ผู้จัดการรายวัน 360 - เปิดเกมลุยพื้นที่ทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์สู่ศตวรรษที่ 2 ผ่าน 2 มาสเตอร์แพลนบนพื้นที่ฝั่งสวนหลวงสามย่าน และสยาม “กลุ่มธุรกิจสยามสแควร์” พร้อมปรับพื้นที่รองรับกำลังซื้อต่อเนื่อง ชู 3 พื้นที่ใหม่สร้างรายได้เพิ่มใน 3 ปี พร้อมปรับสยามสแควร์วันสู่ภาพลักษณ์ที่สนุกขึ้น ล่าสุดส่ง 4 แคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อในครึ่งปีหลัง คาดทั้งปีรายได้ทรงตัวเท่าปีก่อน
นายบุญส่ง ศรีสว่างเนตร ผู้อำนวยการ สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรองประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจสยามสแควร์ เปิดเผยว่า ในช่วง 3-4 ปีนี้ทางกลุ่มธุรกิจสยามสแควร์รายได้จะยังทรงตัว เช่นเดียวกับสิ้นปีนี้ที่มองว่าจะมีรายได้ทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมค้าปลีกในครึ่งปีหลังมองว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น เห็นได้จากบรรยากาศร้านค้าในศูนย์การค้าสยามสแควร์วันดีขึ้น มีทราฟฟิกกว่า 80,000 คนต่อวัน 70% เป็นคนไทยและ 30% เป็นต่างชาติ โดยพบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนจีนนิยมเข้ามาใช้บริการสูง ส่วนยอดการใช้จ่ายต่อบิลอยู่ในหลัก 200-300 บาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มธุรกิจสยามสแควร์วันกำลังมีการศึกษามาสเตอร์แพลนโดยให้ทาง UDCC เป็นผู้ดูแลความเป็นไปได้ในการพัฒนาพื้นที่ฝั่งสวนหลวงสามย่านซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 300 ไร่ ให้กลายเป็นเมืองใหม่ สู่อนาคตพื้นที่ทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในศตวรรษที่2 ภายใต้คอนเซ็ปต์โซเชียล-เอดูเคชัน ที่รวบรวมสถานที่ในการเรียนรู้ โดยการนำเอาความรู้จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาใช้ได้จริง ซึ่งกำลังศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ เช่น มิวเซียม โรงละคร และอินโนเวชันต่างๆ คาดว่าจะสรุปแผนได้ภายใน 6 เดือนหลังจากนี้ และใน 7 ปีภายหลังจากโครงการในพื้นที่หมดสัญญาลงจึงจะเริ่มดำเนินการได้
“ปัจจุบันในส่วนของพื้นที่สวนหลวงสามย่านมีพื้นที่ที่กำลังดำเนินการไปแล้ว เช่น อุทยานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 100 ปี พื้นที่ 40 ไร่, โครงการสวนหลวงสแควร์ แล้วเสร็จ 70% บนพื้นที่ 10 ไร่, โครงการไบค์&รัน พื้นที่ 15 ไร่ ครอบคลุม 180 คูหา บริเวณหัวมุมฝั่งตรงข้ามเทสโก้ โลตัส พระราม 1 ที่กำลังจะเปิด TOR ถึงสิ้น ส.ค.นี้ และมีผู้สนใจยื่นซองประมูลอย่างน้อย 2 รายแล้ว รวมถึงสกายวอล์ก เส้นทางสนามกีฬาฯ ไปจนถึงหน้าอาคารคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ทั้งนี้ มองว่าโครงการเมืองใหม่แห่งนี้จะต้องใช้งบลงทุนค่อนข้างสูง เพราะจะต้องลงลึกในรายละเอียดระดับอินฟราสตรักเจอร์ที่ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขได้ในขณะนี้”
ทั้งนี้ หลังจากมาสเตอร์แพลนฝั่งสวนหลวงสามย่านเรียบร้อย ทางฝั่งสยามก็จะมีการศึกษามาสเตอร์แพลนเป็นลำดับต่อไป โดยในฝั่งนี้จะมีความเป็นคอมเมอร์เชียลมากกว่า ขณะที่แผนดำเนินการในปัจจุบันจะมีการทยอยเปิดโครงการพัฒนาใหม่ๆ ขี้นมาเพิ่มเติมอย่างน้อย 3 ส่วน คือ 1. ฝั่งโบนันซ่า รีโนเวตเป็นรีเทลและสำนักงานออฟฟิศ อาคารสูงราว 30 ชั้น พื้นที่รวม 50,000 ตารางเมตร ขนาด 4 ไร่ ขณะนีอยู่ในช่วงวางคอนเซ็ปต์ และน่าจะก่อสร้างได้ภายใน 1-2 ปีนี้
2. โรงแรมในส่วนของพื้นที่สยามกิตติ์ ขนาด 500 ห้อง 30 ชั้น ราคาที่พักราว 3,000 บาท/คืน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้หลัง ส.ค.ปีหน้า และ 3. สามย่านมิดทาวน์ ทางฝั่งสวนหลวงสามย่าน โดยทั้ง 3 โครงการจะเริ่มทำรายได้เข้ามาใน 3 ปีหลังจากนี้
ในส่วนของศูนย์การค้าสยามสแควร์วันจะมีการปรับพื้นที่ภายในเพิ่มเติม เช่น การต่อเติมในส่วนหลังคาเพื่อกันฝน, ปรับบันไดเลื่อนให้เหมาะแก่ทราฟฟิก รวมถึงปรับพื้นที่ชั้น LG เพิ่มคู่ค้าใหม่อย่างร้าน อีฟ แอนด์ บอย และโซนเกม เพื่อทำให้คาแรกเตอร์ของทางศูนย์ฯ มีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยผู้เช่าเดิมที่ต่อสัญญาจะถูกย้ายขึ้นมาอยู่ชั้น 1 แทน เป็นต้น
นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 นี้ทางกลุ่มยังได้เตรียมจัด 4 แคมเปญใหญ่ กระตุ้นกำลังซื้อครอบคลุมทั้ง 3 ส่วนพื้นที่ของกลุ่มธุรกิจสยามสแควร์ คือ สยามสแควร์, สยามสแควร์วัน และสยามกิตติ์ โดยร่วมกับผู้ประกอบการร้านอาหาร สถาบันความงาม ธุรกิจแฟชั่น กว่า 300 ร้านค้า และธนาคาร ประกอบด้วย 1. DINING @ Siam Square ระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย. 2559 2. Beauty Fairs @ Siam Square ตลอดเดือน ก.ย.นี้ 3. Siam Denim ตลอดเดือน ต.ค.นี้ และ 4. Siam Square Spectacular Year End ตลอดช่วงเทศกาลส่งท้ายปี 2559 คาดว่าการจัดแคมเปญดังกล่าวจะมีกลุ่มผู้ใช้บริการภายในสยามสแควร์ ประมาณ 120,000-150,000 คน/วัน และคาดว่าจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น 15-20%
--
