที่เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามชัดแจ้ง 4 คน ออกมาเปิดโปงข้อมูลที่ขัดแย้งกับการยืนยันของทรัมป์โดยสิ้นเชิง

คนแรกคือ เจสซิกา ลีดส์ นักธุรกิจหญิงวัย 74 ปี ที่เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์เมื่อวันพุธ (12) ว่า ทรัมป์เคยจับหน้าอกและพยายามล้วงเข้าไปในกระโปรงเธอ ระหว่างนั่งเก้าอี้ติดกันบนชั้นเฟิสต์คลาสเมื่อต้นทศวรรษ 1980

คนต่อมาคือ ราเชล ครุกส์ ที่เล่าว่า เมื่อ 11 ปีที่แล้วซึ่งขณะนั้นเธออายุ 22 ปี และทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในตึกทรัมป์ ทาวเวอร์ เธอถูกทรัมป์หอมแก้มและจูบระหว่างแนะนำตัวและเช็กแฮนด์หน้าลิฟต์เช้าตรู่วันหนึ่ง

วันพุธเช่นกัน ปาล์ม บีช โพสต์เผยแพร่ข่าวเอ็กซ์คลูซีฟบนเว็บไซต์เป็นเรื่องราวของมินดี แม็กกิลลิฟเรย์ วัย 36 ปี ที่กล่าวหาว่าถูกทรัมป์จับก้นตอนทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพในงานหนึ่งที่มาร์-อะ-เลโกรีสอร์ทในฟลอริดาต้นปี 2003

ด้านยาฮู นิวส์รายงานว่า แคสซานดรา เซียร์เลส อดีตมิสวอชิงตันปี 2013 โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า ทรัมป์ “เกลียดชังผู้หญิง” และว่า เธอเคยถูกทรัมป์จับก้นไม่ยอมปล่อยและพยายามชวนเธอเข้าโรงแรม

นอกจากนั้น ซีบีเอส นิวส์ยังเผยแพร่คลิปเก่าจากรายการ “เอนเตอร์เทนเมนต์ ทูไนต์” วันคริสต์มาสปี 1992 ที่ทรัมป์มองกลุ่มเด็กหญิงอายุประมาณ 10 ขวบเดินขึ้นบันไดเลื่อนในทรัมป์ ทาวเวอร์ และพูดว่า “เชื่อไหมว่าอีก 10 ปีฉันจะออกเดตกับหนู” ตอนที่พูดนั้นทรัมป์อายุ 46 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เทมเพิล แท็กการ์ต อดีตมิสยูทาห์ เคยเล่าให้นิวยอร์กไทมส์ฟังว่า ทรัมป์จูบเธอตอนที่แนะนำตัวเองในงานประกวดมิสยูเอสเอปี 1997 ซึ่งตอนนั้นเธออายุ 21 ปี เขายังฉวยโอกาสจูบเธออีกเมื่อพบกันที่ทรัมป์ ทาวเวอร์หลังจากนั้น

ผู้หญิงทั้งหมดนี้ไม่มีใครไปแจ้งความตอนที่เกิดเรื่อง แต่จากการสอบถามเพื่อนและครอบครัวได้รับการยืนยันว่าพวกเธอบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นก่อนที่คลิปลามกของทรัมป์จะถูกแฉเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

ในคลิปดังกล่าวที่ทรัมป์เผลอพล่ามวีรกรรมอนาจารของตัวเองโดยไม่รู้ว่าไมโครโฟนเปิดอยู่นั้น บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2005 ที่เจ้าตัวอวดอ้างว่าการเป็นเซเลบทำให้สามารถกอดจูบลูบคลำสาวได้ตามใจชอบ และยังคุยว่าเคยนอนกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว

ทรัมป์ขอโทษขอโพยที่พูดถึงผู้หญิงด้วยถ้อยคำหยาบโลนและอ้างว่า เป็นแค่ “การคุยเล่นในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า” แต่ดูเหมือนข้อแก้ตัวดังกล่าวจะฟังไม่ขึ้น ซ้ำฉุดคะแนนนิยมของเขาร่วงกราว รวมทั้งทำให้สมาชิกมากมายในรีพับลิกันประกาศเลิกสนับสนุน ทั้งที่เหลืออีกเพียง 20 กว่าวันจะถึงวันเลือกตั้ง ซ้ำร้ายยังมีผู้หญิงเรียงหน้าออกมาแฉแบบนี้

เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ยังคงปฏิเสธเหมือนเดิมว่า เรื่องราวเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น และประณามผู้สื่อข่าวนิวยอร์กไทมส์ว่า เป็นบุคคลน่ารังเกียจ ขณะที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้แฉว่าถูกทรัมป์ขู่ฟ้อง

เจสัน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการสื่อสารของทรัมป์ สำทับว่า บทความของนิวยอร์กไทมส์เป็นนิยายที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของทรัมป์และหวังผลทางการเมือง

ทางด้านคลินตันที่ตระเวนหาเสียงที่โคโลราโดและเนวาดาในวันพุธ เพิกเฉยต่อคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับบทความในนิวยอร์กไทมส์ โดยกล่าวเพียงว่าอเมริกามีสถานะที่ดีกว่าที่ทรัมป์พยายามปั้นแต่ง

ทว่า เจนนิเฟอร์ พัลไมรี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทีมหาเสียงของคลินตัน แถลงว่า ข่าวที่ออกมาตอกย้ำสิ่งที่คนทั่วไปรับรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของทรัมป์ต่อผู้หญิง

“รายงานเหล่านี้ชี้ว่า เขาโกหกบนเวทีดีเบต และพฤติกรรมน่าขยะแขยงที่เขาอวดอ้างในคลิปเป็นมากกว่าแค่การพูดเล่นเท่านั้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น