xs
xsm
sm
md
lg

InClip : นิวสวีกแฉ “โดนัลด์ ทรัมป์” ทำผิดกฎหมายสหรัฐฯ แอบลักลอบติดต่อการค้ากับเผด็จการคิวบา “ฟิเดล คาสโตร”!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ในการเปิดเผยของนิวสวีกล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) ตัวแทนผู้สมัครพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรทางการค้ากับคิวบายุคปี 90 ทุ่มเงิน 68,000 ดอลลาร์ว่าจ้าง บ.ที่ปรึกษา เซเวน แอร์โรวส์ อินเวสเมนต์ แอน เดเวลอปเมนต์ คอร์ป (Seven Arrows Investment and Development Corp) ที่ถูกนิวสวีกเรียกว่า “คาสโตรคอนเนกชัน” เพื่อหวังเปิดช่องทางทำธุรกิจโรงแรมและกาสิโนในคิวบา ภายใต้รัฐบาลผู้นำเผด็จการ ประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร หากรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมผ่อนคลายมาตรการปิดล้อมทางการค้า สั่นสะเทือนการเมืองรัฐฟลอริดา และพรรครีพับลิกัน อดีตคู่แข่ง ส.ว.รัฐฟอลริดา มาร์โก รูบิโอ เชื้อสายคิวบา ประกาศ “การแฉของสื่อนิวสวีกล่าสุดเป็นปัญหา” ส่วนผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ริก สกอตต์ อ้าง “ยังไม่ได้อ่านจากนิวสวีก”

หนังสือพิมพ์ไมอามีเฮอรัลด์รายงานเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) ว่า หลังการเปิดเผยของนิตยสารนิวสวีกในวันพฤหัสบดี (29) ถึง “คาสโตรคอนเนกชัน” และความเป็นไปได้ที่ตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน “โดนัลด์ ทรัมป์” จะทำผิดกฎหมายว่าด้วยการปิดล้อมทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และคิวบาในช่วงปียุค 90 สั่นสะเทือนการเมืองของรัฐฟลอริดาอย่างรุนแรง และรวมไปถึงพรรครีพับลิกัน โดยเฉพาะสมาชิกสภาคองเกรสเชื้อสายคิวบาในฝั่งพรรครีพับลิกันต้องออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยต่างอ้างว่ารายงานที่เกิดขึ้นยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ต้องออกมาปฏิเสธการสนับสนุนทรัมป์ ตัวแทนอย่างเป็นทางการของพรรค

ในขณะที่อดีตคู่แข่ง ส.ว.รัฐฟอลริดา มาร์โก รูบิโอ ที่มีเชื้อสายคิวบา ประกาศ “การแฉของสื่อนิวสวีกล่าสุดเป็นปัญหา”

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของนิวสวีกพบว่า เอกสารแสดงให้เห็นว่าบริษัท ทรัมป์ โฮเทลส์ แอนด์ กาสิโน รีสอร์ตส์ (Trump Hotels & Casino Resorts) ได้ใช้เงิน 68,000 ดอลลาร์ ในการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา เซเวน แอร์โรวส์ อินเวสเมนต์ แอนด์ เดเวลอปเมนต์ คอร์ป (Seven Arrows Investment and Development Corp) ที่ถูกนิวสวีกเรียกว่า “คาสโตรคอนเนกชัน” เพื่อหวังเปิดช่องทางทำธุรกิจโรงแรมและกาสิโนในคิวบาที่อยู่ภายใต้รัฐบาลของผู้นำเผด็จการ ประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร หากรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร

โดยในการเปิดเผยของนิวสวีกได้ชี้ว่า ในการรับรู้ของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ทางผู้บริหารของทรัมป์ไม่ได้ใช้เงินกับคิวบาโดยตรง เพราะตามกฎหมายรัฐบาลกลางในสหรัฐฯ ขณะนั้นระบุว่า ห้ามไม่ให้มีการใช้เงินแม้แต่เพนนีเดียวในการติดต่อธุรกิจกับคิวบา แต่บรรดาผู้บริหารเหล่านี้ได้แอบหว่านเม็ดเงินสำหรับทริปธุรกิจการเดินทางไปคิวบา ผ่านบริษัทที่ปรึกษา

ซึ่งเมื่อตัวแทนที่ปรึกษาทางธุรกิจจากบริษัท เซเวน แอร์โรวส์ อินเวสเมนต์ แอน เดเวลอปเมนต์ คอร์ป เดินทางไปถึงเกาะคิวบา และได้มีการใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจเกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่อาวุโสของทางบริษัทที่ปรึกษาร่วมกับบริษัททรัมป์ ได้ชี้นำให้ทางบริษัท ทรัมป์ โฮเทลส์ แอนด์ กาสิโน รีสอร์ตส์ ทำให้เงินก้อนนี้ดูถูกกฎหมายสหรัฐฯ ด้วยการระบุว่า “เพื่อการกุศล”

โดยในช่วงที่ทางบริษัทที่ปรึกษาได้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากบริษัทของทรัมป์ ทางเซเวน แอร์โรวส์ อินเวสเมนต์ แอนด์ เดเวลอปเมนต์ คอร์ป ซึ่งอ้างอิงมาจากการเปิดเผยของนิวสวีก ได้ระบุให้ทางทรัมป์ใช้ คารินาส คิวบา (Carinas Cuba) เพื่อบังหน้า โดยอ้างว่าเป็นการกุศล เพื่อเป็นหลักฐานอ้างต่อรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ขอรับใบอนุญาตหลังการเดินทางจากสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างแดน OFAC (U.S. Office of Foreign Asset Control) แต่ทว่ากลับพบว่า ทางหน่วยงานไม่ยอมออกใบอนุญาตให้ เพราะทางบริษัทได้เดินทางไปยังคิวบาก่อนหน้านี้แล้ว และอีกทั้งหน่วยงานการกุศลคาทอลิกที่ถูกต้องคือ คาริตาส คิวบา (Caritas Cuba) ไม่ใช่คารินาส คิวบา อย่างที่เข้าใจ

ในรายงานยังระบุต่อว่า การจ่ายเงินของบริษัท ทรัมป์โฮเทลส์ เกิดขึ้นไม่นานก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะเริ่มต้นลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งแรก เพื่อต้องการเป็นตัวแทนของพรรคปฏิรูปอเมริกา (Reform Party) ในขณะนั้น

ไมอามีเฮอรัลด์ชี้ต่อว่า ทั้งนี้ในแถลงการณ์ของ ส.ว.รูบิโอ ที่ก่อนหน้าการดีเบตครั้งแรกระหว่างทรัมป์และฮิลลารี คลินตัน เขาได้ออกมาประกาศตัวสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเป็นทางการ ระบุว่า “การเปิดเผยชองนิวสวีกเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงและซับซ้อน” และเสริมต่อว่า “ผมจะยังขอสงวนการให้ความเห็นไว้จนกว่าเราจะรับรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด และโดนัลด์ได้รับโอกาสให้มีการตอบโต้ข้อกล่าวหานี้”

ในขณะที่ มาริโอ ดิแอซ-บาลาร์ต (Mario Diaz-Balart) ส.ส.รัฐฟลอริดาจากพรรครีพับลิกันอีกรายซึ่งมีจุดยืนในการสนับสนุนกฎหมายคว่ำบาตรทางการค้าในตลอดช่วงชีวิตการเมืองของเขา ได้ออกมาส่งเสียงในทำนองเดียวกับรูบิโอ โดยกล่าวเพียงว่าในขณะนี้ยังให้โอกาสแก่ทรัมป์ในฐานะที่ความจริงทุกด้านยังไม่ถูกเปิดเผย “สิ่งที่เรามีอยู่ในมือขณะนี้คือ แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ” และย้ำกับบรรดานักข่าวว่า การรายงานของนิตยสารนิวสวีคนั้น “เป็นแค่เพียงการรายงานเบื้องต้นเท่านั้น” และ “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรู้ว่าข้อเท็จจริงนั้นเป็นเช่นใด”

หนังสือพิมพ์รัฐไมอามีรายงานต่อว่า ในการให้สัมภาษณ์ในคืนวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.) กับสถานีโทรทัศน์รัฐนิวแฮมป์เชียร์ NH1 จากการเปิดเผยของสื่อการเมืองสหรัฐฯ โพลิติโก โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาปฏิเสธต่อการรายงานเปิดเผยของนิวสวีก โดยระบุว่า “ผมไม่เคยทำธุรกิจในคิวบา นี่เป็นผู้ชายที่มีชื่อเสียงในทางที่แย่มากในฐานะนักข่าว และคุณได้เห็นถึงสิ่งเขาได้กระทำ เขาได้เขียนถึงผมในคิวบา”

และทรัมป์ยังปฏิเสธต่อว่า “ไม่ ผมไม่เคยทำสิ่งใดในคิวบา ผมไม่เคยมีข้อตกลงในคิวบา”

และการออกมาปฏิเสธการรายงานข่าวของนิวสวีกทำให้คู่แข่งทางการเมือง ฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตได้ออกมาโจมตีทรัมป์ต่อในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า นี่เป็นการเปิดเผย “รูปแบบ” ของการทำให้การสื่อสารมีความสลับซับซ้อนเพื่อผลประโยชน์ในการเจรจาตกลงทางธุรกิจของทรัมป์ ซึ่งคลินตันมีกำหนดที่จะไปเยือนเมืองคอรัล สปริงส์ (Coral Springs) ในวันนี้ (30 ก.ย.) และจากโพลสำรวจที่ออกมาพบว่า คะแนนของเธอและคู่แข่ง ทรัมป์ สูสีคู่คี่กันมากในรัฐฟลอริดา รัฐสวิงโหวตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

โดยคลินตันได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า “เราได้รู้เกี่ยวกับรายงานการเสียภาษีของเขาที่ทางโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาปฏิเสธที่จะเปิดเผยสู่สาธารณะ และในวันนี้ เราได้รู้เกี่ยวกับความพยายามของเขาในการที่จะทำธุรกิจในคิวบา ซึ่งดูเหมือนจะขัดต่อกฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และแน่น่อนต่อนโยบายต่างประเทศของอเมริกา”

นิวสวีกรายงานเพิ่มเติมในประเด็นการเปิดเผยว่า ผู้จัดการหาเสียงของทรัมป์ เคลแยนน์ คอนเวย์ (Kellyanne Conway) ได้ตอบข้อซักถามในรายการเดอะวิวว่า “พวกเขาจ่ายเงิน ซึ่งดิฉันเข้าใจว่าในปี 1998” และในแถลงการณ์ที่ออกมาหลังจากนั้น คอนเวย์ยังยอมรับว่า ทรัมป์ได้ละเมิดกฎหมายในการจ่ายเงินเพื่อทริปทางธุรกิจและการพบปะในคิวบา ไม่ว่าผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นทางด้านการลงทุนเพิ่มเติมหรือข้อตกลงทางธุรกิจกาสิโนจะเป็นเช่นใดก็ตาม ***นี่ถือได้ว่าเป็นการละเมิดต่อกฎหมายสหรัฐฯ อย่างตรงไปตรงมา***

ในขณะที่แหล่งข่าวอดีตผู้บริหารระดับสูงของทรัมป์ได้ออกมายอมรับกับสื่อนิวสวีกว่า ทางบริษัทของทรัมป์ไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนการเดินทาง ซึ่งเอกสารภายในที่ทางสื่อนิวสวีกได้มาชี้ว่า ทางฝ่ายผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์คิวบายังคง “ถกเถียง” ในเรื่องความจำเป็นที่ต้องขออนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากการเดินทางได้เกิดขึ้นไปแล้ว

หนังสิอพิมพ์ไมอามีเฮอรัลด์รายงานเพิ่มเติมว่า แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งทรัมป์ และริชาร์ด ฟิลด์ส (Richard Fields) ผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษาเซเวน แอร์โรวส์ อินเวสเมนต์ แอนด์ เดเวลอปเมนต์ คอร์ป ยอมออกมาตอบข้อซักถามของสื่อนิวสวีกในรายงานดังกล่าว
อ้างอิงจากการรายงานของนิวสวีควันพฤหัสบดี(29)











กำลังโหลดความคิดเห็น