xs
xsm
sm
md
lg

ดีเบตยกสองรังสีอำมหิตอวลเวที โพลชี้ “คลินตัน” ยังเหนือกว่า “ทรัมป์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรครีพับลิกัน แสดงท่าทีรับฟังขณะผู้สมัครของพรรคเดโมแครต ฮิลลารี คลินตัน ตอบคำถามของผู้ชม ในระหว่างการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ของตัวเก็งทั้ง 2 เป็นนัดที่ 2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) ซึ่งคราวนี้จัดแบบ “ทาวน์ฮอลล์” และบรรยากาศดุเดือดอบอวลด้วยความเป็นปรปักษ์กันยิ่งกว่านัดแรก
เอเจนซีส์ - เวทีดีเบตสองตัวเก็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นัดที่ 2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) อบอวลด้วยบรรยากาศความเป็นปรปักษ์ โดยที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าถ้าได้ครองทำเนียบขาวจะจับ ฮิลลารี คลินตัน เข้าคุก แถมเขายังกล่าวหาสามีของเธอเป็นนักลวนลามและล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิง ทางด้านอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งก็ตอบโต้โดยย้ำเรื่อง “คลิปฉาวโวฟาดหญิง” ว่าเปิดโปงให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของทรัมป์ สำหรับโพลด่วนหลังโต้วาทีโชว์วิสัยทัศน์คราวนี้ ระบุให้คลินตันยังคงเป็นฝ่ายชนะ ถึงแม้ผู้สันทัดกรณีมองว่า เธอประคับประคองตัวให้ไม่เพลี่ยงพล้ำ แต่ยังไม่มีการปล่อยหมัด “น็อกเอาต์” ขณะที่ทรัมป์ทำได้ดีกว่านัดแรก

การโต้วาทีนาน 90 นาทีที่จัดขึ้นในคืนวันอาทิตย์ (ตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 10 เวลาเมืองไทย) ที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี บรรยากาศเต็มไปด้วยการเชือดเฉือนตอบโต้กันอย่างไร้ความปรานี โดยที่ตั้งแต่ต้นเลยทั้งคู่ไม่ยอมจับมือกัน ทรัมป์ ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังเรียก ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตว่า “ปีศาจ” ขณะที่อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเรียกทรัมป์ว่า พวกล่วงละเมิดผู้หญิง

ในเวลาที่การหาเสียงของเขากำลังตุปัดตุเป๋เต็มทีและคะแนนนิยมตก ทรัมป์ได้กล่าวขอโทษเรื่อง “การคุยเล่นในห้องล็อกเกอร์เปลี่ยนเครื่องแต่งตัว” ที่เขาโอ้อวดด้วยคำพูดหยาบโลนในเรื่องการใช้สิทธิเป็น “คนดัง” เข้าจูบลูบคลำสาวๆ และการมีเพศสัมพันธ์แม้กระทั่งกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ทั้งนี้เขาพูดเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2005 แต่เพิ่งถูกนำคลิปออกมาแฉในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทรัมป์ยืนยันว่า เขาไม่เคยบังคับใจผู้หญิง พร้อมกับเปรียบเทียบว่าตัวเขาเองอาจผิดที่คำพูด แต่อดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน สามีของฮิลลารี ผิดที่การกระทำเพราะเคยล่วงละเมิดผู้หญิงหลายต่อหลายคน

เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์วัย 70 ปี ยังขู่ว่า ถ้าชนะเลือกตั้งจะสั่งให้รัฐมนตรียุติธรรมตั้งอัยการพิเศษตรวจสอบคลินตันที่ในใจมีแต่ความชิงชังรังเกียจ และสร้างเรื่องโกหกไว้มากมาย โดยเฉพาะกรณีการใช้อีเมลและเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในปี 2009-2013

ฝ่ายอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศตอบโต้คู่แข่งที่กำลังย่ำแย่ขณะที่วันเลือกตั้งกำลังจะมาถึงในอีกไม่ถึงเดือนว่า คลิปการพูดจาลามกดูหมิ่นผู้หญิงของทรัมป์ที่สื่อเพิ่งนำออกเผยแพร่ เปิดโปงให้เห็นตัวตนจริงๆ ของทรัมป์ และว่า ช่างดีเหลือเกินที่คนที่มีภาวะอารมณ์แบบทรัมป์ไม่ได้เป็นผู้นำประเทศ ซึ่งถูกอดีตพิธีกรเรียลิตีโชว์ปากเปราะสวนกลับทันควันว่า “เพราะคุณคงติดคุกอยู่ไง”
โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรครีพับลิกัน แสดงท่าทีรับฟังขณะผู้สมัครของพรรคเดโมแครต ฮิลลารี คลินตัน ตอบคำถามของผู้ชม ในระหว่างการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ของตัวเก็งทั้ง 2 เป็นนัดที่ 2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) ซึ่งคราวนี้จัดแบบ “ทาวน์ฮอลล์” และบรรยากาศดุเดือดอบอวลด้วยความเป็นปรปักษ์กันยิ่งกว่านัดแรก
คลินตันยังกล่าวหาทรัมป์ว่า เลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนโยบาย เพราะกลัวถูกพาดพิงถึงการรณรงค์หาเสียงของตัวเองที่กำลังมีปัญหาหนัก เนื่องจากการกระทำสารพัดสารพันของตัวทรัมป์เองที่ทำให้ผู้อาวุโสในพรรครีพับลิกันจำนวนหลายสิบคนประกาศตีจาก

ทรัมป์ได้กล่าวหาผู้ดำเนินรายการทั้ง 2 คน ว่ามีอคติ และรวมหัวกับคลินตันกลุ้มรุมตน

ทว่า คลินตัน วัย 68 ปี ไม่หลงกล แต่กลับวางกับดักหลอกล่อทรัมป์เหมือนในการดีเบตครั้งแรก โดยยั่วให้เขายอมรับว่าอาศัยช่องทางตามกฎหมาย จึงไม่ได้จ่ายภาษีให้รัฐมาราว 2 ทศวรรษจริงตามที่นิวยอร์กไทมส์แฉ

ในวันอาทิตย์ (9) ก่อนหน้าการโต้วาทีนัดที่ 2 นี้ไม่นานนัก ทรัมป์ได้จัดการแถลงข่าวเพื่อแนะนำผู้หญิงหลายคนที่กล่าวหาว่า ถูก บิลล์ คลินตัน ล่วงละเมดทางเพศและข่มขืน เรื่องราวของสตรีเหล่านี้ได้เคยเป็นข่าวมาแล้ว และแม้บางรายมีการประนีประนอมยอมความโดยที่คลินตันตกลงจ่ายเงินให้ ทว่าไม่มีรายใดที่มีการระบุชัดเจนว่าเขากระทำความผิด เห็นกันว่าการจัดแถลงข่าวเช่นนี้เป็นกลยุทธ์อีกอย่างหนึ่งของทรัมป์ในการหาทางปลดปล่อยตัวเองให้หลุดพ้นจากคลิปฉาวโวฟาดหญิง ทั้งนี้หลังการแถลงข่าวแล้ว ทรัมป์ยังเชิญพวกเธอเหล่านี้ไปร่วมฟังการโต้วาทีด้วย

ทว่า หลังการดีเบต ผู้นำรีพับลิกันหลายคนยังคงแสดงความกังวลว่า ทรัมป์ไม่ได้แสดงอาการสำนึกผิดมากเพียงพอต่อเรื่องคลิปฉาว เพื่อเอาชนะใจผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ไม่ฝักใฝ่พรรคใดและโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ออกเสียงที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นกลุ่มที่อาจชี้ขาดผลการเลือกตั้งในวันที่ 8 เดือนหน้า

ขณะเดียวกัน อิริก โฮลเดอร์ อดีตรัฐมนตรียุติธรรมสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ออกมาวิจารณ์ว่า อเมริกาไม่มีธรรมเนียมการข่มขู่ว่า จะจับคู่แข่งทางการเมืองยัดเข้าคุก แต่ทรัมป์กลับให้สัญญาว่า จะใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อทำสิ่งนั้น

แม้แต่สมาชิกรีพับลิกันบางคน อาทิ อารี ไฟลเชอร์ อดีตโฆษกทำเนียบขาวสมัยจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ยังวิจารณ์ว่า ทรัมป์ไม่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากผู้สมัครที่ชนะไม่ควรขู่จับคู่แข่งเข้าคุก

อย่างไรก็ตาม สำหรับไมค์ เพนซ์ ผู้ว่าการรัฐอินดีแอนา และผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับทรัมป์ ทวิตแสดงความยินดีว่า ทรัมป์เป็นผู้ชนะในการโต้วาที ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเพื่อตอบโต้ข่าวลือที่ว่า เขาอาจถอนตัวจากการเลือกตั้งเนื่องจากรับไม่ได้กับคลิปฉาวของทรัมป์

รวมทั้งในระหว่างการโต้วาทีเมื่อวันอาทิตย์ มีช่วงหนึ่งที่ทรัมป์ยอมรับว่า ไม่ได้คุยกับเพนซ์ และยืนยันว่า ตนไม่เห็นด้วยที่เพนซ์ประกาศระหว่างโต้วาทีกับทิม เคน คู่แข่งจากเดโมแครตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อเมริกาควรเตรียมพร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารในซีเรีย

การโต้วาทีครั้งนี้ซึ่งจัดแบบการประชุมชี้แจงในศาลาประชาคม (ทาวน์ฮอลล์) ซึ่งผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจจะเป็นผู้เสนอคำถามครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งเป็นคำถามจากผู้ดำเนินรายการ นอกจากนั้น แคนดิเดตยังสามารถเดินไปมาบนเวทีและตอบคำถามกับผู้ถามโดยตรง
โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรครีพับลิกัน พูดใส่ผู้สมัครของพรรคเดโมแครต ฮิลลารี คลินตัน ในระหว่างการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ของตัวเก็งทั้ง 2 เป็นนัดที่ 2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) ซึ่งคราวนี้จัดแบบ “ทาวน์ฮอลล์” และบรรยากาศดุเดือดอบอวลด้วยความเป็นปรปักษ์กันยิ่งกว่านัดแรก
ผู้สมัครทั้งคู่ยืนตอบคำถาม แต่คลินตันมักเดินไปยืนหน้าคนถามเพื่อพยายามเข้าถึงผู้มีสิทธิออกเสียง ขณะที่ทรัมป์ยืนค้ำไหล่คลินตันหลายครั้ง หรือไม่ก็เดินไปทั่วเวทีขณะที่คลินตันพูด

คลินตันมีโอกาสอีกครั้งในการแก้ตัวเรื่องที่เคยเรียกผู้สนับสนุนทรัมป์ว่า ครึ่งหนึ่งเป็นพวกที่น่าสังเวช โดยบอกว่า ตอนนั้นเธอออกมาขอโทษเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว และยืนยันว่า เธอไม่ได้มีปัญหากับผู้สนับสนุนทรัมป์ แต่มีปัญหากับตัวทรัมป์

ก่อนจบรายการ ทั้งคู่ถูกขอให้พูดถึงข้อดีของคู่แข่ง คลินตันบอกว่า เธอเคารพลูกๆ ของทรัมป์ และความสามารถและการอุทิศตนของพวกเขาให้แก่ทรัมป์ ส่วนทรัมป์ตอบว่า เขาชื่นชมฮิลลารีที่เป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ นอกจากนั้นก่อนลงจากเวที ทั้งคู่ยังหันมาจับมือกันส่งท้าย

ทางด้านโพลที่ซีเอ็นเอ็น/โออาร์ซีจัดทำขึ้นทันทีหลังจบดีเบตพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 57% คิดว่า คลินตันชนะ มีเพียง 34% ที่เห็นว่า ทรัมป์ชนะ ขณะที่หุ้นในตลาดเอเชียกระเตื้องขึ้นและเงินเปโซเม็กซิโกแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนมองว่า มีโอกาสน้อยมากที่ทรัมป์จะได้เข้าสู่ทำเนียบขาว

ทว่าการสำรวจของสำนักยูกอฟกลับพบว่าคลินตันไม่ได้ชนะแบบขาดลอยถึงขนาดนั้น โดยที่ 47% ของผู้ลงทะเบียนว่าจะไปออกเสียงซึ่งชมรายการดีเบตนี้กล่าวว่าเธอชนะ อีก 42% บอกว่าทรัมป์มีชัย ที่เหลือเห็นว่าเสมอกัน

ในการโต้วาทีนัดแรกนั้น ผู้ชมจำนวนมากกว่านี้เห็นว่าอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 เป็นผู้ชนะ โดยที่ ผลสำรวจทันทีทันควันของ ซีเอ็นเอ็น/โออาร์ซี ออกมาว่า ผู้ที่เห็นว่าคลินตันชนะมี 62%

สำหรับความเห็นของผู้สันทัดกรณี แลร์รี ซาบาโต ผู้อำนวยการของศูนย์เพื่อการเมือง แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนัย ทวิตว่า “ทรัมป์ทำได้ดีเพียงพอที่จะหยุดเลือดที่กำลังไหลออกของรีพับลิกัน”

ทว่า ดังเต สคาลา อาจารย์รัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยนิวแฮมป์เชียร์ บอกว่า เขายังสงสัยข้องใจว่าทรัมป์จะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้หรือไม่

“ผมยังมองไม่เห็นว่าคืนนี้จะเพียงพอทำให้สิ่งต่างๆ กลับเปลี่ยนไปในทางดีขึ้นมา” สคาลา กล่าว “ข่าวที่ปรากฏออกมาในช่วง 48 ชั่วโมงหลังๆ นี้ จะยังคงตรึงติดอยู่ภายในความคิดของผู้ออกเสียง และผมไม่แน่ใจหรอกว่าการดีเบตคราวนี้ในตัวมันเองจะเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงเส้นทางโคจรของการแข่งขันคราวนี้”

ส่วน สตีเวน สมิธ อาจารย์รัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน บอกว่า ทรัมป์กำลังแสดงให้เห็นว่าเขามีความตระหนักเป็นอย่างดีว่าอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ยากลำบาก

“เขากลับไปเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ คนเก่า เขาดูเหมือนกลับไปเป็นทรัมป์ในช่วงการเลือกตั้งขั้นต้นเมื่อกลางฤดูหนาวและฤดูใบไม้ร่วง แต่ผมคิดว่านี่เป็นความพยายามที่จะปรับฐานให้แข็งแรง เพื่อปลุกใจบรรดาผู้สนับสนุนเขา เพื่อหยุดเลือดที่กำลังไหล และเพื่อหยุดยั้งไม่ให้การลงแข่งขันของเขาต้องมีอันแตกหักกระจัดพลัดพราย

ในส่วนของคลินตัน สมิธมองว่า เธอ “นำหน้าในผลโพลของสำนักต่างๆ และบางทีคืนนี้เธอก็สามารถประคับประคองไม่ให้ตัวเองได้รับความเสียหายอะไร”

สำหรับการโต้วาทีครั้งต่อไปซึ่งเป็นนัดสุดท้ายจะมีขึ้นในวันที่ 19 เดือนนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น